นายฮาวเวิร์ด ลัตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ และจีนได้ลงนามในข้อตกลงการค้าที่ทั้งสองฝ่ายเจรจาไว้ที่นครเจนีวา โดยดีลนี้เพิ่งได้ข้อสรุปและลงนามเป็นทางการเมื่อสองวันก่อน พร้อมกันนี้ ลัตนิกระบุว่า ทำเนียบขาวกำลังเดินหน้าเร่งเจรจาข้อตกลงการค้าเพิ่มเติมกับอีก 10 ประเทศคู่ค้ารายสำคัญในลำดับถัดไป เพื่อผลักดันแผนการค้าระดับโลกของสหรัฐฯ ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ในส่วนของไทย นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีกำหนดเดินทางเยือนสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า เพื่อเข้าร่วมการเจรจาปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย โดยตั้งเป้าบรรลุข้อตกลงให้ทันก่อนถึงเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่สหรัฐฯ กำหนดไว้สำหรับการตัดสินใจว่าจะกลับมาใช้มาตรการขึ้นภาษีหรือไม่
นายพิชัยชี้แจงผ่านโพสต์ในแพลตฟอร์ม X เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนว่า ข่าวที่ระบุว่าไทยและสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงในการกำหนดอัตราภาษีที่ 18% นั้น “ไม่เป็นความจริง” โดยย้ำว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียง “ค่าประมาณการ” ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยและนักเศรษฐศาสตร์ใช้ประกอบการวิเคราะห์เชิงสมมติฐานเท่านั้น ยังไม่มีผลจากการเจรจาหรือข้อเสนออย่างเป็นทางการ
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 เมษายน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศนโยบายจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตราสูงถึง 36% แต่ได้มีการระงับการจัดเก็บชั่วคราวเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายเข้าสู่การเจรจา ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม
การเจรจาระหว่างไทยและสหรัฐฯ เริ่มต้นอย่างเป็นทางการค่อนข้างล่าช้า โดยไทยเพิ่งยื่นข้อเสนอเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากการหารือในระดับเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ข้อเสนอของไทยมีความเหมาะสมและมีโอกาสที่สหรัฐฯ จะพิจารณาปรับลดอัตราภาษีลงมาใกล้ระดับฐานที่ 10% ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายที่ไทยต้องการให้สหรัฐฯ ยอมรับในกรอบการเจรจาครั้งนี้
การเดินทางของนายพิชัยเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ กำลังเร่งเดินหน้าปิดดีลทางการค้ากับประเทศต่าง ๆ หลังจากที่นายฮาวเวิร์ด ลัตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อไม่นานนี้ว่าสหรัฐฯ และจีนได้ลงนามในข้อตกลงทางการค้าเมื่อสองวันก่อน ซึ่งเป็นการรับรองข้อตกลงที่เจรจากันเมื่อเดือนที่แล้วที่นครเจนีวา
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว จีนตกลงจะจัดส่งแร่หายาก (Rare Earths) ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในอุตสาหกรรมตั้งแต่กังหันลมไปจนถึงเครื่องบินเจ็ต ให้กับสหรัฐฯ และเมื่อจีนจัดส่งสินค้าดังกล่าว สหรัฐฯ จะยกเลิกมาตรการตอบโต้ที่เคยบังคับใช้
“พวกเขาจะจัดส่งแร่หายากให้เรา และเมื่อจัดส่ง เราจะยกเลิกมาตรการตอบโต้” นายลัตนิกกล่าวกับ Bloomberg News
ข้อตกลงนี้ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวว่าสอดคล้องกับเงื่อนไขที่ตกลงกันในเจนีวา โดยโฆษกสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันปฏิเสธให้ความเห็น ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจีนในกรุงปักกิ่งยังไม่ตอบคำถามของสื่อในวันศุกร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ แม้ข้อตกลงกับจีนครั้งนี้จะถือเป็นก้าวสำคัญในการลดข้อพิพาทการค้า แต่ยังไม่ถือเป็นข้อตกลงการค้าเต็มรูปแบบ เนื่องจากยังไม่ครอบคลุมประเด็นที่ซับซ้อน เช่น การลักลอบขนส่งยาเฟนทานิล หรือการเปิดตลาดจีนให้ผู้ส่งออกสหรัฐฯ เข้าแข่งขันอย่างเสรี
ก่อนหน้านี้ ในการเจรจาที่เจนีวา ทั้งสองประเทศสามารถตกลงลดภาษีบางส่วนได้ แต่ภายหลังกลับกล่าวหากันว่าฝ่ายตรงข้ามละเมิดข้อตกลง จนกระทั่งการเจรจาที่กรุงลอนดอนเมื่อเดือนนี้ ทั้งสองฝ่ายจึงประกาศว่าบรรลุความเข้าใจร่วมกัน โดยรอการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
ตามข้อตกลงที่ลงนามเมื่อสองวันก่อน สหรัฐฯ จะยกเลิกมาตรการตอบโต้ที่ใช้ก่อนการเจรจาที่ลอนดอน เช่น ข้อจำกัดการส่งออกวัตถุดิบสำคัญ ได้แก่ อีเทน (Ethane) ซึ่งใช้ในการผลิตพลาสติก ซอฟต์แวร์ชิป และเครื่องยนต์เจ็ต แต่จะดำเนินการก็ต่อเมื่อจีนเริ่มจัดส่งแร่หายากมายังสหรัฐฯ
ในช่วงหลัง กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้เริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดการส่งออกอีเทน โดยอนุญาตให้บริษัทพลังงานสามารถขนถ่ายก๊าซดังกล่าวขึ้นเรือเพื่อส่งออกไปยังจีนได้ แต่ยังไม่อนุญาตให้ขนถ่ายสินค้าลงที่ท่าเรือจีนโดยไม่ได้รับการอนุมัติ
Bloomberg รายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้บริษัทอเมริกันที่ต้องพึ่งพาแร่หายากจากจีน ยังคงรอการอนุมัติจากรัฐบาลจีนในการส่งออกสินค้าออกนอกประเทศ
นายลัตนิกเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ตั้งเป้าจะสรุปข้อตกลงการค้าอีกหลายฉบับภายในสองสัปดาห์นี้ เพื่อให้ทันก่อนเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่สหรัฐฯ เตรียมพิจารณาว่าจะรื้อฟื้นการขึ้นภาษีที่ถูกระงับไว้ตั้งแต่เดือนเมษายนหรือไม่
“เราจะทำข้อตกลงกับ 10 ประเทศสำคัญ จัดเรียงให้อยู่ในกลุ่มที่เหมาะสม จากนั้นประเทศอื่น ๆ จะตามมา” ลัตนิกกล่าว โดยยังไม่เปิดเผยรายชื่อประเทศในกลุ่มเจรจารอบแรก แต่ทรัมป์ส่งสัญญาณว่าสหรัฐฯ กำลังใกล้บรรลุข้อตกลงกับอินเดียด้วยเช่นกัน
ทรัมป์เตือนว่าหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทันตามกรอบเวลา สหรัฐฯ จะส่ง “หนังสือกำหนดเงื่อนไขการค้า” ไปยังประเทศต่าง ๆ โดยจะจัดกลุ่มประเทศภายในวันที่ 9 กรกฎาคม และอาจขยายเส้นตายเพื่อเปิดทางให้เจรจาต่อได้
“ใครที่ทำข้อตกลงกับเราจะได้รับสิทธิ์ตามที่ตกลง ส่วนใครที่ยังเจรจาไม่เสร็จ เราจะออกหนังสือตอบกลับและจัดเข้าแพ็กเกจที่กำหนด” ลัตนิกกล่าว พร้อมเสริมว่า “หากใครต้องการเจรจาต่อภายหลังก็ทำได้ แต่เราจะตั้งอัตราภาษีไว้ล่วงหน้าแล้วเดินหน้าต่อทันที”