Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
สรุปมหากาพย์ ดุสิตธานี  เจ้าของกำลังตั้งคำถามกับบริษัทตัวเอง
โดย : ศดิศกฤษฏิ์ ศิริสมภพ

สรุปมหากาพย์ ดุสิตธานี เจ้าของกำลังตั้งคำถามกับบริษัทตัวเอง

30 พ.ค. 68
15:44 น.
แชร์

ไม่นานมานี้ มีข่าวออกมาว่า บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เจ้าของโรงแรมดุสิตธานี, โรงแรม dusitD2 และ โรงเรียนสอนทำอาหาร The Food School Bangkok

ยังไม่อนุมัติงบการเงินประจำปี 2567 ออกมา โดยสาเหตุของการไม่ส่งงบครั้งนี้ไม่ได้มาจาก..

ปัญหาฉ้อโกง

ปัญหาล้มละลายหรือขาดสภาพคล่อง

แต่เป็นการไม่อนุมัติงบการเงินของบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ DUSIT ในสัดส่วน 49.7%

คำถามคือ แล้ว บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด เป็นใคร ?

บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด เป็นบริษัทที่ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ก่อตั้งขึ้นมา เพื่อให้ลูกทั้ง 3 คนสืบทอดมรดก ซึ่งก็จะมี

- คุณ ชนินทธ์ โทณวณิก (บุตรชายคนโต)

- คุณ สินี เธียรประสิทธิ์ (บุตรสาวคนกลาง)

- คุณ สุนงค์ สาลีรัฐวิภาค (บุตรสาวคนเล็ก)

ที่มาภาพ: เว็บไซต์โรงแรมดุสิตธานี

ที่มาภาพ: เว็บไซต์โรงแรมดุสิตธานี

แต่ต่อมา ลูกสาวคนกลางและคนเล็ก ได้แต่งงาน

โดยคุณ สินี เธียรประสิทธิ์ แต่งงานกับคุณ ฐิตินันท์ เธียรประสิทธิ์

ส่วนคุณ สุนงค์ สาลีรัฐวิภาค แต่งงานกับ คุณ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คนปัจจุบัน

ทำให้เกิดเป็นผู้ถือหุ้นใหม่อย่าง กลุ่มตระกูลเธียรประสิทธิ์ และ กลุ่มตระกูลสาลีรัฐวิภาค ขึ้นมา

ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2568 มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น เมื่อคุณชนินทธ์ โทณวณิก ลูกชายคนโต ได้ออกจากการเป็นกรรมการ

โดยมีการแต่งตั้งกรรมการเข้ามาใหม่ 2 คน ก็คือ

- คุณ ลลิตา เธียรประสิทธิ์ (กลุ่มตระกูลเธียรประสิทธิ์)

- คุณ ภัทร สาลีรัฐวิภาค (กลุ่มตระกูลสาลีรัฐวิภาค)

โดยที่คุณชนินทธ์ โทณวณิก ไม่มีชื่อเป็นกรรมการบริษัทอีกต่อไป

ทำให้ล่าสุด บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด มีผู้ถือหุ้นหลักอยู่ 4 คน

- กลุ่มตระกูลโทณวณิก มีสัดส่วนถือหุ้น 26.66%

- กลุ่มตระกูลเธียรประสิทธิ์ มีสัดส่วนถือหุ้น 26.65%

- กลุ่มตระกูลสาลีรัฐวิภาค มีสัดส่วนถือหุ้น 21.68%

- กองมรดกของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย มีสัดส่วนถือหุ้น 24.99%

ส่วนประเด็นร้อนที่กำลังเกิดขึ้น นั้นมาจากการที่ บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ไม่เห็นด้วยกับงบการเงินของบริษัท และ ไม่อนุมัติให้กรรมการทั้ง 4 คนที่ครบวาระตำแหน่งแล้วดำรงตำแหน่งต่อไป

โดยฝั่ง บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ได้ออกมาชี้แจงว่า บริษัทได้ส่งคำถามล่วงหน้าเกี่ยวกับงบการเงินของปี 2567 ไปก่อนแล้ว

แต่บริษัทมองว่า คณะกรรมการบริษัทของดุสิตธานีไม่ได้ตอบคำถามให้ชัดเจน เกี่ยวกับรายการทางบัญชีต่าง ๆ อย่างเช่น สินทรัพย์ หนี้สิน เงินลงทุน และเงินให้กู้แก่บริษัทย่อย

ส่วนประเด็นไม่อนุมัติให้กรรมการทั้ง 4 คน ดำรงตำแหน่งต่อไปก็เป็นเพราะว่า DUSIT มีผลขาดทุนมาต่อเนื่องมากว่า 5 ปีแล้ว

โดยตัวบริษัทเองมองว่ากรรมการทั้ง 4 คน เป็นคนมีความรู้ ความสามารถ และดำรงตำแหน่งกันมายาวนานไม่น้อยกว่า 10 ปี

แต่ผลขาดทุนที่เกิดขึ้นต่อเนื่องนั้นทำให้บริษัทไม่ได้รับเงินปันผลจากธุรกิจเลย ทางบริษัทเลยอยากเปิดทางให้บุคคลอื่นมาช่วยฟื้นฟูกิจการแทน

รายได้ กำไร 3 ปีล่าสุดของ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน)

- ปี 2565 รายได้ 4,750 ล้านบาท ขาดทุน 501 ล้านบาท

- ปี 2566 รายได้ 6,310 ล้านบาท ขาดทุน 570 ล้านบาท

- ปี 2567 รายได้ 11,080 ล้านบาท ขาดทุน 237 ล้านบาท

หรือสรุปสั้น ๆ ก็คือ สาเหตุที่ บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ไม่อนุมัติงบการเงินก็เป็นเพราะว่า ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับรายการต่าง ๆ ในงบการเงิน

รวมถึงอยากเปิดทางให้ ดุสิตธานี มีคณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาฟื้นฟูกิจการให้กลับมามีกำไรได้นั่นเอง

และนี่ก็เป็นเรื่องราวทั้งหมดของทางฝั่งผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของบริษัท

ต่อไปมาดูมุมมองทางฝั่งทีมบริหารกันบ้าง

ในส่วนของฝั่งบริหารได้ออกมาเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้พยายามบริหารธุรกิจให้กลับมามีกำไรได้ โดยไม่ขอเพิ่มทุน

เพื่อไม่ให้ผู้ถือหุ้นมีภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพิ่ม หรือทำให้สัดส่วนความเป็นเจ้าของของผู้ถือหุ้นลดลงไป

โดยคุณ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คนปัจจุบัน ก็ได้ออกมาชี้แจงว่า การส่งงบล่าช้าที่เกิดขึ้น ไม่ได้กระทบกับการทำธุรกิจของบริษัท

แต่เป็นกระบวนการของผู้ถือหุ้น ที่ทางทีมบริหารไม่สามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นได้

รายได้ กำไร ไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ของ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน)

- รายได้ 2,380 ล้านบาท เติบโต 10% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

- กำไร 48 ล้านบาท ลดลง 61% (เทียบกับ Q1/67)

โดยคุณ ศุภจี ได้ออกมาบอกว่า ภาระดอกเบี้ยที่บริษัทต้องจ่ายมีผลทำให้กำไรของบริษัทลดลง

ซึ่งถ้ามาดูที่กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) หรือกำไรที่ใช้วัดประสิทธิภาพการบริหารงาน ก็จะเห็นได้ว่าปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน

EBITDA ในไตรมาส 1 ปี 2568 ของ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน)

- 513 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ถ้าจะสรุปเรื่องนี้แบบสั้น ๆ ให้เข้าใจง่าย เราสามารถแบ่งตัวละครออกเป็น 3 ฝ่าย ก็คือ

- ฝ่ายเจ้าของ ซึ่งก็คือ บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด ที่กำลังตั้งคำถาม เกี่ยวกับการบริหารและงบการเงิน ซึ่งมีสิทธิที่จะทำ และ ตัดสินใจ ในฐานะเจ้าของกิจการ

- ฝ่ายกรรมการบริษัท ที่เป็นตัวแทนของผู้ถือหุ้น เป็นคนกำหนดทิศทางบริษัท ที่ตอนนี้เจ้าของอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

- ฝ่ายทีมบริหาร ที่มีหน้าที่ทำให้บริษัทเติบโต และ มีผลกำไร ซึ่งก็มองว่ากำลังทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว

แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเรื่องนี้จะถูกเอาไปพูดถึงกันมากขนาดไหน บทสรุปที่สวยงามที่สุดก็คือ การที่บริษัทกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง

และเราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าความยุ่งเหยิงของเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็เพื่อให้บทสรุปที่สวยงามนั้นเกิดขึ้นนั่นเอง..

ที่มา: dusit-international.com, DUSIT MD&A ไตรมาส 1 ปี 2568, set.or.th, รายงานข้อมูลจากสำนักข่าวต่าง ๆ

แชร์
สรุปมหากาพย์ ดุสิตธานี  เจ้าของกำลังตั้งคำถามกับบริษัทตัวเอง