Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ทรัมป์จะปลดประธานเฟด? ดราม่าครั้งใหญ่ ที่เขย่าตลาดการเงินโลก
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ทรัมป์จะปลดประธานเฟด? ดราม่าครั้งใหญ่ ที่เขย่าตลาดการเงินโลก

17 ก.ค. 68
17:10 น.
แชร์

ข่าวความไม่พอใจ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED ที่ไม่ยอมลดดอกเบี้ยให้ต่ำลงอีก ตามแนวทางของทรัมป์ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ เพราะตั้งแต่ทรัมป์เข้ามารับตำแหน่งก็แสดงท่าที อยากเห็นดอกเบี้ยต่ำ ไม่พอใจประธานเฟดเช่นนั้นเรื่อยมา แต่มาวันนี้อาจจะไม่ใข่แค่คำขู่ ข่าวการปลดประธานเฟดเริ่มมีมูลหนักขึ้น จนกำลังเป็นเรื่องใหญ่ที่ตลาดเงินตลาดทุนกำลังจับตามอง 

อัปเดตสถานการณ์เมื่อทรัมป์ส่งสัญญาณปลดประธานเฟด

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวต่อกลุ่มสมาชิกรัฐสภาจากพรรครีพับลิกันว่าเขามีแผนจะปลดประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) นายเจอโรม พาวเวลล์ 

แม้ทรัมป์จะออกมาปฏิเสธในเวลาต่อมาว่า “เค้ายังไม่มีแผนจะทำ” แต่มีประโยคเด็ดต่อท้ายว่า “แต่ผมก็ไม่ตัดความเป็นไปได้ เว้นแต่ว่าเขาต้องออกเพราะการทุจริต”

สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มีข่าวว่าทรัมป์ร่างจดหมายไล่ออก มีการชักชวนเสียงสนับสนุนในทำเนียบขาว และที่สำคัญมากคือ การเปิดประเด็นเรื่องการทุจริตงบประมาณต่อเติมอาคารของเฟด  

โครงการปรับปรุงอาคารเฟด จุดไฟความขัดแย้ง

ทรัมป์ ใช้ประเด็นโครงการปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ของเฟดในกรุงวอชิงตัน มูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มาเป็นข้อสงสัยถึง “ความไม่โปร่งใส” โดยกล่าวหาว่าการต่อเติมดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายเกินควรและอาจเข้าข่ายการกระทำผิดทางการเงิน ถึงขั้นมีการเรียกร้องให้ตรวจสอบข้อกล่าวหา “ทุจริต”

ทั้งนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังดำเนินโครงการปรับปรุงใหญ่ และครั้งแรกของอาคารสำนักงานใหญ่ 2 หลังในกรุงวอชิงตัน นับตั้งแต่ก่อสร้างในทศวรรษ 1930 โดย Fed ระบุว่า เป้าหมายของโครงการคือ การลดต้นทุนในระยะยาวผ่านการรวมศูนย์การดำเนินงาน

โครงการนี้ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการ Fed ตั้งแต่ปี 2017 แต่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา งบประมาณโครงการก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยจากเอกสารงบประมาณปี 2025 ของ Fed พบว่า งบประมาณรวมล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มจาก 1.9 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2023

สาเหตุของต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาจากการเปลี่ยนแปลงแบบก่อสร้างตามข้อเสนอจากหน่วยงานตรวจสอบภายนอก ความคลาดเคลื่อนระหว่างค่าประมาณเดิมกับต้นทุนจริง 

ภาพจาก AFP: อาคารเฟด ที่วอชิงตันกำลังปรับปรุง

บิล พัลต์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารสินเชื่อที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลาง (FHFA) อ้างในการไต่สวนวุฒิสภาว่า พาวเวลล์ให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว ขณะที่สำนักงานสอบสวนภายในของเฟดก็ได้เริ่มต้นกระบวนการสอบสวนตามคำขอของพาวเวลล์เอง

อย่างไรก็ดี นักวิจารณ์หลายฝ่ายมองว่า การใช้เรื่องต่อเติมอาคารเป็นเหตุผลเพื่อปลดประธานเฟด เป็นเพียง “ข้ออ้างทางการเมือง” และไม่ควรเกิดขึ้นในประเทศที่ยึดหลักนิติธรรมอย่างสหรัฐอเมริกา

การปลดไม่ง่าย ทั้งกฎหมาย สภา และศาล

แม้จะมีข่าวว่าทรัมป์เตรียมร่างจดหมายปลดพาวเวลล์ แต่ในทางกฎหมายแล้ว การกระทำเช่นนี้ “ไม่สามารถทำได้โดยพลการ”

ตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุว่า สมาชิกคณะกรรมการเฟด รวมถึงประธาน สามารถถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งได้ “ด้วยเหตุผล” (for cause) เท่านั้น ซึ่งหมายถึง ต้องมีพฤติกรรมเข้าข่ายละเลยหน้าที่, ไม่มีประสิทธิภาพ, หรือกระทำผิดร้ายแรง ไม่ใช่แค่เพราะประธานาธิบดีไม่เห็นด้วยกับนโยบายดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตามหากทรัมป์ดำเนินการปลดจริง กระบวนการฟ้องร้องจะเริ่มต้นขึ้นทันที เพราะพาวเวลล์สามารถยื่นคำร้องต่อศาลกลางในกรุงวอชิงตันเพื่อขอคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้กลับเข้ารับตำแหน่งระหว่างพิจารณาคดีได้ 

ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะต้องยื่นเอกสารแสดงเหตุผลต่อศาล และอาจต้องไต่สวนต่อหน้าผู้พิพากษา ซึ่งคำตัดสินเบื้องต้นว่า ควรให้พาวเวลล์กลับเข้าทำหน้าที่หรือไม่ จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบการเงินโดยตรง

ดังนั้นกรณีนี้อาจยืดเยื้อไปจนถึงศาลสูงสุดของสหรัฐฯ ซึ่งมีแนวโน้มสูงว่าจะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาดในท้ายที่สุด เรื่องยากเพราะไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐคนใดพยายามปลดประธานเฟดมาก่อน และยังไม่เคยมีความผิดในลักษณะนี้มาเทียบเคียง 

ผลกระทบถ้าทรัมป์ปลดพาวเวลล์ได้จรัง จะเกิดอะไรขึ้น

ภาพจาก AFP: ซ้าย โดนัลด์ ทรัมป์ - ขวา เจอโรม พาวเวลล์

ประเด็นนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องส่วนตัวระหว่างผู้นำประเทศกับหัวหน้าธนาคารกลาง แต่คือการเดิมพันความเชื่อมั่นในระบบการเงินของประเทศและของโลก

นักลงทุนทั่วโลกให้คุณค่ากับความเป็น “อิสระ” ของธนาคารกลาง หากเฟดถูกแทรกแซงทางการเมือง ความน่าเชื่อถือในการควบคุมเงินเฟ้อจะลดลง และความคาดหวังเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอาจส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ทางการเงินปั่นป่วน

ตัวอย่างของผลกระทบหลังมีรายงานว่า ทรัมป์อาจปลดพาวเวลล์ ดัชนี S&P500 ตกลง 1% พันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีให้ผลตอบแทนพุ่งขึ้น 10 จุด และดัชนีค่าเงินดอลลาร์ดิ่งลง 1.2% ภายในครึ่งชั่วโมง

สิ่งที่น่าคิดคือ แม้ทรัมป์จะหวังให้เฟดลดดอกเบี้ยลงอีก 2-3% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การเปลี่ยนตัวประธานเพียงคนเดียวก็ไม่สามารถบังคับให้ FOMC (คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด) เปลี่ยนนโยบายได้ พูดง่ายๆ จะสั่งให้เค้าลดดอกเบี้ยไม่ได้ เพราะยังคงต้องมีเสียงจากคณะกรรมการรวม 12 คนในการลงมติประชุมอัตราดอกเบี้ยแต่ละครั้ง

ดังนั้น หากเกิดการปลดขึ้นจริง เศรษฐกิจสหรัฐอาจเผชิญความเสี่ยงซ้ำซ้อน ทั้งจากความปั่นป่วนของตลาด ความเชื่อมั่นที่ถดถอย และเงินเฟ้อที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งตอนนี้ผลของภาษีทรัมป์ กำลังส่งสัญญาณไปที่ปัญหาเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าบ้างแล้ว


ที่มา Bloomberg , CNBC

แชร์
ทรัมป์จะปลดประธานเฟด? ดราม่าครั้งใหญ่ ที่เขย่าตลาดการเงินโลก