ข่าวเศรษฐกิจ

ท่องเที่ยวจีนฟื้นแล้ว! หยุดยาว 5 วัน เดินทางกว่า 274 ล้านคน เงินสะพัด 7.2 แสนล้านบาท

5 พ.ค. 66
ท่องเที่ยวจีนฟื้นแล้ว! หยุดยาว 5 วัน เดินทางกว่า 274 ล้านคน เงินสะพัด 7.2 แสนล้านบาท

เศรษฐกิจจีนส่อแววฟื้น ภาคการท่องเที่ยวในประเทศกลับมาคึกคัก ช่วงวันหยุดยาว 5 วัน ระหว่างวันที่ 1-5 พ.ค. 2023 พบว่า มีคนจีนออกมาเดินทางท่องเที่ยวในประเทศถึง 274 ล้านคน เพื่อจับจ่ายใช้สอยช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

จากรายงานของรัฐบาลจีน เทศกาลท่องเที่ยวในปีนี้สร้างเงินสะพัดทั่วประเทศจีนถึง 1.48 แสนล้านหยวน หรือราว 7.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 128.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และอยู่ระดับเดียวกับปี 2019 ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19

โดยวันหยุดยาวในประเทศจีนครั้งนี้ ถือว่าเป็นวันหยุดยาวแรกหลังจากการเปิดประเทศ โดยสถิติการท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยของชาวจีน ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา จึงเป็นที่จับตามองของหน่วยงานจีน ซึ่งผลที่ออกมา ถือได้ว่า เป็นสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจจีน และหากการท่องเที่ยวของจีนยังสามารถคงระดับการฟื้นตัวในระดับนี้ต่อไปได้ ก็อาจมีความหวังว่า เศรษฐกิจจีนจะสามารถฟื้นตัวจากการระบาดของโควิดได้อย่างรวดเร็วในปีนี้ และจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก

สำหรับข้อมูลของ Trip เว็บไซต์ท่องเที่ยว พบว่า จำนวนตั๋วเครื่องบินที่จำหน่ายในช่วงหยุดยาวเพิ่มขึ้น 9 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากเที่ยวบินภายในประเทศ ยอดจองเที่ยวบินระหว่างประเทศยังเพิ่มขึ้นเกือบ 700%  ยอดจองโรงแรมเพิ่มขึ้น 450% และจำนวนตั๋วเพิ่มขึ้น 900% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

สำหรับอานิสงค์จากช่วงวันหยุดยาวในจีนนั้น มีอีกธุรกิจหนึ่ง คือ ‘ธุรกิจโรงภาพยนตร์’ โดยจากการรายงานของ CNBC โรงภาพยนตร์ในจีนสร้างได้รายได้ไปทั้งหมด 1.5 พันล้านหยวน หรือราว 7.3 พันล้านบาท ในช่วงหยุดยาว 5 วัน นับว่าเป็นระดับที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของสถิติช่วง May Day

istock-641840516

 

จีนเพิ่มไฟลท์มาไทยจาก 100 เป็น 430 เที่ยว/สัปดาห์

นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT เปิดเผยว่า กพท. ได้มีการประชุมร่วมกับสายการบินจีนกว่า 10 สาย เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อจัดสรรเที่ยวบินเพิ่มเติม ให้ตามที่ต้องการ และเป็นไปตามสิทธิ์ SLOT ที่ได้จัดสรรในตารางบินฤดูร้อน (Summer Schedule) โดยเบื้องต้น คาดว่าเที่ยวบินจากประเทศจีนจะทำการบินเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 430 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากปัจจุบันที่มีกว่า100 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เท่านั้น โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2023 เป็นต้นไป

ปัจจุบันปริมาณเที่ยวบินระหว่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสายการบินจากประเทศจีนที่มีความต้องการเปิดทำการบิน และเพิ่มความถี่มาที่สนามบินสุวรรณภูมิอย่างต่อเนื่อง แต่ทางสนามบินสามารถจัดสรรให้ได้ 10-20% ของความต้องการเท่านั้น เนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิมีข้อจำกัดในเรื่องการบริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (AOT) ได้มีการจัดหาผู้ให้บริการบริการภาคพื้น 2 ราย คือ บริษัท บริการภาคพื้นท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOTGA) และบริษัท พัทยาเอวิเอชั่นจำกัด มาช่วยให้บริการแบบชั่วคราว จนกว่า ทอท.จะประมูล PPP คัดเลือกผู้ให้บริการภาคพื้นรายที่ 3 ได้ ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถของบริการและรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้น

สำหรับสายการบินจากจีน ที่มีเที่ยวบินสู่ประเทศไทย มีจำนวน 24 สายการบิน เช่น แอร์ไชน่า, เซินเจิ้น แอร์ไลน์, ไชนา อีสเทิร์นแอร์ไลน์, ไชนา เซาเทิร์น แอร์ไลน์, เสฉวนแอร์ไลน์ และ คุนหมิงแอร์ไลน์ 

โดยตามตารางบินปัจจุบันเที่ยวบินจากประเทศจีนที่ได้รับจัดสรร ต่อสัปดาห์ ณ เดือนพ.ค. มีจำนวนทั้งหมด 152 เที่ยวบิน เดือนมิ.ย. จำนวน 327 เที่ยวบิน เดือนก.ค. จำนวน 450 เที่ยวบิน เดือนส.ค. จำนวน 452 เที่ยวบิน เดือนก.ย. จำนวน 444 เที่ยวบิน เดือนต.ค. จำนวน 413 เที่ยวบิน ซึ่งจะมีการเพิ่มขึ้นจากที่ได้รับจัดสรรอีกประมาณ 262 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

 

จีนภาคการผลิตซบเซา มุ่งกระตุ้นภาคการบริโภค

เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางการจีนได้ออกมาประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ พบว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจนอกอุตสาหกรรมการผลิตยังคงเติบโตขึ้นในเดือนเมษายน สะท้อนว่า จีนยังมีศักยภาพในการฟื้นตัวที่ดี แม้ภาคการผลิตที่เป็นธุรกิจสร้างรายได้หลักให้กับประเทศจะชะลอตัวลงไป 

โดยข้อมูลของหน่วยงานจีน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ หรือ PMI ของจีน ตกลงไปอยู่ที่ 49.2 ในเดือนเมษายน จาก 51.9 ในเดือนมีนาคม ถือเป็นระดับที่ต่ำที่สุด นับตั้งแต่จีนเปิดประเทศ สะท้อนว่า แรงกระตุ้นจากการเปิดประเทศเริ่มแผ่วลง และจีนไม่สามารถพึ่งพาภาคการผลิตในการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อีกแล้ว ทำให้หลังจากนี้ รัฐบาลจีนมีแผนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มการบริโภค และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคผ่านการเพิ่มรายได้แทน

Vontobel บริษัทจัดการทรัพย์สินจากสวิตเซอร์แลนด์ ได้วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจของจีนน่าจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยเฉพาะธุรกิจที่เน้นการผลิตสินค้าและบริการให้แก่ผู้บริโภค เช่น อีคอมเมิร์ซ และธุรกิจนันทนาการต่างๆ เช่น ภาพยนตร์ คอนเสิร์ต และการท่องเที่ยว

สำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานว่า สถิติที่ดีเยี่ยมของวันหยุดยาว May Day ในปีนี้ อาจเป็นจุดเปลี่ยนของภาคการท่องเที่ยวของจีน โดยสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน (China Tourism Academy) คาดการณ์ว่า จะมีคนจีนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศถึง 4.55 พันล้านคนในปีนี้ เพิ่มขึ้น 73% จากปี 2022

istock-1095976532




ที่มา: CNBC, SCMP

advertisement

SPOTLIGHT