Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เคล็ดลับลงทุน ปั้นเงินล้านอย่างไรในวัย 30+
โดย : ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์

เคล็ดลับลงทุน ปั้นเงินล้านอย่างไรในวัย 30+

30 พ.ย. 67
00:00 น.
|
246
แชร์

Highlight

ไฮไลต์

  • เมื่ออายุ 30 ปี คุณจะได้ทำงานมาระดับหนึ่งแล้ว  เมื่อการงานเข้าที่เข้าทาง มั่นคงระดับหนึ่ง​คุณควรแบ่งเวลาส่วนหนึ่งในการพัฒนาตัวเองมาพัฒนาเรื่องของการลงทุนได้
  • ผลตอบแทนทบต้นที่เป็นไปได้สำหรับคนจำนวนมากคือควรจะอยู่ที่ประมาณ 8% ต่อปี​  เป็นระดับที่จะทำให้คุณเกษียณได้อย่างสบายใจระดับหนึ่ง
  • ทรัพย์สิน 2 อย่างที่ให้ผลตอบแทนระยะยาวประมาณ 8 - 10% ต่อปี ก็คือหุ้นกับอสังหาริมทรัพย์
  • มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุนยังไม่ควรไปลงทุนหุ้นรายตัว แต่ควรจะเลือกลงทุนในหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี 

ผมได้รับคำถามเข้ามามากมาย จากนักลงทุนหลากหลายกลุ่มว่าจะลงทุนอย่างไรดี เมื่อไรจะได้จับเงินล้านกับเขาบ้าง วันนี้ผมอยากพูดถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่วัย 30+ ที่เพิ่งเริ่มทำงานมาได้ระยะหนึ่งแล้ว คำถามที่มีเข้ามาเสมอคือ

“ ลงทุนอย่างไรดีในวัย 30+ ”

จริงอยู่ว่าพูดถึงเรื่องการลงทุน คนมักจะคิดถึงเรื่องของตัวเงินขึ้นมาก่อนเลยแต่จริงๆ แล้วในวัย 30+ นี้​ มองไปยังมีภาพระยะไกลที่รออยู่อีกมาก ผมว่าเป็นวัยที่มีอีกหลายสิ่งที่ควรจะต้องลงทุนเพื่อสร้างแกนหลักในชีวิตที่มั่นคงก่อนนะครับ

  • อย่างแรกที่สุดเราจะต้องลงทุนในการพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ

เพราะว่าสุดท้ายเราแล้ว คุณค่าที่อยู่กับตัวเรา ไม่มีทางที่ใครหน้าไหนจะขโมยไปจากเราได้ และเราสามารถสร้างสินทรัพย์ให้เติบโตจากการลงทุนในความรู้ความสามารถของเรา ดังนั้นแม้จะเรียนจบมาและเริ่มต้นทำงานแล้วก็ไม่ควรหยุดพัฒนาตัวเอง เรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ​พัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับงานของเรา โดยเฉพาะทักษะที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต จะช่วยทำให้เรามีประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา

  • อย่างที่ 2​ คือเรื่องของการลงทุนในสุขภาพ

ในวัย 30+ ผมอยากให้คำนึงถึงการดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้ กินอาหารดีๆ นอนหลับให้สนิท ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอคุณอาจจะคิดว่าอายุคุณยังน้อย แต่ผมเตือนไว้เลยนะครับว่า เวลามันผ่านไปเร็ว!

  • สุดท้ายคือเรื่องการลงทุนในความสัมพันธ์​​​​

เพราะวัยนี้ถึงจุดที่ต้องเริ่มคัดกรองคนที่จะเข้ามาในชีวิตเราการอยู่ท่ามกลางคนที่ต้องการเห็นเราได้ดี หรือต้องการเห็นเราประสบความสำเร็จ  มีทัศนคติที่เป็นบวก​ ให้กำลังใจซัพพอร์ตเราพยายามพูดคุยแต่ในเรื่องที่ดี  พูดคุยเพื่อการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ที่เป็นความก้าวหน้าในชีวิต

ถ้าคุณลงทุนแกนหลัก 3 อย่างนี้ก็จะช่วยสร้างพื้นฐานให้ชีวิตมีความแข็งแรง  มีความพร้อมที่จะลงทุนในเรื่องการเงินให้กับตัวเองเพื่อต่อยอดความสุขสบายในอนาคตได้แล้วเอาล่ะครับถัดมาก็คือวางแผนการเงินเมื่ออายุ 30  เพื่ออนาคตจะได้จับเงินล้าน ไม่ใช่เรื่องไกลตัว

หากคุณไม่เคยลงทุนเลย สิ่งแรกสุดที่ต้องทำ คือการตั้งเวลาในแต่ละวันเพื่อเรียนรู้เรื่องการลงทุนเชื่อว่าเมื่ออายุ 30 ปี คุณจะได้ทำงานมาระดับหนึ่งแล้ว  เมื่อการงานเข้าที่เข้าทาง มั่นคงระดับหนึ่ง​คุณควรแบ่งเวลาส่วนหนึ่งในการพัฒนาตัวเองมาพัฒนาเรื่องของการลงทุนได้ เพราะเวลานี้คุณน่าจะได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตจากเพื่อนๆ ​รุ่นพี่ในที่ทำงาน​และรู้ว่าในอนาคตที่คุณจะมีอายุมากขึ้น คุณก็จะทำงานได้น้อยลง ดังนั้นคุณจะต้องใช้เงินมาทำงานแทนคุณให้มากขึ้นนั่นเอง

หากถามว่าเราควรจะแบ่งเวลาเท่าไหร่ดี ผมมองว่าการที่จะแบ่งเวลาทำอะไรที่สำคัญในชีวิต​อย่างน้อยที่สุดควรจะ 1 ชั่วโมงต่อวัน ​คุณอาจจะอ่านหนังสือ  หรือเว็บไซต์ ข่าวสารการลงทุน  หรือจะฟัง Youtube ก็แล้วแต่สะดวกเลยครับ

ผมเข้าใจดีนะครับว่าหลายๆ คน พอเรียนจบปุ๊บ ช่วง 10 ปีแรกคือช่วงทำงานหาเงินเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว  พอฟังเรื่องลงทุนแล้วอาจจะรู้สึกไกลตัว หลายคนมักจะมีความคิดว่าต้องมีเงินก่อน​ หรือเก็บเงินให้ได้สักก้อน

ถ้าเราไม่มีความรู้เนี่ยเราอาจจะเก็บเงินไว้ในธนาคารก่อนก็ได้  เพราะว่าการลงทุนโดยที่คุณไม่มีความรู้ว่ามันคือความเสี่ยง ​แต่เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มใช้เวลาวันละ 1 ชั่วโมงเพื่อศึกษาหาความรู้ ​ผมเชื่อว่าผ่านไปไม่กี่เดือน​คุณก็จะมีความรู้เพียงพอที่จะเริ่มเห็นภาพแล้วว่า​การวางแผนการเงินต้องรู้อะไรบ้าง 

3 สิ่งที่จำเป็นต้องเอามาคำนวณเพื่องการวางแผนการเงิน

 1.    เงินต้นที่จะลงทุนมีเท่าไหร่

2.    ผลตอบแทนทบต้นต่อปีที่คาดหวัง

3.    ระยะเวลาลงทุนตามเป้าหมายหรือตามแผนเกษียณกี่ปี

เมื่อเป้าหมายที่จะมีเงิน 1 ล้านแรก คุณก็ต้องสำรวจตัวเอง ในส่วนของเงินต้น คุณน่าจะเห็นภาพแล้วว่าสามารถลงทุนได้ประมาณเดือนละเท่าไร และจากนี้เหลือเวลาอีกกี่ปี​ในการทำงานหาเงิน  ส่วนผลตอบแทนทบต้นที่เป็นไปได้สำหรับคนจำนวนมากคือควรจะอยู่ที่ประมาณ 8% ต่อปี​  เป็นระดับที่จะทำให้คุณเกษียณได้อย่างสบายใจระดับหนึ่งครับ

ทรัพย์สินอะไรบนโลกที่ให้ผลตอบแทนได้ประมาณ 8% ต่อปี​?

ทรัพย์สิน 2 อย่างที่ให้ผลตอบแทนระยะยาวประมาณ 8 - 10% ต่อปี ก็คือหุ้นกับอสังหาริมทรัพย์ ทีนี้คุณจะต้องเลือกเองว่าถนัดหรือชอบแบบไหน   อย่างตัวผมเองหรือคนจำนวนมากก็เลือกลงทุนในหุ้นมากกว่า เพราะว่าการลงทุนในอสังหาฯ ต้องลงมือลงแรงหลายอย่าง ไม่ว่าจะ กู้เงิน ปล่อยเช่า คอยดูแล​​ อาจจะวุ่นวายสำหรับคนที่มีงานประจำทำอยู่แล้ว 

และในแง่สภาพคล่อง หากเกิดเหตุฉุกเฉินที่ต้องการใช้เงินภายใน 3 วัน 5 วัน หากเป็นหุ้นก็ยังสามารถขายแล้วเอาเงินมาใช้ได้ แต่อสังหา​ฯ ต่อให้ลดราคาลง ก็ใช่ว่าจะขายได้ทันที ได้เงินเข้ากระเป๋าทันใจ​ ​ 

​อีกอย่างผมมอว่ายุคทองของอสังหาฯ หมดไประดับหนึ่งแล้ว เพราะว่าอสังหาฯ ดีๆ ก็มีคนซื้อไปหมดแล้ว คอนโดมีเนียมที่โลเคชั่นดีๆ ปล่อยเช่าง่ายก็เหลือน้อยแล้ว หรือ​ที่ดินดีๆ เมื่อถูกจองไปแล้ว หมดแล้วหมดเลย   ฉะนั้นยุคทองการซื้ออสังหาฯ ปล่อยเช่ามันผ่านไปแล้ว   ในขณะที่การลงทุนในหุ้น คือการเอาบริษัทดีๆ เข้ามาอยู่ในตลาดหุ้น ​ให้เราเป็นเจ้าของส่วนหนึ่ง  แต่ละวันมีหุ้นเกิดใหม่เสมอ​  ในยุคสมัยหนึ่ง​อาจจะเป็นหุ้นพลังงาน​  ยุคสมัยนี้กลายเป็นหุ้นดอทคอม ยุคสมัยหน้าอาจจะเป็นหุ้นเกี่ยวกับ AI  หรืออะไรก็ได้ที่จะมีให้ลงทุนหมุนเปลี่ยนไปตลอดเวลา

แต่ก่อนจะลงทุนใดๆ ผมเชื่อว่าคุณต้องคุ้นเคยกับคำว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน "

การลงทุนในหุ้นเอง​ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงหรือความผันผวนที่สูงมาก  ยิ่งหากลงทุนในหุ้นรายตัวด้วยตัวเอง บางครั้งอาจจะทำให้เราได้ผลตอบแทน 100% ในบางปีหรือเผลอๆ บางทีอาจจะขาดทุน 50% หรือบางคนขาดทุนหมดตัวเลยก็มีให้เห็นมาแล้วเช่นกัน เรียกว่าหุ้นรายตัวก็มีความเสี่ยงที่สูงมาก แล้วเป้าหมายการสร้างผลตอบแทน 8% ต่อปีจะเป็นไปได้หรือ

สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุน ผมแนะนำว่ายังไม่ควรไปลงทุนหุ้นรายตัว แต่ควรจะเลือกลงทุนในหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี  เช่นในกองทุนรวมหรือกองทุนส่วนบุคคลที่มีการกระจายลงทุนในหุ้นในประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ อย่างสหรัฐฯ  รวมถึงมีการจัดพอร์ตที่มีการถ่วงดุล​ระหว่างหุ้นกับพันธบัตรด้วย เพราะต่อให้เป็นหุ้นอเมริกาที่มีการกระจายความเสี่ยงได้ดี​ เเต่ผมอยากให้คุณลองคิดถึงปีที่เกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์​ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงมากว่า 40%

มือใหม่ที่เจอแบบนี้ก็อาจจะช็อกก็ได้จริงไหมครับเพราะฉะนั้นหากเป็นพอร์ตที่มีการซื้อหุ้นกับพันธบัตรคู่กันไปก็จะทำให้ผลตอบแทนมันอาจจะน้อยลงบ้าง  แต่ว่าความผันผวนก็น้อยลงไปด้วย  ซึ่งอาจจะเหมาะคนทั่วไปมากกว่านะครับ เหมือการลงทุนใน Global ETF ที่ผมมักจะแนะนำมือใหม่หลายๆ คน  ให้เริ่มลงทุนได้แบบกระจายความเสี่ยงรอบโลกเลย ทั้งหุ้นในอเมริกา หุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา​​  รวมถึงหุ้นกู้ของบริษัทเอกชนชั้นดีเป็นอีกพันบริษัท  โดยใช้หลักหลักการลงทุนที่ชื่อว่า Modern Portfolio Theory ซึ่งเป็นหลักการที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในการจัดพอร์ตทรัพย์สินต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยง  ที่สำคัญยังเป็นหลักการที่ได้รางวัลโนเบลอีกด้วย  มี AI คอยดูแลและปรับพอร์ตปรับน้ำหนักการลงทุนให้สัดส่วนเหมาะสม และมีการกระจายความเสี่ยงตรงตามหลักการไว้ตลอดเวลา

เพราะฉะนั้นมั่นใจได้ว่าเงินลงทุนก้อนนี้ ในระยะยาว​​จะค่อยๆ เติบโตขึ้น  ซึ่งมือใหม่ที่ยังอยู่ในวัย 30+ เพิ่งเริ่มต้นลงทุน ​มีความรู้ระดับหนึ่ง ผมก็มองว่า Global ETF แผนเติบโตมีความเหมาะสม เพราะจะมีสัดส่วนของหุ้นอยู่ถึง 80% ที่เหลืออีก 20% เป็นตราสารหนี้ ซึ่งผลตอบแทนคาดหวังของแผนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 8% ต่อปี   แต่เอาเข้าจริงในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาสูงกว่าผลตอบแทนคาดหวังนะครับ  ยิ่งถ้าคุณมีวินัยในการ DCA  ก็จะช่วยให้ไปถึงเป้าหมายเร็วขึ้นได้ครับ

หากเลข 1 ล้านบาทเป็นเป้าหมายที่คุณต้องการ ​ ผมจะจำลองแผนการเก็บออมให้คุณง่ายๆ ​ด้วยผลตอบแทน​คาดหวังที่ 8%

หากคุณ DCA เดือนละ 5,000 บาท จะใช้ระยะเวลาประมาณ 11 ปี​
หากคุณ DCA เดือนละ 20,000 บาท จะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ปี

เพียงเท่านี้คุณก็จะมีเงินออมแตะหลักล้านได้แบบสบายๆ ถือเป็นการเริ่มต้นวางแผนการเงินที่ง่าย และทำได้จริง ที่สำคัญ คุณยังมีเวลาส่วนตัวสำหรับการพัฒนาตนเอง หรือออกไปใช้ชีวิตได้ตามที่ได้จัดสรรเงินไว้ในแต่วัตถุประสงค์​แล้ว การวางแผนจะช่วยให้ชีวิตคุณยืดหยุ่นได้มากขึ้นและไปถึงเป้าหมายได้อย่างไม่ต้องกังวล

อย่าลืมนะครับ ไม่ว่าจะวัยไหน การลงทุนก็สามารถเริ่มต้นได้เสมอ แต่วางแผนทางการเงิน หากทำได้ยิ่งเร็ว ก็จะยิ่งใช้เวลาน้อยเพื่อไปถึงเป้าหมายนะครับ

ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์

ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. จิตตะ เวลธ์ จำกัด

แชร์
เคล็ดลับลงทุน ปั้นเงินล้านอย่างไรในวัย 30+