สินทรัพย์ดิจิทัล

SCBX แจงลงทุนคริปโทไม่ถึงล้าน ราคาผันผวนไม่กระทบ-ดีล Bitkub ยังไม่คืบ

22 ก.ค. 65
SCBX แจงลงทุนคริปโทไม่ถึงล้าน ราคาผันผวนไม่กระทบ-ดีล Bitkub ยังไม่คืบ
ไฮไลท์ Highlight
  • 'เอสซีบี เอกซ์' ออกมาชี้แจงลงทุนคริปโทน้อยมาก ไม่ถึง 1 ล้านดอลลาร์ หวังเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่
  • ส่วนดีลซื้อ Bitkub ยอมรับยังไม่มีอะไรคืบหน้า กำลังทำ Deal Dueligence

นายมาณพ เสงี่ยมบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน บมจ.เอสซีบี เอกซ์ หรือ (SCB) กล่าวว่า การลงทุนในคริปโทเคอเรนซี่ ของกลุ่มอยู่ในรูปแบบของการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ เพื่อทดลอง เรียนรู้ระบบการทำงาน และระบบนิเวศน์ของเหรียญคริปโทฯ ไม่ได้เข้าไปเก็งกำไรโดยตรง แต่เป็นการลงทุนเพื่อทำให้บริษัทได้มีประสบการณ์ในเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพที่เกี่ยวเนื่องกับ Digital Asset มีมูลค่าไม่มาก หรือน้อยกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และที่ผ่านมาเราก็ไม่ได้มีผลขาดทุนที่เราไปลงทุนเพราะถ้ามีผลกระทบเราจะต้องรับรู้และบันทึกในงบอยู่แล้ว

 

"SCB10X มีการลงทุนในคริปโท อยู่บ้าง แต่มูลค่าน้อยมาก ไม่ถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นสัดส่วนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับการลงทุนในเทคโนโลยีอื่นๆ หรือบริษัทที่เป็นสตาร์ทอัพ และความผันผวนที่เกิดขึ้นกับตลาดคริปโท ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อการลงทุนของบริษัท และไม่ได้กระทบมาถึงผลการดำเนินงานของบริษัทด้วยเช่นกัน เพราะจุดประสงค์ของเราไม่ได้ลงทุนเพื่งหวังเก็งกำไร แต่เพื่อให้เราได้เรียนรู้เทคโนโลยี หาโอกาสนำมาใช้เสริมศักยภาพการทำงานและการพัฒนาบริการของเรา" นายมาณพ กล่าว



สำหรับความคืบหน้าการเจรจาซื้อหุ้น บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด(Bitkub)ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทย (Digital Asset Exchange) ขณะนี้ยังคงไม่มีพัฒนาการใหม่ๆ ที่มีความคืบหน้า หลังจากได้แจ้งกับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ไปแล้วว่าดีลดังกล่าวได้เลื่อนออกไป โดยยังไม่มีกำหนดเวลาชัดเจน เพราะอยู่ระหว่างทำการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะธุรกิจ(Deal Dueligence) และเจรจาพูดคุย ปรึกษากับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และหน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้อง

 

"ดีลนี้ยังอยู่ แต่ไช้เวลาศึกษาความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และผลตอบแทน รวมถึงการมองหาโอกาสใหม่ๆในการลงทุนในรูปแบบอื่นๆเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งหากมีความคืบหน้าที่ชัดเจนบริษัทจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง" นายมาณพ กล่าว

 

นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 4/2565 บริษัทคาดว่าจะมีความชัดเจนในการแยกธุรกิจธนาคารบางส่วนออกมาจากธุรกิจของธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อทำให้การเดินหน้าธุรกิจในเครือทำได้เต็มที่ตามแผนงาน ซึ่งมีส่วนของธุรกิจการเงินบางธุรกิจที่จะต้องแยกออกมา และธุรกิจเทคโนโลยี ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 15-20% ของรายได้รวมของเอสซีบี เอ็กซ์

 

สำหรับธุรกิจด้านการเงินอื่นๆในเครือ SCB10X คาดว่าจะเห็นการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง และสร้างผลการดำเนินที่ดีเข้ามาให้กับบริษัท ทั้งธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล CardX ธุรกิจสินเชื่อแพลทฟอร์มดิจิทัล SCB ABACUS และ MONIX ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์และส์นเชื่อจำนำทะเบียนรถ autoX ที่ได้เริ่มเปิดตัวสินเชื่อเงินไชโย ไปแล้ว และขยายสาขาไป 700 สาขา โดยที่บริษัทคาดว่าจะการขยายตัวของธุรกิจด้านการเงินอื่นๆในกลุ่มขยายตัวมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้

 

ด้านธุรกิจเทคโนโลยียังเดินหน้าพัฒนาบริการใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง และขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะแพลทฟอร์มโรบินฮู้ด ที่จะมีการขยายการให้บริการใหม่ๆออกมาเพิ่มเติมในครึ่งปีหลังนี้ หลังจากเปิดให้บริการจองโรงแรมไปแล้วในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งต่อไอดมาจากการให้บริการเดลิเวอร์ลี่อาหาร รวมถึงการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและสินทรัพย์ด์จิที่ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนเพื่อนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เสริมศักยภาพในการให้บริการและการทำงานด้านต่างๆของกลุ่มเอสซีบี เอ็กซ์

advertisement

SPOTLIGHT