สหรัฐ - ชาติพันธมิตร เล็งหาทางเพิ่มการคว่ำบาตรรัสเซียด้วยการ "ปิดช่องทางขายทองคำสำรอง"
สื่อต่างประเทศรายงานว่า บรรดาสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐจากทั้งสองพรรค กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินงานร่วมกับนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เพื่อหาทางเพิ่มการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียให้เข้มข้นขึ้น ด้วยการสกัดกั้นไม่ให้รัสเซียสามารถขายทองคำสำรองที่กักตุนอยู่ได้ ซึ่งปัจจุบัน รัสเซียถูกอายัดเงินและทรัพย์สินหลายอย่างไปแล้ว แต่ยังไม่รวมทองคำสำรอง ซึ่งรัสเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีทองคำสำรองมากที่สุดในโลก
รายงานระบุว่า สภาคองเกรสสหรัฐอาจผ่านเป็นกฎหมายห้ามบริษัทสัญชาติอเมริกัน รับซื้อ/ขายทองคำกับรัสเซีย และอาจบังคับใช้ไปยังบริษัทสัญชาติอื่นๆ เช่น จีนและอินเดีย ที่ทำธุรกิจอยู่กับสหรัฐด้วย
ทั้งนี้ รัสเซียเป็นประเทศที่มีทองคำสำรองมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก โดยคาดว่ามีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1.323 แสนล้านดอลลาร์ (มากกว่า 4 ล้านล้านบาท) ณ สิ้นเดือน ม.ค. 2565
รัสเซียเริ่มกว้านซื้อทองคำสำรองตุนมากขึ้น นับตั้งแต่ถูกสหรัฐคว่ำบาตรครั้งก่อนจากการบุกยึดพื้นที่คาบสมุทรไครเมีย ทางตอนใต้ของยูเครน เมื่อปี 2014 โดยรัสเซียซื้อทองคำเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ก่อนจะหยุดซื้อในช่วงปี 2020 เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเพิ่งเริ่มกลับมาตุนทองคำสำรองเพิ่มอีกครั้งในปีนี้
ก่อนหน้านี้ บรรดา ส.ส. และ ส.ว. สหรัฐส่วนหนึ่ง เคยแสดงความกังวลเรื่องที่รัสเซียอาจใช้คริปโทเคอร์เรนซีเป็นช่องทางหนีการคว่ำบาตรจากตะวันตก และพยายามเรียกร้องให้มีการปิดช่องทางจากบรรดาแพลตฟอร์มเอ็กซ์เชนจ์มาแล้ว แต่ไม่เป็นผล
ด้านนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษแสดงความคิดเห็นเมื่อวานนี้ ก่อนการประชุมขององค์กรสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่ประเทศเบลเยี่ยม ว่า อังกฤษและชาติตะวันตกควรเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย และควรหาหนทางที่จะป้องกันไม่ให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เข้าถึงทองคำสำรองของประเทศได้
“เราต้องทำมากกว่านี้” นายจอห์นสันกล่าว “เราควรเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจ เช่น การหาทางป้องกันไม่ให้ ปธน.ปูติน เข้าถึงทองคำสำรองได้ นอกเหนือไปจากในส่วนของเงินสดสำรอง”
“ยิ่งเราสร้างแรงกดดันได้มากเท่าไร โดยเฉพาะกับทองคำ ผมคิดว่าเราจะทำให้สงครามนี้จบได้เร็วขึ้น” นายจอห์นสัน ระบุ