Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
‘คลองสาม ปทุมธานี’ พลิกโฉมไร่นาไม่กี่แปลง สู่ชุมชนแข็งแรง น่าเที่ยว
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

‘คลองสาม ปทุมธานี’ พลิกโฉมไร่นาไม่กี่แปลง สู่ชุมชนแข็งแรง น่าเที่ยว

1 ต.ค. 68
11:33 น.
แชร์

ทุกสุดสัปดาห์ นักท่องเที่ยวหลายวัยตบเท้ากันเข้ามาที่ ‘ชุมชนคลองสาม จ.ปทุมธานี’ ผู้ใหญ่วัย 50 ขึ้นไปเดินตามร่องสวน ชมพืชผลงาม ๆ พร้อมกับเรียนรู้วิถีเกษตรอินทรีย์ ปลูกผักผลไม้ปลอดสารพิษได้เองโดยไม่ต้องพึ่งเคมี วิทยากรก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคุณป้าคุณลุง ไปจนถึงคุณตาคุณยายวัย 70 ปี ที่พูดจาฉะฉาน ไม่เคอะเขินเมื่อมีแขกมาเยือนเป็นกลุ่มใหญ่

ขณะที่เด็ก ๆ วัยเจนซีและหนุ่มสาววัยทำงานกำลังพักผ่อนฮีลใจ นั่งจิบกาแฟและทำงานฝีมือเบา ๆ แต่ดูเพลิดเพลินอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะการทำเดคูพาจ ลงลวดลายน่ารักบนตะกร้าสาน-หมวกสาน และทำพัดติตตัวจากไม้ไผ่ในชุมชน ไปจนถึงการทำผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ นอกจากจะเป็นการฝึกทำงานประดิษฐ์แบบไทย ๆ แล้ว ยังได้ของฝากกลับบ้านที่มีชิ้นเดียวในโลก หากเหนื่อยเมื่อไรก็พักกินขนมโฮมเมดที่ทำจากกล้วยปลูกเอง หรือเดินเล่นซื้อผักผลไม้ปลอดสารติดไม้ติดมือกลับบ้าน

บรรยากาศแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยบังเอิญ แต่มีเบื้องหลังของผู้คนจากหลายฝ่าย ที่ทั้งทำงานหนักอย่างมุ่งมั่นและตั้งใจ Spotlight ชวนอ่านแนวคิด ‘ผู้นำชุมชนหญิงแกร่ง’ อย่างคุณรุ่งนภา แก้วธรรม หรือที่หลายคนเรียกติดปากกันว่า “กำนันนก” ที่ทำงานใกล้ชิดและร่วมมือกับสถาบันการศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พวกเขาทำอย่างไรจึงสามารถ ‘พลิกโฉมไร่นาไม่กี่แปลง สู่ชุมชนแข็งแรง น่าเที่ยว’

สำรวจชุมชน ค้นขุมทรัมพย์ที่มี

คุณรุ่งนภา แก้วธรรม หรือ กำนันนก ประธานศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง หมู่ที่ 16 ตำบลคลองสาน อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เล่าให้ฟังว่า หากย้อนกลับไปเมื่อ 7 ปีก่อน (พ.ศ. 2561) ตำบลคลองสานเป็นพื้นที่ไร่นาเท่านั้น แต่ละคนมีที่ดินเป็นของตนเอง ซึ่งอยู่ติดขอบชุมชนเมืองที่กำลังขยายตัวเข้ามาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความคิดริเริ่มที่จะเปลี่ยนชุมชนเป็นแหล่งท่องเที่ยวนั้นดูเป็นไปได้ยาก เพราะมองว่าไม่มีทรัพยากรทางธรรมชาติใหญ่ ๆ เช่น น้ำตก ภูเขา ที่จะดึงดูดผู้คนมาเที่ยว

แต่ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวกลับต่างออกไป โดยอาจารย์อัจฉรา ศรีลาชัย อาจารย์ผู้สอนวิชา Community Based Tourism ภาควิชาการจัดการท่องเที่ยว คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กลับมองเห็นถึงขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ 

“จำวันแรกที่พวกเรา (อาจารย์และนักศึกษา) ลงพื้นที่ไปที่ชุมชนได้เลยค่ะ เพราะกำนันนกบอกเราว่าในชุมชนเหลือที่ดินทำการเกษตรน้อยลงทุกที เพราะตั้งอยู่ใกล้กับเมืองที่ขยายตัว บวกกับเราได้เห็นการทำเกษตรอินทรีย์ เห็นไม้ไผ่ มะม่วง เห็นความเขียว ความร่มรื่น และมีการทำขนมตาลในชุมชน เราจึงได้ไอเดียในการทำทัวร์แบบ One-day trip ซึ่งจะทำให้ชุมชนเดินต่อไปได้ค่ะ” อาจารย์อัจฉรากล่าว

อาจารย์อัจฉราเปิดเผยว่า ขั้นตอนในการสร้างชุมชนน่าเที่ยว อันดับแรกและอันดับที่สำคัญที่สุดจะต้องมองหา “สิ่งดี ๆ ในชุมชน” ที่มีอยู่แล้ว การค้นหาขุมทรัพย์ของชุมชน ต้องหาให้เจอว่าพื้นที่ วัตถุดิบ อะไรบ้างที่เป็นอัตลักษณ์ และจะจับสิ่งที่มีอยู่เหล่านี้ชูขึ้นมาให้โดดเด่นได้อย่างไร 

ยั่งยืนได้ เมื่อผู้สนับสนุนปล่อยมือ 

เมื่อในฝั่งชุมชนตอบรับและนำคำแนะนำมาปฏิบัติจริง ผลลัพธ์ที่ได้กลับมานั้น กลายเป็น “ความยั่งยืนในชุมชน” ซึ่งสะท้อนผ่านปัจจัยสำคัญด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะ “ด้านรายได้ในชุมชน” เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ รายได้ของผู้คนในชุมชนก็มีความสม่ำเสมอตามมาเช่นกัน ผักผลไม้ที่ปลูกจากในสวนของแต่ละบ้าน กลายมาเป็นสินค้าล้ำค่าที่วางเรียงรายให้คนนอกชุมชนได้จับจ่าย บางบ้านแปรรูปผลไม้เป็นขนมแสนอร่อย สร้างมูลค่าเพิ่ม ยังไม่นับรวมถึงรายได้จากการทำเวิร์คชอปสนุก ๆ ให้กับนักท่องเที่ยว

อีกประการหนึ่งคือ “ด้านการพัฒนาคนในชุมชน” เหนือกว่ารายได้ที่เข้ากระเป๋าคนในชุมชน คือ Soft Skills ที่ชาวบ้านได้รับ จากคนอยู่บ้านที่เคอะเขินนักท่องเที่ยว กลายเป็นวิทยากรชุมชนที่พูดจาฉะฉาน รับแขกกลุ่มเล็ก-กลุ่มใหญ่ได้ไม่หวั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้กำนันนกรู้สึกภาคภูมิใจ และขณะเดียวกันก็วางใจให้ชาวบ้านดูแลชุมชนกันเองได้ ในวันที่กำนันนกอาจติดงานราชการ และไม่สะดวกต้อนรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ชาวบ้านยังสามารถต่อยอดริเริ่มกิจกรรมอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วยไอเดีย 

อาจารย์อัจฉรากล่าวว่า แม้องค์ประกอบสำคัญคือการสนับสนุนของมหาวิทยาลัยกรุงเทพและโครงการ Education Institute Support Activity จากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่ส่งเสริมกิจกรรมของนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา และส่งผลดีไปยังชุมชนเมื่อโครงการเดินหน้าสำเร็จ “แต่วันใดที่ผู้สนับสนุนปล่อยมือออกจากชุมชน แล้วเขาอยู่กันเองได้ นั่นคือความยั่งยืนที่แท้จริง”

อาจารย์อัจฉรา ศรีลาชัย อาจารย์ผู้สอนวิชา Community Based Tourism ภาควิชาการจัดการท่องเที่ยว คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

นอกจากนี้ ผลลัพธ์ดังกล่าวมีผู้ที่ได้รับประโยชน์ไปด้วยก็คือ “กลุ่มนักศึกษา” จากกระบวนการเรียนรู้นอกห้องเรียน โดยน้องนะโม นายสรศักดิ์ กลับวิลา นักศึกษาวิชา Community Based Tourism มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล่าวว่า การได้ลงพื้นที่จริงทำให้เขาและเพื่อน ๆ ได้รับประสบการณ์อันล้ำค่า เพราะการเรียนเกี่ยวกับ การท่องเที่ยวโดยชุมชน จะเรียนแต่ทฤษฎีในห้องเรียนไม่ได้ 

สูตรสำเร็จ “ท่องเที่ยวโดยชุมชน” ทำได้ทั่วไทย

ดร. ศิวศักดิ์ ปานสุขุม หัวหน้าภาควิชาการจัดการท่องเที่ยว คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพ อธิบายว่า สิ่งสำคัญของ “การท่องเที่ยวโดยชุมชน” Community based tourism - CBT คือทุกคนในชุมชนต้องมีส่วนร่วม และต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม 

ดร. ศิวศักดิ์ ปานสุขุม หัวหน้าภาควิชาการจัดการท่องเที่ยว คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ทั้งนี้ ประเทศไทยนับเป็นประเทศตัวอย่างหรือประเทศต้นแบบของอาเซียนในด้านนี้ เช่น หมู่บ้านคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีธารน้ำไหลผ่านและขึ้นชื่อเรื่องเป็นพื้นที่อากาศบริสุทธิ์ ซึ่งในชุมชนเพิ่มกิจกรรมที่น่าสนใจเข้าไป นั่นคือการเวิร์คชอปทำสบู่ หรือทัวร์เก็บผลผลิตทางการเกษตรของชุมชนในยามเช้า เป็นต้น ขณะที่ประเทศต้นแบบอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่นที่ดึงความเป็นท้องถิ่นมาดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดี รวมถึงประเทศมาเลเซียที่กำลังเดินหน้าเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวโดยชุมชนเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ดร. ศิวศักดิ์มองว่า CBT สอดคล้องกับเทรนด์การท่องเที่ยวในปัจจุบัน นับว่าตอบโจทย์มาก เพราะนักท่องเที่ยวสมัยนี้เฟ้นหาสถานที่ที่แตกต่างและเป็นตัวของตัวเอง เน้นความเป็นเอกลักษณ์มากกว่าที่จะเที่ยวแบบดั้งเดิม ตามแนว Mass tourism ที่ผู้คนมักเดินทางไปที่เดียวกัน จึงเป็นเรื่องดีที่ปัจจุบัน ผู้คนค้นหาอะไรใหม่ ๆ สถานที่ที่คนยังไม่เคยไป บางชุมชนเน้นวิถีชีวิต บางชุมชนเน้นอาหาร ทำให้นักท่องเที่ยวอยากเข้าไปสัมผัสประสบการณ์ สะท้อน nitch market ที่เล็กแต่สะเทือนการท่องเที่ยวเชิงมหภาค

สำหรับปัจจัยที่ทำให้การท่องเที่ยวโดยชุมชนสำเร็จ มีแนวทางคือต้องคำนึกถึงสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม ตามที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว และปัจจัยที่สำคัญที่สุด คือ “ความร่วมมือ” ซึ่งผู้นำชุมชนมีบทบาทสำคัญ ในการทำให้สำเร็จ ขณะเดียวกัน หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการท่องเที่ยวต้องเข้ามาส่งเสริมในทุกกระบวนการ เป็นการทำงานอีกครึ่งทางเพื่อให้ชุมชนได้โดดเด่นขึ้นมา


แชร์
‘คลองสาม ปทุมธานี’ พลิกโฉมไร่นาไม่กี่แปลง สู่ชุมชนแข็งแรง น่าเที่ยว