ถ้าเราดูไปที่ผลตอบแทน 5 ปีย้อนหลัง ของ บิตคอยน์ และ ทองคำ จะพบว่า
- บิตคอยน์ ขึ้นมา 1,148% หรือ 11 เด้ง
- ทองคำ ขึ้นมา 89%
จะเห็นได้ว่า ผลตอบแทนที่ได้ในเวลาเท่ากันต่างกันลิบลับ
แล้วบิตคอยน์ กับ ทองคำเหมือน หรือ ต่างกันอย่างไร ?
มี ทิศทาง หรือ กลยุทธ์ อะไรบ้าง ? เพื่อลงทุนในบิตคอยน์หลังจากนี้ ?
คุณ นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด จะมาเล่าเรื่องทั้งหมดนี้ให้กับเรา
เรื่องแรกที่น่าสนใจ ก็คือ บิตคอยน์ มี Correlation หรือ ความสัมพันธ์ ตรงกับดัชนีหุ้นอเมริกาอย่างดัชนี NASDAQ
หรือแปลง่าย ๆ ก็คือราคาบิตคอยน์จะขึ้นลงตามดัชนี NASDAQ นั่นเอง
แต่จุดแตกต่างก็คือ บิตคอยน์จะขึ้น และ ลง มากกว่า NASDAQ อยู่ 2 จุด
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าวันนี้ดัชนี NASDAQ ปรับตัวขึ้นมา 10 จุด ราคาบิตคอยน์ก็จะขึ้นไป 20 เหรียญ
ในทางตรงกันข้ามถ้าดัชนี NASDAQ ปรับตัวลงมา 10 จุด บิตคอยน์ก็จะลงมา 20 เหรียญ หรือเท่าตัว
แปลว่าบิตคอยน์มีความผันผวนมากกว่า มีโอกาสได้กำไร ขาดทุน มากกว่า NASDAQ
ประเด็นถัดมาก็คือ ที่ผ่านมาราคาบิตคอยน์ขึ้นมาจากอะไร ? แล้วทิศทางในอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป ?
ที่ผ่านมาราคาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นมาจาก..
- การที่คนยอมรับ Bitcoin มากขึ้น มีการจัดตั้ง Bitcoin ETF ขึ้นมา
- ประเทศต่าง ๆ เริ่มเอาบิตคอยน์มาใช้เป็นทุนสำรอง
- นโยบายสนับสนุนบิตคอยน์ ของคุณ โดนัลด์ ทรัมป์
โดยหลังจากคุณ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งราคาบิตคอยน์อยู่ในกรอบทรงตัว
ส่วนปัจจัยหนุนราคาบิตคอยน์อีกด้านก็คือฝั่ง Supply หรือ ปริมาณที่จำกัด
- Bitcoin มี Supply จำกัด ตอนนี้มีอยู่แค่ 21 ล้านบิตคอยน์
ด้านประเด็นเรื่อง บิตคอยน์ เป็น สินทรัพย์ปลอดภัย (safe haven) แทนทองคำหรือไม่ ?
คุณ นิรันดร์ มองว่า บิตคอยน์ กับ ทองคำ ยังไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
โดยทองคำนับว่าเป็นทางเลือกหนึ่งของสินทรัพย์ปลอดภัย ส่วนบิตคอยน์ยังมองว่าเป็นสินทรัพย์เติบโต หรือ Growth asset
โดยในช่วงที่ผ่านมาราคาบิตคอยน์ขึ้นมาจากการจัดตั้งกองทุน ETF, การนำมาใช้เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ และ การสนับสนุนบิตคอยน์ของคุณ ทรัมป์
ส่วนทองคำในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นมาจากการสำรองทองคำที่มากขึ้นของจีน และ ภาวะสองคราม ซึ่งมีปัจจัยต่างกัน
ถัดมาก็คือ เรื่องกลยุทธ์การลงทุนก่อนช่วง Halving
โดยปกติแล้วบิตคอยน์จะมีช่วงที่เรียกว่า Halving หรือ การลด Supply ลงครึ่งหนึ่งในทุก ๆ 4 ปี ซึ่งที่ผ่านมาหลังจากเกิดการ Halving ราคาบิตคอยน์มักจะปรับตัวขึ้นเสมอ
ตอนปี 2020 ราคาบิตคอยน์ขึ้นมา 5-6 เท่า หลังการ Halving ส่วนการ Halving ครั้งล่าสุดบิตคอยน์ขึ้นมาแค่ประมาณ 50%
คุณ นิรันดร์ เลยมองว่า บิตคอยน์กลายเป็นสินทรัพย์ที่เริ่มอิ่มตัวแล้ว อาจจะคาดหวังผลตอบแทนสูง ๆ ไม่ได้มากแต่ราคาก็จะผันผวนน้อยลงเช่นกัน
ส่วนกลยุทธ์ลงทุนช่วงก่อน Halving นั้นยังใช้ได้อยู่ แต่อาจจะคาดหวังผลตอบแทนได้น้อยลง
ส่วนกลยุทธ์การลงทุนบิตคอยน์ที่แนะนำจะเน้นไปที่การ DCA สะสมไปเรื่อย ๆ หากเราเชื่อมั่นในสินทรัพย์นี้
ประเด็นสุดท้าย โลกถึงจุดลดการพึ่งพาดอลลาร์ หรือ De-Dollarization แล้วหรือยัง ?
มองว่าตอนนี้เงินดอลลาร์ยังมีสภาพคล่องสูง ทำให้ De-Dollarization อาจยังไม่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้
แต่ในระยะยาวอาจเกิดขึ้นได้ หลายประเทศตอนนี้ อย่างเช่น จีน หรือ ประเทศกลุ่ม BRICS เริ่มใช้ทุนสำรองนอกจากดอลลาร์เป็นทางเลือกอื่น
นอกจากนั้นยังมีเรื่องหนี้สินของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ตอนนี้สูงถึง 230 ล้านล้านบาท ที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกจะนโยบาย One Big Beautiful Bill ของคุณทรัมป์
ที่อาจเพิ่มหนี้สินเข้าไปอีก 100 ล้านล้านบาทให้กับประเทศสหรัฐอเมริกา
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนก็คงได้เห็นทั้ง กลยุทธ์ และ ปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ของราคาบิตคอยน์
ซึ่งถ้าใครสนใจศึกษาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบิตคอยน์ และ คริปโทเคอร์เรนซี ก็สามารถติดตามได้ที่ช่องทางต่าง ๆ ของ Binance ได้เลย
เว็บไซต์ BINANCE TH Academy รวมแหล่งความรู้:
https://www.binance.th/th/academy
Facebook Page ของ BINANCE TH:
https://www.facebook.com/p/Binance-TH-61555044811579/?locale=th_TH
ที่มา: BINANCE TH