ข่าวเศรษฐกิจ

ธปท.ผ่อนคลายธุรกรรม เงินบาทผู้อยู่นอกประเทศ  เพิ่มความคล่องตัว

27 ก.ย. 66
ธปท.ผ่อนคลายธุรกรรม  เงินบาทผู้อยู่นอกประเทศ  เพิ่มความคล่องตัว

 

อัตราแลกเปลี่ยนเป็นส่วนหนึ่งของทุกคนไปแล้วในวันนี้ เมื่อเดินทางไปท่องเที่ยว ทำธุรกิจในต่างประเทศ หรือแม้แต่ช้อปปื้งออนไลน์ ซื้อขายหุ้นต่างประเทศก็ตาม 

โดยผู้มีถิ่นฐานที่อยู่นอกประเทศไทยในการนำเงินบาทเข้าออกไทย ที่ผ่านมาจะมีกฎเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กำหนดไว้ ล่าสุด ธปท.ได้มีการผ่อนเกณฑ์ เพื่อเพิ่มความคล่องตัว และช่วยลดภาระเรื่องเอกสาร น่าจะช่วยทำให้ประเทศไทยมีความน่าสนใจในการเข้ามาซื้อสินทรัพย์ในไทยมากขึ้น

นิติบุคคลทำธุรกรรมเงินบาทนอกประเทศไม่ต้องแสดงหลักฐาน

นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้ผ่อนคลายเกณฑ์การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินบาทของผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ (non-resident) กับสถาบันการเงินในประเทศเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและลดภาระด้านเอกสารหลักฐานให้ผู้ประกอบการต่างประเทศที่มีการค้าการลงทุนกับประเทศไทย ดังนี้

  1. ผ่อนคลายให้นิติบุคคลในต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจด้านการชำระเงิน สามารถเข้าร่วมโครงการ Non-resident Qualified Company (NRQC)

    โดยสามารถทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินบาทกับสถาบันการเงินในประเทศโดยไม่ต้องแสดงเอกสารหลักฐาน และสามารถฝากเงินบาทในบัญชีเงินบาทสำหรับผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ (Non-resident Baht Account : NRBA) ได้ไม่จำกัดยอดคงค้าง

นอกจากนี้ ยังได้ผ่อนคลายให้ NRQC สามารถทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินบาท ผ่านสถาบันการเงินในต่างประเทศให้ยืดหยุ่นขึ้น รวมทั้งปรับปรุงกระบวนการที่ สง. ต้องแจ้งข้อมูลของ NRQC ต่อ ธปท. ก่อนรับทำธุรกรรมให้ง่ายขึ้น

    2. ผ่อนคลายแนวปฏิบัติด้านเอกสารหลักฐานประกอบการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินบาทของ non-resident ประเภทอื่น ๆ ที่นอกเหนือจาก NRQC ให้ยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้ NR ที่มีการค้าการลงทุนในไทย สามารถทำธุรกรรมได้สะดวกขึ้น รวมทั้งเอื้อให้นักลงทุนต่างประเทศที่ลงทุนในหลักทรัพย์ไทย (end beneficiary) สามารถทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินในประเทศได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องผ่านผู้รับฝากหลักทรัพย์ในต่างประเทศ (global custodian)

ทั้งนี้ การผ่อนคลายดังกล่าวเป็นการดำเนินการต่อเนื่องตามแผนการผลักดันให้เกิดระบบนิเวศตลาดอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ (FX ecosystem) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและลดต้นทุนของผู้ประกอบการในการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ

นายแบงก์มองเกณฑ์นี้เพื่อเอื้อำนวยการทำธุรกรรม

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยกับ SPOTLIGHT ว่า “ การผ่อนคลายเกณฑ์ดังกล่าว ส่วนตัวมองว่า เป็นการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมเป็นหลัก ไม่น่าจะมีผลต่อค่าเงินมากนัก แต่อาจจะมีส่วนช่วยทำให้ การทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับเงินบาท เช่น การเข้ามาลงทุน ซื้อสินทรัพย์ไทย ให้น่าสนใจมากขึ้น”

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ขณะนี้มองว่า นักลงทุนต่างชาติยังไม่รีบกลับเข้ามาซื้อสินทรัพย์ไทยเนื่องจากบรรยากาศในตลาดการเงิน โดยเฉพาะฝั่งเอเชีย ยังไม่ค่อยสดใส และยังกังวลเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนอยู่ สำหรับตลาดบอนด์ของไทย นักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อเสถียรภาพการคลังของไทย

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT