Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ลูกแบกหนี้แม่ เข้าข่าย Financial Abuse การทารุณกรรมทางการเงิน หรือไม่?

ลูกแบกหนี้แม่ เข้าข่าย Financial Abuse การทารุณกรรมทางการเงิน หรือไม่?

9 ต.ค. 68
17:16 น.
แชร์

เมื่อความกตัญญูเป็นเครื่องมือควบคุมทางการเงิน ต้องรับภาระหนี้แทนแม่ กดดันให้ต้องรับผิดชอบหนี้ เข้าข่าย Financial Abuse การทารุณกรรมทางการเงิน หรือไม่


Financial Abuse การทารุณกรรมทางการเงิน คืออะไร ?

การทารุณกรรมทางการเงิน/การทำร้ายทางการเงิน (Financial Abuse) สามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ เช่น เมื่อมีคนขัดขวางการเข้าถึงเงินของคุณ บงการการตัดสินใจทางการเงินของคุณ หรือ ใช้เงินของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต

การทารุณกรรมทางการเงินเป็นรูปแบบหนึ่งของความรุนแรงในครอบครัว และการใช้ความรุนแรงในบ้าน ผู้ที่ใช้วิธี การควบคุมเชิงบังคับขู่เข็ญ (Coercive Control) อาจใช้การทารุณกรรมทางการเงินเป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมนี้

การทารุณกรรมรูปแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงความสัมพันธ์ และอาจเกิดขึ้นพร้อมกับการใช้ความรุนแรงประเภทอื่น ๆ เช่น การทำร้ายร่างกาย การล่วงละเมิดทางเพศ และการทำร้ายทางอารมณ์

การถูกทารุณกรรมทางการเงิน อาจทำให้คุณรู้สึก เปราะบาง โดดเดี่ยว ซึมเศร้า และวิตกกังวล

การทารุณกรรมทางการเงินสามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ผู้กระทำความรุนแรงอาจเป็นคู่รัก สมาชิกในครอบครัว ผู้ดูแล หรือเพื่อน การทารุณกรรมทางการเงินไม่เคยเป็นความผิดของคุณ

รูปแบบของ การทำร้ายทางการเงิน (Financial Abuse) นั้นมีหลายข้อ แต่สำหรับในหัวข้อ

"พฤติกรรมของแม่ที่ชอบสร้างหนี้และผลักภาระให้ลูกต้องตามใช้อย่างต่อเนื่อง"

การใช้ความรู้สึกผิดเป็นอาวุธ หรือ การพึ่งพาหรือเรียกร้องความช่วยเหลือมากเกินไป โดยไม่รับผิดชอบสถานการณ์ทางการเงินของตนเอง

สะท้อนถึงปัญหาทางจิตวิทยาและความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ซับซ้อน ซึ่งอาจเข้าข่ายรูปแบบการทำร้ายที่เรียกว่า Financial Abuse โดยมีลักษณะดังนี้


การสร้างหนี้สิน

บังคับก่อหนี้: บังคับให้เหยื่อเซ็นชื่อในสัญญาเงินกู้, บัตรเครดิต, หรือใช้ชื่อเหยื่อในการทำธุรกรรมทางการเงินโดยที่เหยื่อไม่เต็มใจหรือไม่มีความรู้

สร้างหนี้ร่วม: ก่อหนี้ก้อนใหญ่ในบัญชีร่วมโดยไม่ปรึกษาหรือปิดบังข้อมูล

ขโมยตัวตน: ใช้ข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อในการขโมยหรือเปิดบัญชีใหม่


การทำลายทรัพย์สิน

ยึดหรือขโมยทรัพย์สิน: เอาเงิน, ทรัพย์สมบัติ, หรือสิทธิประโยชน์ เช่น เงินบำนาญ หรือเงินมรดกไปโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทำลายความมั่นคง: บังคับให้ขายบ้าน หรือทรัพย์สินที่ดินโดยขู่เข็ญ

การจำกัดความเป็นอิสระ: การที่ลูกต้องรับภาระหนี้ทำให้ลูกไม่มีอิสระทางการเงิน ต้องพึ่งพาและถูกควบคุมโดยแม่

การสร้างความรู้สึกผิดและหน้าที่: แม่มักใช้คำพูดหรืออ้างความกตัญญู เพื่อกดดันให้ลูกต้องรับผิดชอบหนี้สิน โดยไม่คำนึงถึงความมั่นคงในชีวิตของลูก

พฤติกรรมที่อาจเป็นผลมาจากปัญหาทางบุคลิกภาพของแม่

  1. การขาดความยับยั้งชั่งใจ การใช้จ่ายหรือก่อหนี้โดยไม่คิดถึงผลที่จะตามมาในระยะยาว
  2. การขาดความรับผิดชอบต่อตนเอง ไม่สามารถบริหารจัดการชีวิตและการเงินของตัวเองได้ และเลือกที่จะผลักภาระนี้ไปให้ลูก
  3. ความเห็นแก่ตัวอย่างรุนแรง ให้ความสำคัญกับความต้องการของตนเองเหนือกว่าความมั่นคงและความอยู่รอดของลูก
  4. การมองลูกเป็นผู้ดูแล เป็นการสลับบทบาท โดยที่ลูกถูกบังคับให้รับบทบาทเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องดูแลจัดการและแก้ไขปัญหาของพ่อแม่ ตั้งแต่อายุยังน้อย
  5. การทำลายขอบเขต การที่แม่ไม่เคารพขอบเขตทางการเงินส่วนตัวของลูก และมองว่าเงินของลูกคือเงินของครอบครัวหรือของแม่เอง
  6. ความบกพร่องในการตัดสินใจ อาจเป็นไปได้ว่าแม่มีความบกพร่องในการคิดวิเคราะห์และตัดสินใจทางการเงิน เช่น ติดการพนัน ติดสุรา หรือใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ซึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้วยตนเองได้
  7. การไม่เคยได้รับการบำบัด แม่ไม่เคยมีโอกาสได้รับการช่วยเหลือหรือบำบัดสำหรับปัญหาด้านการเงินหรือปัญหาพฤติกรรม ทำให้ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข และส่งต่อภาระไปยังลูก


แนวทางของลูกในการแก้ปัญหา "แบกหนี้ของแม่"

เป้าหมายสูงสุดคือ การแยกความมั่นคงทางการเงิน ของคุณออกจากปัญหาหนี้สินของแม่ให้เด็ดขาด เพื่อป้องกันความเสียหายในอนาคต

1. หยุดเป็นผู้ให้ท้าย การปฏิเสธอย่างชัดเจนและการจัดการความรู้สึกผิด

คุณจำเป็นต้อง "ปฏิเสธ" ที่จะช่วยจ่ายหนี้ที่ไม่สมเหตุสมผล แม้จะถูกกดดันด้วยความรู้สึกผิด หรือ การอ้างความกตัญญู โดย "กำหนดจุดสิ้นสุด" คือแจ้งให้แม่ทราบอย่างชัดเจว่าจะไม่รับผิดชอบหนี้สินใหม่ใด ๆ อีกต่อไป และกำหนดวงเงินช่วยเหลือสูงสุด (ถ้ามี) ที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของคุณ

"คงขอบเขตไว้" เมื่อแม่เผชิญหน้ากับผลของการกระทำของตัวเอง (เช่น ถูกทวงหนี้) คุณต้องใจแข็งไม่กลับไปช่วยเหลือ เพื่อให้แม่ต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตนเองเอง

2. สร้างขอบเขตทางการเงินที่แข็งแกร่ง

โดยแยกบัญชีทั้งหมด ห้ามมีบัญชีร่วม ห้ามเซ็นค้ำประกัน ห้ามมอบอำนาจทางการเงิน และห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวทางการเงิน รหัสบัตร เลขบัญชี โดยเด็ดขาด และตรวจสอบ Credit Bureau เป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าแม่ไม่ได้แอบนำชื่อหรือข้อมูลของคุณไปใช้ในการก่อหนี้สินใหม่

จัดการการเงินส่วนตัวเพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตของคุณ เช่น เก็บออม, ลงทุน, สร้างกองทุนฉุกเฉิน ก่อนจะพิจารณาช่วยเหลือใคร

3. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินและทางกฎหมาย

โดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินเพื่อวางแผนการเงินส่วนตัวอย่างเข้มงวด และจำกัดความเสียหายจากหนี้เก่าให้ได้มากที่สุด

แล้วหากหนี้สินถูกสร้างขึ้นในชื่อของคุณ หรือคุณถูกบังคับให้เซ็นเอกสารใด ๆ คุณต้องปรึกษาทนายความเพื่อหาทางออกทางกฎหมายและดำเนินการยกเลิกความรับผิดชอบในหนี้นั้น

อ้างอิงข้อมูล : moneysmart.gov.au. , addictioncenter , hopefulpanda , deborahbyrnepsychologyservices , intendify

Advertisement

แชร์
ลูกแบกหนี้แม่ เข้าข่าย Financial Abuse การทารุณกรรมทางการเงิน หรือไม่?