Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
Bond Yield ญี่ปุ่นพุ่งแรง สัญญาณเตือน ‘วิกฤตซ้อนวิกฤต’ เศรษฐกิจโลก
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

Bond Yield ญี่ปุ่นพุ่งแรง สัญญาณเตือน ‘วิกฤตซ้อนวิกฤต’ เศรษฐกิจโลก

11 มิ.ย. 68
17:36 น.
แชร์

ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2025 ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาไปที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นระยะยาว (Bond Yield) พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 25 ปี โดยเฉพาะพันธบัตรอายุ 30 ปี ที่พุ่งขึ้นแตะ 3.14% และพันธบัตรอายุ 40 ปีพุ่งทะลุถึง 3.6% ซึ่งถือเป็นระดับประวัติการณ์ และกลายเป็น "สัญญาณเตือน" ที่นักลงทุนทั่วโลกไม่อาจมองข้าม

เหตุใดการขึ้นของ Bond Yield จึงสร้างความตื่นตระหนก?

Bond Yield ขึ้น…แปลว่าอะไร?

อัตราผลตอบแทนพันธบัตร หรือ Bond Yield คือผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับจากการถือพันธบัตร หาก Yield ขึ้น แสดงว่า "ราคาพันธบัตรลดลง" ซึ่งหมายความว่า ตลาดมีความเชื่อมั่นต่อพันธบัตรลดลง หรือกังวลต่อความเสี่ยงของประเทศผู้ออกพันธบัตรนั้น ๆ

ในทางเศรษฐกิจ Bond Yield ยังสะท้อน "ต้นทุนทางการเงินของทั้งระบบเศรษฐกิจ" เพราะยังถูกใช้เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง หาก Yield ขึ้น สถาบันการเงิน บริษัทเอกชน และรัฐบาลเองจะต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้นเมื่อกู้ยืมเงิน ส่งผลกระทบต่อการลงทุน การบริโภค และเสถียรภาพทางการเงินโดยรวม

ทำไม Bond Yield ญี่ปุ่นพุ่ง จึงสะเทือนโลก?

ข้อมูลจาก KAsset ระบุว่า ญี่ปุ่นไม่ใช่แค่ประเทศพัฒนาแล้วอันดับต้น ๆ แต่ยังเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา หากต้นทุนทางการเงินของญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้น รัฐบาลญี่ปุ่นอาจต้องดึงเงินลงทุนกลับจากต่างประเทศ เพื่อบริหารหนี้ภายในประเทศซึ่งสูงถึง 260% ของ GDP ซึ่งทำให้เกิดกระแสความกังวลว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของ "โดมิโน่ทางการเงิน"หรือไม่ ? วิกฤตที่เศรษฐกิจกำลังเผชิญกับความผันผวนของสงครามการค้าจากภาษีทรัมป์ยังไม่พอ จะเจอซ้อนวิกฤตจากประเด็นเรื่องบอนด์ยีลด์ญี่ปุ่นด้วยหรือไม่? 

เบื้องหลัง Bond Yield ญี่ปุ่นพุ่ง: ตลาดบิดเบี้ยวจากนโยบาย BOJ

หนึ่งในเหตุผลที่ตลาดกังวลมาก คือ ตลาดพันธบัตรญี่ปุ่นถูกบิดเบี้ยวจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มายาวนาน โดย BOJ ใช้นโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve Control) มาตั้งแต่ปี 2016 และเคยซื้อพันธบัตรญี่ปุ่นมากถึง 52% ของตลาด ทำให้ราคาไม่สะท้อนความต้องการที่แท้จริง เพราะในยุคนั้นญี่ปุ่นต้องการฟื้นเศรษฐกิจ จึงต้องกดดอกเบี้ยต่ำยาวนาน 

แต่ตั้งแต่กลางปี 2024 BOJ เริ่มลดการซื้อพันธบัตร และในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน ได้ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี สู่ระดับ 0.25% พร้อมส่งสัญญาณลดการแทรกแซงตลาด ส่งผลให้ Yield เริ่มปรับขึ้นต่อเนื่องจนมาถึงระดับสูงสุดในปี 2025 นี้

สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนขึ้น เมื่อญี่ปุ่นต้องเผชิญกับ

  • เงินเฟ้อที่เริ่มเร่งตัว เช่น ข่าวราคาข้าวญี่ปุ่นแพง
  • ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าอย่างหนัก ทำให้เงินทุนไหลออก

สองปัจจัยนี้ยิ่งกดดันให้ BOJ ต้อง “ยอมขึ้นดอกเบี้ย” ซึ่งเป็นอีกแรงผลักดันให้ Yield พุ่งไม่หยุด

‘วิกฤตซ้อนวิกฤต’ กำลังมา?

หาก GDP ของญี่ปุ่นยังคงหดตัวเช่นในไตรมาสแรกของปี 2025 ที่ติดลบ 0.2% แต่ต้นทุนการเงินในระบบกลับสูงขึ้นจาก Yield ที่เพิ่มขึ้น นั่นอาจหมายถึง “เศรษฐกิจถดถอย + ดอกเบี้ยสูง” อาจกระทบทั้งประเทศและลุกลามสู่การเงินโลก

คำถามใหญ่ในตอนนี้คือ BOJ จะทำอย่างไรต่อไป?

  • จะลดการซื้อพันธบัตรตามแผนเดิมหรือหยุดแทรกแซงตลาด?
  • จะขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมหรือไม่?
  • จะสามารถสื่อสารนโยบายเพื่อรักษาเสถียรภาพตลาดได้หรือไม่?

ทั้งนี้ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน BOJ ในเดือนมิถุนายน 2025 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทั่วโลกกำลังจับตา

ที่มาข้อมูล : KAsset

แชร์
Bond Yield ญี่ปุ่นพุ่งแรง สัญญาณเตือน ‘วิกฤตซ้อนวิกฤต’ เศรษฐกิจโลก