Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เวียดนามคุมกระแสคลั่งทอง เสรีนำเข้า-จ่อเก็บภาษี0.1% หวังลดราคาในประเทศ
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

เวียดนามคุมกระแสคลั่งทอง เสรีนำเข้า-จ่อเก็บภาษี0.1% หวังลดราคาในประเทศ

7 พ.ย. 68
14:41 น.
แชร์

ราคาทองคำโลกที่ทะยานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 4,380 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อเดือนที่แล้ว ได้จุดกระแสกว้านซื้อทองครั้งใหญ่ในเวียดนาม สะท้อนความเชื่อที่สืบทอดมาว่าทองคือสัญลักษณ์แห่งโชคลาภและที่พักพิงทางการเงินยามเศรษฐกิจไม่แน่นอน แต่ความต้องการที่พุ่งขึ้นรวดเร็วได้สร้างความท้าทายให้รัฐบาล ซึ่งเพิ่งยกเลิกการผูกขาดทองโดยรัฐนาน 13 ปีเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ปรากฏการณ์นี้กลายเป็นบททดสอบสำคัญของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ที่เพิ่งเริ่มกระบวนการ “เปิดเสรีตลาดทองคำ” หลังจากยกเลิกระบบผูกขาดของรัฐที่ดำเนินมานานกว่า 13 ปีในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้มอบอำนาจให้ธนาคารกลางเวียดนาม (State Bank of Vietnam) เป็นผู้นำเข้าเพียงรายเดียว และให้บริษัท Saigon Jewelry Co. (SJC) ผลิตทองแท่งแต่เพียงผู้เดียว โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจในช่วงที่ประชาชนกักตุนทองเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ

อย่างไรก็ตาม ระบบผูกขาดนี้กลับก่อให้เกิดปัญหาใหม่ เพราะทำให้ราคาทองภายในประเทศสูงกว่าระดับโลก 10-15% และเกิดตลาดมืดที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินดองของประเทศ การยกเลิกข้อจำกัดเหล่านี้จึงมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มอุปทาน ลดความต่างของราคา และฟื้นเสถียรภาพของตลาด แต่รัฐบาลยังคงดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยธนาคารกลางยังเป็นผู้กำหนดโควตาการนำเข้าทองในแต่ละรอบ

มาตรการใหม่ ‘เปิดเสรีนำเข้า-ควบคุมธุรกรรม-ป้องกันการเก็งกำไร’

มาตรการระยะสั้นของรัฐบาลในการควบคุมราคาทองในเวียดนามมุ่งเน้นการปรับสมดุลระหว่างการเปิดตลาดกับการควบคุมความเสี่ยงทางการเงิน สมาคมผู้ค้าทองเวียดนามเปิดเผยว่า ต้องรอถึงกลางเดือนธันวาคมจึงจะทราบปริมาณโควตานำเข้าทองรอบแรกที่ธนาคารกลางจะอนุมัติ ซึ่งคาดว่าจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ

ปัจจุบัน เวียดนามมีความต้องการทองเฉลี่ยปีละประมาณ 55 ตัน สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ปีที่แล้วรัฐอนุญาตให้นำเข้าเพียง 13.5 ตันเท่านั้น เป้าหมายของรัฐบาลคือการลดช่องว่างราคาภายในประเทศให้เหลือเพียง 2-3% จากระดับเดิมที่สูงถึง 15%

นอกจากการควบคุมโควตาแล้ว รัฐบาลยังประกาศกฎใหม่ให้ธุรกรรมทองคำที่มีมูลค่าเกิน 20 ล้านดอง (ประมาณ 760 ดอลลาร์สหรัฐ) ต้องชำระผ่านระบบธนาคาร เพื่อสร้างฐานข้อมูลธุรกรรมและลดการใช้เงินสด ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากวิถี “ซื้อทองด้วยเงินสด” ที่สืบต่อกันมาหลายสิบปี แม้มาตรการนี้จะสร้างความลำบากให้ผู้สูงอายุบางกลุ่มที่ต้องพึ่งพาบุตรหลานในการทำธุรกรรมออนไลน์ แต่รัฐบาลมองว่านี่เป็นขั้นตอนสำคัญในการดึงตลาดทองเข้าสู่ระบบการเงินสมัยใหม่

ในด้านภาษี รัฐบาลกำลังพิจารณาจัดเก็บภาษี 0.1% สำหรับการซื้อทองแท่ง เพื่อสร้างเส้นทางข้อมูลการซื้อขาย เพิ่มรายได้ภาครัฐ และลดการเก็งกำไรในตลาดมืด ขณะที่สมาคมนักลงทุนการเงินเวียดนามเสนอให้พิจารณาภาษีในอัตราสูงถึง 10% ครอบคลุมทั้งทองแท่งและทองรูปพรรณ เพื่อยับยั้งการกักตุนทองในครัวเรือน ซึ่งตามการประเมินของสภาทองคำโลก ประชาชนเวียดนามเก็บทองไว้กว่า 500 ตัน ส่วนใหญ่เก็บไว้ในกล่องใต้เตียง

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนเปิด “ตลาดซื้อขายทองคำแห่งชาติ” แบบสามระยะ เพื่อดึงทองที่เก็บไว้นอกระบบเข้าสู่การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ และทำให้ราคาภายในประเทศเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับตลาดโลกมากขึ้น

ทั้งนี้ แม้ว่าราคาทองในประเทศจะเริ่มปรับลดจากจุดสูงสุดเมื่อไม่นานมานี้ แต่ความต้องการยังคงร้อนแรง ร้านทองหลายแห่งในกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ยังคงขึ้นป้าย “ขายหมด” ทุกวัน เจ้าหน้าที่ต้องแจกบัตรคิวและจำกัดจำนวนการซื้อของลูกค้าแต่ละราย

การปฏิรูปครั้งนี้จึงถือเป็นการเปลี่ยนผ่านสำคัญของรัฐบาลคอมมิวนิสต์เวียดนาม จากระบบผูกขาดสู่ตลาดเปิดเสรีอย่างมีการควบคุม เป้าหมายไม่เพียงเพื่อทำให้ราคาทองสอดคล้องกับตลาดโลก แต่ยังเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบการเงินและลดบทบาทของทองคำในฐานะ “ที่พักพิงสุดท้ายของคนเวียดนาม” ให้กลายเป็นสินทรัพย์ภายใต้กลไกตลาดที่โปร่งใสและยั่งยืนมากขึ้น


ที่มา: Bloomberg

แชร์
เวียดนามคุมกระแสคลั่งทอง เสรีนำเข้า-จ่อเก็บภาษี0.1% หวังลดราคาในประเทศ