เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ผ่านมา ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Zipmex Thailand ได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางเพจ Zipmex Thailand อีกครั้งหลังเหตุการณ์ระงับการถอนเงินสดและคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งมีสาเหตุมาจากปัญหาสภาพคล่องของบริษัทแม่ Zipmex Global กับคู่ค้า ‘Babel finance’ และ ‘Celsius’ โดยแถลงการรณ์ครั้งนี้ ครอบคลุม 5 ประเด็นหลัก ดังนี้
1.Zipmex กับกรณี Babel Finance
-เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา Babel Finance หนึ่งในคู่ค่าที่ Zipmex Global ได้ร่วมลงทุนเป็นมูลค่า 48 ล้านดอลลาร์ ได้ประกาศยุติการถอนเงินชั่วคราวกับลูกค้าทุกราย
-Zipmex Global จึงติดต่อสำนักงานกฎหมายที่สิงคโปร์เพื่อเรียกร้องให้ Babel Finance คืนสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนดังกล่าวเร็วที่สุด
-เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Zipmex Global ได้เจรจากับ Babel Finance เพื่อเรียกร้องสินทรัพย์จำนวนดังกล่าวคืน ซึ่งผลการเจรจาออกมาเป็นเชิงลบ และไม่เป็นที่น่าพอใจ จึงเริ่มกระบวนการฟ้องร้อง Babel Finance เพื่อเรียกร้องสินทรัพย์จำนวนดังกล่าวคืน
-ก่อนหน้านี้ ดร.เอกลาภ ได้กล่าวว่า จะฟ้องร้อง Zipmex Global ขอชี้แจงว่าเป็นการสื่อสารผิดพลาด โดยมีความตั้งใจจะร่วมกับ Zipmex Global เพื่อฟ้องร้อง Babel Finance เพื่อเรียกคืนสินทรัพย์จำนวนดังกล่าวของลูกค้า
-โดย Zipmex Thailand ได้หารือสำนักกฎหมายในไทย เชิญชวนลูกค้ามาร่วมทำการฟ้องร้องแบบกลุ่มต่อไป
2. Zipmex กับกรณี Celsius
-เนื่องจากการลงทุนของ Zipmex Global ในบริษัท Celsius มีมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์ บริษัทประเมิณจากงบดุลแล้วว่าสามารถรองรับความเสียหายดังกล่าวได้ แต่ก็จะดำเนินการฟ้องร้องเพื่อให้ได้สินทรัพย์จำนวนดังกล่าวคืน
3. Zipmex กับการหารือกับก.ล.ต.
-ทางบริษัทไม่ได้มีสิทธิพิเศษทางกฎหมายใดๆ จากสำนักงานก.ล.ต. และชี้แจงกับก.ล.ต.โดยตลอด และเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา บริษัทได้รับเอกสารจากก.ล.ต. ให้ชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบริษัทเพิ่มเติม ซึ่ง Zipmex Thailand พร้อมทำงานกับก.ล.ต. อย่างใกล้ชิด
4. กระเป๋า Zipmex : Trade Wallet, Z-Wallet และ ZipUp
-เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินการเปิดระบบ Exchange ให้ลูกค้าสามารถกลับมาใช้บริการ Trade Wallet ได้แล้ว
-แต่เกิดการเทขายเหรียญในราคาที่ต่ำกว่าตลาดโลกอย่างมาก จึงมีความจำเป็นต้องเข้ามาแทรกแทรงราคาเหรียญ ไม่ให้ต่ำกว่าความเป็นจริง
-บริษัทจึงใช้เวลาในการนำเหรียญกลับสู่ระบบบางสกุลก่อน โดยเริ่มเปิดให้เทรด 28 สกุล และจะดำเนินการเปิดให้เทรดเพิ่มเติมจนครบทุกสกุล
-ส่วนสินทรัพย์ที่อยู่ใน ZipUp และ Z-Wallet บริษัทจะดำเนินการอย่างสุดความสามารถ เพื่อนำสินทรัพย์เหล่านั้นกลับคืนมา
5. การเข้าลงทุนใน Zipmex ของนักลงทุนรายใหญ่
-ตามที่เปิดเผยไปเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา มีนักลงทุนหลายรายสนใจที่จะเข้าลงทุนในบริษัท ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจา และร่างสัญญา
-ซึ่งบริษัทจะนำเงินที่ได้จากนักลงทุนเหล่านั้น มาคืนให้กับลูกค้าที่ได้รับความเสียหาย
โดยดร.เอกลาภ ได้ย้ำว่า ตัวเองยังคงพำนักอยู่ในประเทศไทย ไม่ได้หนีออกนอกประเทศตามข่าวลือ ตนและบริษัทจะสื่อสารกับลูกค้าในหลากหลายช่องทางอย่างสม่ำเสมอ เพื่อแสดงถึงความโปร่งใส และอัพเดตความเคลื่อนไหวให้ลูกค้าทราบ ซึ่งปัจจุบันถือว่าบริษัทมีหนทางการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน เป็นรูปธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว พร้อมยังย้ำว่า การใช้ความรุนแรงแก้ปัญหากับบริษัท หรือพนักงานของบริษัทจะไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น
สามารถรับชมแถลงการณ์ได้ที่นี่
https://www.facebook.com/ZipmexThailand/videos/1468095683704828
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวจากโลกโซเชียลว่า กลุ่มผู้เสียหายจากบริการ ZipUp ได้นัดรวมตัวกันเพื่อรวบรวมหลักฐาน และฟ้องดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หากมีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม Spotlight จะแจ้งให้ทราบต่อไป