Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ทำไมนักสิ่งแวดล้อมไม่ปลื้ม MoU แร่สำคัญไทย-สหรัฐฯ เปิดข้อไม่ไว้วางใจ
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ทำไมนักสิ่งแวดล้อมไม่ปลื้ม MoU แร่สำคัญไทย-สหรัฐฯ เปิดข้อไม่ไว้วางใจ

2 ธ.ค. 68
17:06 น.
แชร์

นับตั้งแต่รัฐบาลไทยภายในการนำของนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยแร่หายากของโลก หรืออีกชื่อคือ “แร่สำคัญ” ภาคประชาสังคม นักวิชาการ และนักสิ่งแวดล้อมก็ออกมาแสดงความกังวลต่อการตัดสินใจข้อนี้ แม้ว่ารัฐบาลจะชี้ว่า นี่คือโอกาสสำคัญที่จะทำให้ไทยกลับมามีตัวตนในเวทีโลก

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ 27 องค์กร และนักปกป้องสิทธิ รวมตัวกันแสดงเจตจำนงคัดค้านยุทธศาสตร์ข้อนี้อีกครั้ง ภายใต้กิจกรรม “Thailand Is Not Yours: ปฏิบัติการหยุดดีลลับแร่ธาตุสำคัญ MOU ไทย–สหรัฐฯ” 

ตัวแทนองค์กรรวมตัวกันที่ประตู 1 หน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อเวลา 10.00 น. เพื่อยื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกุล คัดค้านบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญระหว่างรัฐบาลไทย–สหรัฐฯ (MOU แร่ธาตุสำคัญ) ซึ่งลงนามเมื่อ 26 ตุลาคม 2568 ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

ประชาชนและองค์กรบางส่วนสวมใส่เสื้อสีเขียว และชูป้ายต่อต้าน MoU อาทิ “Thailand is not for sale” “แผ่นดินนี้เป็นของประชาชน” หรือ “Trump always chicken out” ในช่วงท้ายมีการแสดงละครเสียดสีในชื่อ “สิ่งที่ซ่อนเร้นใน MOU” สะท้อนผลกระทบของแร่เหมืองต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงเหมืองอื่น ๆ คือแร่โปแตชในด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งกำลังก่อผลกระทบอย่างหนัก

เพราะอะไรนักสิ่งแวดล้อม-ประชาชนไม่ปลื้ม MoU แร่หายาก?

เครือข่ายชี้ว่า MoU แท้จริงมีผลผูกพันธ์

ตัวแทนรัฐบาลจะย้ำอยู่เสมอว่า MoU แร่หายากไม่มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมาย ไทยสามารถเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ และเขียนให้อยู่บนผลประโยชน์ของไทยเป็นที่ตั้ง แต่ในแถลงการณ์ของเครือข่ายฯ อ้างว่า รายละเอียดของเนื้อหามุ่งเน้น “ผลประโยชน์การค้าและการลงทุน” 

“ในเมื่อ MOU ดังกล่าวมีผลผูกพันให้รัฐบาลไทยต้องปฏิบัติตามแล้ว ซึ่งในเนื้อหารายละเอียดล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ต้องผลักดันขับเคลื่อนให้เกิดผลในทางปฏิบัติเพื่อให้บังเกิดผลประโยชน์ต่อการค้าการลงทุน จึงเป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่มีผลผูกพันระหว่างประเทศ ต่อให้ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบภายในของแต่ละประเทศก็ตาม” เครือข่ายกล่าวในแถลงการณ์

การดำเนินการเป็นไปอย่าง “ลับๆ ล่อๆ”

เครือข่ายชี้ว่า การตัดสินใจทำข้อตกลงดังกล่าวเกิดจาก การประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568 โดยมีนายกรัฐมนตรี รองนายกฯ และรัฐมนตรีเพียง 7 กระทรวงเท่านั้น

เครือข่ายชี้ว่า ผลกระทบผูกพันจาก MoU กระทบต่อประชาชน จึงควรจะดำเนินการอย่างเปิดเผย และโปร่งใส

อำนาจสูง ความรับผิดชอบต่ำ สร้างห่วงโซ่ฯ สกปรก

เครือข่ายชี้ว่า MoU จะดำเนินการตามหลักกฎหมายพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นกฎหมายที่เครือข่ายมองว่า มีอำนาจรัฐและอำนาจทุนฝังตัวอยู่มากเกินไป และมีความรับผิดชอบของบุคลากรและองค์กรที่เป็นผู้บังคับใช้กฎหมายต่ำเกินไป จึงเกิดลักษณะ “อำนาจสูง ความรับผิดชอบต่ำ” 

ข้อนี้เครือข่ายชี้ว่า ปรากฎในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในประเทศไทยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งล้วนกลายเป็น “อุตสาหกรรมสกปรก” 

“บ้านเมืองเราสามารถสำรวจและทำเหมืองแร่ให้ดีได้ แต่ด้วยลักษณะดังกล่าวของกฎหมาย จึงไม่มีเหมืองใดเลยที่เคยทำมาและที่กำลังดำเนินการอยู่ สามารถแก้ไขปัญหาและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้” เครือข่ายกล่าว

ผลได้ไม่คุ้มเสีย

เครือข่ายอธิบายว่า เข้าใจเจตนารมณ์ว่า ไทยต้องการเปิดประเทศรองรับอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากแร่สำคัญตลอดห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่การผลิต จากต้นสู่ปลายน้ำ ทั้งการสำรวจแร่ การทำเหมืองแร่ การแต่งแร่ การทำให้บริสุทธิ์ การผลิตแม่เหล็กความเข้มข้นสูงและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ และการรีไซเคิล 

แต่การดำเนินการในลักษณะนี้ เครือข่ายชี้ว่า ไทยจะกลายเป็นแหล่งรวมและสะสมสารพิษรุนแรง ดังนั้นเมื่อเทียบคุณและโทษ ประชาชนไทยจะเป็นผู้ได้รับผลเสียสูงสุด

“ส่วนสหรัฐฯ จะได้ประโยชน์สูงสุดที่สามารถผลักดันให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมสกปรกนอกผืนแผ่นดินของตน โดยมิต้องรับผิดชอบต่อต้นทุนทางสังคม สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศและสุขภาพของประชาชนบนผืนแผ่นดินของเราแต่อย่างใด” แถลงการณ์กล่าว

เครือข่ายยังชี้ว่า การยกเลิก MoU ข้อนี้ยังเป็นไปได้อยู่ และยกตัวอย่างการยกเลิก MoU ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กับบริษัท Prime Opportunity Fund VCC จากประเทศสิงคโปร์ ที่ปกปิดข้อมูลผู้ถือหุ้นและเจ้าของที่แท้จริง เนื่องจากมีข้อสงสัยว่า บริษัทดังกล่าวน่าจะเป็นเครือข่ายการฟอกเงินดิจิทัลระดับโลกของนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ที่เกี่ยวโยงกับจีนเทา-สแกมเมอร์ ที่ถูกทางการสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ


แชร์
ทำไมนักสิ่งแวดล้อมไม่ปลื้ม MoU แร่สำคัญไทย-สหรัฐฯ เปิดข้อไม่ไว้วางใจ