สินทรัพย์ดิจิทัล

ธปท. ห้ามแบงก์ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล เกิน 3% ของเงินกองทุน แต่ชี้ช่อง SCB ใช้โฮลดิ้งลงทุนแทนได้

24 มี.ค. 65
ธปท. ห้ามแบงก์ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล เกิน 3% ของเงินกองทุน แต่ชี้ช่อง SCB ใช้โฮลดิ้งลงทุนแทนได้

แบงก์ชาติ ออกฎคุมเข้มแบงก์พานิชย์ ห้ามลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล เกิน 3% ของเงินกองทุน เพื่อ จำกัดความเสี่ยงใหม่ ๆ ที่อาจกระทบ แต่ชี้ช่อง SCB ใช้โฮลดิ้งลงทุน BITKUB แทนได้ ไม่เข้าข่ายโดนควบคุม

 
 
 นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยว่า ภายใต้แนวนโยบายภูมิทัศน์ใหม่ภาคการเงินไทยเพื่อเศรษฐกิจดิจิทัลและการเติบโตอย่างยั่งยืน (แนวนโยบาย Financial Landscape) ที่มุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมนวัตกรรมและการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้ภาคการเงินสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการพัฒนานวัตกรรมและบริการทางการเงินที่ดีขึ้นที่ผ่านมาเทคโนโลยีในภาคการเงินที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วผลักดันให้ธนาคารพาณิชย์ (ธพ.)
 
 
เริ่มปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจทางการเงิน และให้ความสนใจกับการเพิ่มบทบาทในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (digital assets: DA) มากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสในการยกระดับการให้บริการทางการเงิน แต่ก็อาจทำให้เกิดความเสี่ยงรูปแบบใหม่ ๆ แบงก์ชาติจึงได้ปรับปรุงเกณฑ์ให้กลุ่ม ธพ. มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการประกอบธุรกิจ และยกระดับการกำกับกลุ่ม ธพ. ให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่เปลี่ยนไป
.
 
โดยพิจารณาทั้งประโยชน์ต่อประชาชนและความเสี่ยงต่อเสถียรภาพของระบบการเงินโดยรวม ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้
 
 

-ยกเลิกเพดานการลงทุนในธุรกิจ FinTech จากเดิมที่เคยกำหนดไว้ที่ 3% ของเงินกองทุน เพื่อให้กลุ่ม ธพ. ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) ได้มากขึ้น เนื่องจากเห็นประโยชน์ที่ชัดเจน อีกทั้งกลุ่ม ธพ. มีประสบการณ์การลงทุนในธุรกิจ FinTech มากขึ้น และหน่วยงานกำกับดูแลมีแนวทางดูแลความเสี่ยงในระดับหนึ่งแล้ว

 
 

-ให้บริษัทในกลุ่ม ธพ. สามารถลงทุนในกิจการที่ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ DA ภายใต้เพดานที่ 3% ของเงินกองทุน เพื่อให้การขยายตัวเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ช่วยจำกัดความเสี่ยงใหม่ ๆ ที่อาจกระทบความเชื่อมั่นต่อ ธพ.

 
 
และให้กลุ่ม ธพ. พิจารณาการลงทุนหรือจัดสรรทรัพยากรอย่างรอบคอบ โดยเมื่อมีมาตรฐานการกำกับดูแลที่เป็นสากลหรือมีแนวทางการบริหารความเสี่ยงที่ชัดเจนเพียงพอ ก็สามารถปรับเพิ่มหรือยกเลิกเพดานการลงทุนที่กำหนดได้เป็นการทั่วไป เช่นเดียวกับเพดานการลงทุนในธุรกิจ FinTech
 
 

-หาก ธนาคารพาณิชย์ สามารถยกระดับมาตรฐานของกิจการ DA ใดให้เป็นไปตามที่กำหนดได้ เช่น เรื่องธรรมาภิบาล การดูแลความเสี่ยงระบบงาน และการคุ้มครองผู้ใช้บริการ อนุญาตให้ไม่นับเงินลงทุนของกิจการนั้นในเพดานการลงทุน เพื่อสร้างแรงจูงใจในการยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจ DA ในกลุ่ม ธพ. อันจะนำไปสู่การยกระดับมาตรฐานธุรกิจ DA ของประเทศ

 
 

-ให้ธุรกิจที่ยังมีความเสี่ยงหรือยังไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล สามารถดำเนินงานในกรอบ Sandbox ได้ในวงจำกัดก่อน เพื่อพิจารณาถึงประโยชน์ของประเทศ การดูแลความเสี่ยง และผลกระทบต่อระบบในภาพรวม ก่อนการให้บริการในวงกว้างต่อไป

 
 

-ให้กลุ่ม ธพ. จำกัดความเสี่ยงจากความเชื่อมโยงที่อาจเกิดต่อ ธพ. เพื่อให้การดำเนินงานในธุรกิจใหม่ ๆ ของกลุ่ม ธพ. ไม่กระทบต่อผู้ฝากเงินและระบบการเงิน โดยยังไม่อนุญาตให้ ธพ. ประกอบธุรกิจ DA ได้โดยตรง กลุ่ม ธพ. มีโครงสร้างกรรมการที่ไม่มีการขัดกันของผลประโยชน์ มีเงินกองทุนเพียงพอรองรับความเสี่ยงใหม่ ๆ และ ธพ. มีระบบงานต่าง ๆ แยกออกจากธุรกิจที่มีความเสี่ยง

 
 
นอกจากนี้ กลุ่ม ธพ. ในฐานะที่เป็นกลุ่มธุรกิจที่ถูกกำกับดูแลอย่างเข้มข้น ได้รับความไว้วางใจจากสาธารณชน และสามารถขยายตลาดสำหรับบริการใหม่ ๆ ได้เร็วจากฐานลูกค้าที่กว้างและหลากหลาย ซึ่งรวมถึงประชาชนกลุ่มเปราะบางด้วยนั้น
จะต้องให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้ใช้บริการ การแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะ DA ที่มีความเสี่ยงสูงจึงต้องทำอย่างระมัดระวัง พิจารณาถึงความรู้ทางการลงทุนและความสามารถในการรับความเสี่ยงของลูกค้าด้วย
 
 
แบงก์ชาติเชื่อว่าการปรับเกณฑ์ดังกล่าว จะเอื้อให้ธุรกิจในภาคการเงินสามารถปรับตัวได้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี สามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน ระบบการเงินได้รับประโยชน์จากการแข่งขัน เกิดการพัฒนาบริการให้มีประสิทธิภาพ
 
 
เพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินของประชาชน และทำให้ธุรกิจ DA ในประเทศมีมาตรฐานการบริการที่เป็นที่ยอมรับ ภายใต้การบริหารความเสี่ยงที่ดี ผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองอย่างเหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับผลลัพธ์ที่คาดหวัง รวมทั้งผลการรับฟังความคิดเห็นต่อแนวนโยบาย Financial Landscape
 
 
ทั้งนี้ แบงก์ชาติจะออกร่างหลักเกณฑ์เพื่อรับฟังความเห็นบน BOT website ก่อนที่จะออกประกาศหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องภายในครึ่งแรกของปี 2565
 
 

สำหรับ กรณีของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เข้าลงทุนใน BITKUB Capital Group จะต้องพิจารณาว่าเกินกว่า 3% ของเงินกองทุนตามหลักเกณฑ์ใหม่ของ ธปท.หรือไม่ แต่หากเกิน 3% ก็สามารถทำได้ผ่านโฮลดิ้ง เอสซีบี เอกซ์ ในส่วนที่เกินจาก 3% แต่อาจมีผลให้เงินกองทุนลดลง ซึ่งถ้าเป็นแนวทางนี้ธนาคารอาจต้องเพิ่มเงินกองทุนด้วยหรือไม่

แต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติในการขยายการลงทุนที่จะต้องเพิ่มทุน ทั้งนี้ เข้าใจว่าทาง SCB อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าการลงทุนดังกล่าวจะแตกต่างไปจากเดิมที่เคยประกาศไว้หรือไม่

ทั้งนี้ ธปท.จะออกหลักเกณฑ์ให้ธนาคารพาณิชย์ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีหน่วยงานกำกับดูแลให้ใบอนุญาตแล้ว เช่น ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือเอกซ์เชนจ์, โบรกเกอร์ และดีลเลอร์ เป็นต้น รวมถึงธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ประโยชน์

และความเสี่ยงยังไม่ชัดเจน และเข้าทดทอบในแซนด์บ็อกซ์ของ ธปท.ให้สามารถลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ได้ไม่เกิน 3% ของเงินกองทุนกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จากเดิมไม่สามารถให้ลงทุนได้ คาดหลักเกณฑ์จะออกและมีผลบังคับใช้ช่วงกลางปี 2565

อย่างไรก็ตาม หากกลุ่มธุรกิจการเงินธนาคารพาณิชย์สามารถมีแนวทางจัดการด้านความเสี่ยง สามารถดูแลทั้งเรื่องธรรมาภิบาล ความเสี่ยงระบบงาน และคุ้มครองผู้ใช้บริการได้ จะอนุญาตให้ปลดล็อกเพดานเงินลงทุนที่ 3% และให้กลุ่มธุรกิจการเงินธนาคารพาณิชย์ ไม่เชื่อมโยงกับธนาคารพาณิชย์สามารถดำเนินการได้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้ฝากเงินและระบบการเงิน

แต่ ธปท.ยังไม่อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง และธุรกิจการเงินธนาคารพาณิชย์ต้องมีโครงสร้างกรรมการไม่ขัดต่อผลประโยชน์ มีเงินกองทุนเพียงพอรองรับความเสี่ยง และแยกธุรกิจที่มีความเสี่ยงออกจากธนาคารพาณิชย์

นางรุ่ง กล่าวว่า แนวทางการกำกับดูแลกลุ่มธุรกิจการเงินของธนาคารพาณิชย์ ที่ผ่านมาให้เกี่ยวข้องกับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลทางอ้อมได้ แต่ต้องมาหารือกับ ธปท.ก่อน เช่น การขอให้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกใบอนุญาตเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) การเป็นโบรกเกอร์หรือเอ็กซ์เชนจ์สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นต้น ซึ่งจะต้องไม่กระทบกับความเสี่ยงของเงินฝากประชาชน โดยยังไม่ให้ธนาคารพาณิชย์ยุ่งเกี่ยวโดยตรง

นอกจากนี้ ไม่อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ กลุ่มธุรกิจธนาคารพาณิชย์เสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือกระตุ้นความสนใจลูกค้าในวงกว้าง เช่น เสนอขายลูกค้าธนาคารผ่านสาขา เว็บไซต์ แอปพลิเคชั่น และไม่อนุญาตให้ขอความยินยอมจากลูกค้า รวมทั้ง ต้องจัดให้มีโครงสร้างกรรมการ มีหลักธรรมาภิบาลที่ดี

ต้องพิทักษ์เงินฝากเต็มที่ ไม่ขัดแย้งผลประโยชน์ ต้องมีเงินกองทุนเพียงพอรองรับความเสี่ยง และระบบงานไอที ต้องแยกออกจากระบบเกี่ยวข้องกับธนาคารพาณิชย์ชัดเจน เพื่อปกป้องเงินฝาก ซึ่งจะต้องเพียงพอรองรับความเสี่ยงและรองรับรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ

ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2565 ธนาคารไทยพาณิชย์ มีเงินกองทุนทั้งสิ้นรวมอยู่ที่ 424,235 ล้านบาท โดยหากจะลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่สัดส่วน 3% ของเงินกองทุนจะสามารถลงทุนได้ประมาณ 12,727 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือน พ.ย. 2564 บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) ประกาศลงทุนใน “บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด”ผู้ทำธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทย (Digital Asset Exchange)

ด้วยการเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 51% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดจากบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 17,850 ล้านบาท โดยมีในเครือของ SCB คือ “บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด” (SCBS) เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด

 
 
 

advertisement

SPOTLIGHT