อินไซต์เศรษฐกิจ

อินเดีย เป้าหมายใหม่สร้างรายได้ท่องเที่ยวไทย เมื่อจีนยังไม่กลับมา

30 พ.ค. 65
อินเดีย เป้าหมายใหม่สร้างรายได้ท่องเที่ยวไทย   เมื่อจีนยังไม่กลับมา
ไฮไลท์ Highlight
 “ไม่อยากเรียกว่านักท่องเที่ยวอินเดีย จะมาแทนที่นักท่องเที่ยวจีน แต่ ณ วันนี้ไม่มีอะไรดีกว่านักท่องเที่ยวอินเดียอีกแล้ว ”  รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สุรวัช อัครวรมาศ บอกกับกองบรรณาธิการของ SPOTLIGHT   

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีทิศทางของการฟื้นตัวมากขึ้น หลังจากเงื่อนไขในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยลดน้อยลง จากการยกเลิกการคัดกรองแบบ Test&Go แต่ความหวังที่จะมีนักท่องเที่ยวจะกลับมาได้ถึง 40ล้านคน ทำรายได้เกือบ3 ล้านล้านบาท อาจยังต้องใช้เวลา โดยในปี2565 นี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยประมาณ 10 ล้านคน ทำรายได้ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท  

ความแตกต่างสำคัญของการท่องเที่ยวไทยก่อนโควิด กับช่วงนี้คือนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญคือ “จีน” ที่ในปี 2562 มากเป็นอันดับ1 ถึง10ล้านคน หายไปจากประเทศไทยและจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีวี่แววที่นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเนื่องจากนโยบายคุมเข้มโควิดของจีน

 

"แต่ข่าวดีคือตลาดนักท่องเที่ยวจาก “อินเดีย”กำลังเป็นตลาดที่มีศักยภาพอย่างมากสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวไทย ซึ่งที่จริงแล้วตั้งแต่ก่อนโควิดมาเยือน กลุ่มคู่รักชาวอินเดียจำนวนมาก นิยมเดินทางเข้ามาแต่งงานในประเทศไทยโรงแรมหลายแห่งทั้งในกรุงเทพ และ เมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตเองก็มีการจัดแพคเกจการแต่งงานให้กับคู่รักชาวอินเดียวอยู่แล้ว"

 

 

ปี 2565 ตั้งเป้านักท่องเที่ยวอินเดีย 5 แสนคน ทำรายได้กว่า2 หมื่นล้านบาท

แต่ที่น่าดีใจคือ ตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียกลุ่มนี้ยังคงเหนียวแน่นกับการเดินทางมาในประเทศไทยแม้ว่าจะมีโควิด 19และการเดินทางมาแต่งงานของคู่รักชาวอินเดีย ยังดึงครอบครัว  ญาติ  เพื่อนฝูง  มาร่วมงานประเทศไทยอีกด้วย  โดยหากดูตัวเลขนักท่องเที่ยวอินเดียที่เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-24 พ.ค.65  จำนวน 100,884 คน  มากเป็นอันดับ1  ขณะที่นักท่องเที่ยวจาก มาเลเซีย สิงคโปร์ และออสเตรเลีย มีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นกัน

 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)คาดการณ์ว่า ตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ย. 65 จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาไทยไม่น้อยกว่า 5 แสนคน/เดือน ซึ่งเป็นจำนวนสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้ 3 แสนคนต่อเดือน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 22,500 ล้านบาท โดยตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวอินเดียมาไทยเฉลี่ยให้ได้ 3,000 คน/วัน

 นักท่องเที่ยวอินเดีย

 

ศักยภาพของนักท่องเที่ยวอินเดียต่อธุรกิจท่องเที่ยวไทย

 

 “ไม่อยากเรียกว่านักท่องเที่ยวอินเดีย จะมาแทนที่นักท่องเที่ยวจีน แต่ ณ วันนี้ไม่มีอะไรดีกว่านักท่องเที่ยวอินเดียอีกแล้ว ”  รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สุรวัช อัครวรมาศ บอกกับกองบรรณาธิการของ SPOTLIGHT   

 

  • อินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพ เพราะจำนวนประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลกถึง 1300 ล้านคน
  • กลุ่มคู่รักชาวอินเดีย นิยมการมาแต่งงานในประเทศไทย
  • ภาพลักษณ์ ความรู้สึกของคนอินเดียต่อประเทศไทยถือว่าดีมาก

นี่คือ 3เหตุผลสำคัญที่มองว่า นักท่องเที่ยวอินเดียเป็นโอกาสของธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทย และเชื่อว่าปีนี้มีโอกาสสูงที่จำนวนนักท่องเที่ยวจะถึง 5 แสนคนเหมือนที่ ททท. ตั้งเป้าหมายไว้ แต่อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้ก็ยังน้อยกว่าปี 2562 ที่นักท่องเที่ยวอินเดียเข้ามาประเทศไทยถึง 1,995,516 คน สร้างรายได้กว่า 86,372.01 ล้านบาท

 

พฤติกรรมนักท่องเที่ยวอินเดียแตกต่างจากนักท่องเที่ยวจีน   

คุณสุรวัช มองว่าแม้จะเป็นโอกาสดีสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวไทยจะมีนักท่องเที่ยวอินเดียเข้ามา  แต่ที่ไม่สามารถแทนนักท่องเที่ยวจีนได้ เพราพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวอินเดียแตกต่างกัน คนจีนนิยมซื้อของฝากกลับบ้าน ช้อปปิ้งเก่ง ยิ่งเศรษฐกิจจีนดีที่ผ่านมา อัตราการจับจ่ายใช้สอยค่อนข้างสูง

 

ส่วนนักท่องเที่ยวอินเดีย มีความโดดเด่นในกลุ่มคู่แต่งงาน ที่นิยมแต่งงานยิ่งใหญ่ เม็ดเงินจะสะพัดในส่วนนี้  ส่วนการพฤติกรรมอื่นๆที่น่าสนใจคือ คนอินเดีย นิยมการดูโชว์ การแสดง เช่น การไปเที่ยวซาฟารีเวิร์ด การล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนการรับประทานอาหาร ยังเป็นอาหารอินเดีย ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการไทยต้องรู้


งานแต่งงานริมทะเล 


“หากประเทศไทยอยากเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดีย เราควรทำการตลาดที่กระจายแหล่งท่องเที่ยวในหลายจังหวัดมากกว่านี้ เพราะปัจจุบัน จังหวัดที่ได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวอินเดีย  ส่วนใหญ่เป็นทะเลในภาคใต้ เช่น ภูเก็ต กระบี่ สมุย สุราษฎร์ธานี  ต้องทำให้คนอินเดียเห็นถึงความน่าสนใจจังหวัดอื่นๆในประเทศไทยด้วย เพื่อให้เม็ดเงินการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวอินเดียกระจายได้ทั่วถึง”
คุณสุรวัช บอกกับSPOTLIGHT

 

ททท.ทำการตลาดดึงนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้

แผนการกระตุ้นกิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาดอินเดียของ ททท.ทั้งการวางแผนเปิดเส้นทางบินเชื่อมโยงพื้นที่ใหม่ๆ ระหว่างอินเดียและไทย เช่น เชียงใหม่ และส่งเสริมการตลาดร่วมกับบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์รายใหญ่ เพื่อกระตุ้นการเดินทางช่วงปลายปี 2565 โดยเจาะกลุ่มความสนใจพิเศษ พร้อมขยายความร่วมมือกับบริษัทวางแผนงานแต่งงานในอินเดีย วางแผนนำคู่แต่งงานชาวอินเดียกว่า 400 คู่มาจัดงานในไทยปลายปีนี้ด้วย

 เจ้าสาวชาวอินเดีย


นอกจากนี้ ททท.ยังมีแผนดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และประเทศที่มีพรมแดนติดกับไทย ซึ่งเป็นกลุ่มตลาดระยะใกล้ กระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีความสนใจพิเศษ เช่นกลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ กลุ่มคู่แต่งงานและฮันนีมูน กลุ่มท่องเที่ยวเชิงกีฬา และการท่องเที่ยวที่เน้นการจับจ่ายสินค้าหรูหรา (Luxury) รวมทั้งพลิกโฉม เปลี่ยนมุมมอง สร้างภาพจำด้านการท่องเที่ยวใหม่ผ่านการดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพใหม่ๆ และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

  

ซึ่งช่วงปลายปี ต.ค.-ธ.ค.65 ถือเป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย นอกจากอินเดียแล้วจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจากตลาดระยะไกล้เข้ามาเสริมทั้งยุโรปและสหรัฐฯ มากกว่า 1 ล้านคน/เดือนเข้ามาเพิ่มอีกด้วย  สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวสามารถดำเนินธุรกิจได้ เกิดการจ้างงาน และเกิดการจับจ่ายในภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยมากขึ้น

  

สำหรับประเทศไทยกับอินเดีย มีความตกลง Air Travel Bubble ระหว่างกันทำให้การรับผู้โดยสารบนเที่ยวบินระหว่างไทยและอินเดีย สามารถรับขนผู้มีสัญชาติไทย อินเดีย เนปาล ภูฏาน และผู้มีสัญชาติต่างประเทศอื่น ๆ ที่ถือวีซ่าเดินทางเข้าประเทศไทยและอินเดีย ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมานให้บรรดาสายการบินเปิดเส้นทางระหว่างไทยอินเดียมากขึ้น และดึงดูดนักท่องเที่ยวอินเดียมากขึ้นนั่นเอง

 

“หลังโควิด19 ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวตลาดไหนก็ตาม จะอ้างอิงจากอดีตไม่ได้ เพราะการท่องเที่ยวจากนี้ไปเป็น New Normal”   ทำพูดปิดท้ายจากรองประธาน สทท. ที่กำลังบอกว่า โควิด19 ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยต้องปรับตัว และเรียนรู้ใหม่  เนื่องจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวหลังโควิดเปลี่ยนไป การทำธุรกิจโดยอ้างอิงจากพฤติกรรมในอดีตอาจจะไม่ได้ผลเหมือนเดิม

 

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT