ธุรกิจการตลาด

เจ้าสัว CP ชี้ประเทศจะรุ่งเรืองหรือล้มเหลวขึ้นอยู่กับ ‘การศึกษา’

2 ธ.ค. 65
เจ้าสัว CP ชี้ประเทศจะรุ่งเรืองหรือล้มเหลวขึ้นอยู่กับ ‘การศึกษา’

เจ้าสัว CP ชี้อนาคตเป็นของคนรุ่นใหม่ และประเทศจะรุ่งเรืองหรือล้มเหลวขึ้นอยู่กับ ‘การศึกษา’ แนะเลิกผลิตคนแบบไซโล แต่เก่งอย่างเดียวยังไม่พอ ต้องรู้จักคำว่ากตัญญูรู้คุณด้วย


ทุกวันนี้ บริษัทมหาชนรายใหญ่ๆ ต่างก็มีรูปแบบการตอบแทนสังคมที่แตกต่างกันออกไป นอกเหนือไปจากการทำ CSR ตามปกติ เช่น บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่เน้นไปยังเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) และมีการจัดงาน Sustainability Expo อย่างจริงจังมาต่อเนื่อง 3 ปีแล้ว

และสำหรับเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) ที่มีการสร้างนักเรียนและคนทำงานผ่านสถาบันปัญญาภิวัฒน์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเครือซีพีจะมุ่งเน้นไปที่เรื่อง "การศึกษา" เป็นสำคัญ 

ในปีนี้ เครือซีพีได้ร่วมมือกับสภาเพื่อการศึกษาระดับโลก หรือ Forum for World Education (FWE) และโรงเรียนนานาชาติคองคอร์เดียน จัดการประชุม “Forum for World Education 2022” ภายใต้แนวคิด “เศรษฐกิจเปลี่ยน การศึกษาปรับ รับแนวโน้มอนาคต” ขึ้นที่ไทยเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 1-2 ธันวาคม 2565 ณ สถาบันผู้นำ เครือเจริญโภคภัณฑ์ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยได้เชิญผู้นำด้านธุรกิจระดับโลกที่ให้ความสำคัญด้านการพัฒนาคนและการศึกษา มาร่วมประชุมพร้อมกับผู้นำด้านการศึกษาจากประเทศต่าง ๆ กว่า 400 คน

 

เลิกผลิตคนแบบไซโล สร้างคนให้เก่งรอบด้าน

นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวปาฐกถาในเวทีนี้ว่า ประเทศจะเจริญรุ่งเรืองได้เท่าไรขึ้นอยู่กับการศึกษา ซึ่งการศึกษาก็คือการพัฒนาคน ในอดีตเรามักสร้างคนให้มีความรู้แบบไซโล (แยกชัดเจนเป็นส่วนๆ ) เพราะกลัวการถูกซื้อตัวไป  

นายธนินท์ กล่าวว่า ก่อนที่ซีพีจะก่อตั้ง ‘สถาบันผู้นำ เครือเจริญโภคภัณฑ์’ ได้ไปดูงานมาแล้วหลายบริษัท ไม่ว่าจะเป็น Samsung, GE, Boeing พร้อมยกตัวอย่างแจ๊ค เวลช์ (Jack Welch) อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอของ GE ที่รู้และเข้าใจว่าระบบบริหารบุคลากรเดิมของบริษัทอเมริกันจะแบ่งงานเป็นส่วนๆ แบบไซโล เพราะกลัวผู้นำจะถูกซื้อตัวไปหากรู้ทุกเรื่อง แต่สุดท้ายบริษัทก็เกิดปัญหาขึ้นเองเช่นกันเมื่อผู้นำคนเก่าเกษียณไป ทำให้บริษัทขาดซีอีโอ

อย่างไรก็ดี ซีพีได้ใช้คำพูดเก่าที่เอามาใช้ได้กับยุคใหม่คือ "เรากำลังสร้างเถ้าแก่" เพราะเถ้าแก่ต้องรู้ทุกเรื่องกำไร บัญชี ขาดทุน บุคคล ประชาสัมพันธ์ฯลฯ แล้วไม่กลัวว่าเขาจะออกจากเราไปที่อื่น เพราะถือว่าเราได้สร้างคนให้กับสังคมและประเทศชาติซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

dhanin

ต้องสร้างคนให้เร็ว อายุ 18 ก็จบมหาวิทยาลัยได้แล้ว

ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ระบบการศึกษาจะต้องปรับเปลี่ยน ต้องพยายามสร้างคนให้เร็วที่สุด ระบบการศึกษาวันนี้เด็กอายุ 18 ปี ควรจะต้องจบมหาวิทยาลัยได้แล้ว เพราะเด็กในวัยนี้มีพลังมหาศาล ซึ่งไม่ควรเอาพลังของเขาไปขังไว้ในโรงเรียน ยุคของคนแก่จึงต้องสร้างคนพัฒนาคนออกมาทำงานให้เร็วที่สุด 

“วันนี้เรื่องใหม่ ๆ เราต้องให้คนรุ่นใหม่ทำ ไม่ต้องกลัวทำผิด ผิดคือครูถือเป็นค่าเล่าเรียน ถ้าเรื่องธุรกิจเด็กสมัยนี้เค้าฉลาดกว่ายุคของเรา"

อย่างไรก็ตาม การศึกษาในวันนี้แค่เรียนอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องทำงานไปด้วย เพราะปริญญากับปัญญาแตกต่างกัน ปัญญาเกิดจากการลงมือทำ อดทน ล้มเหลว เรียนรู้ แต่ปริญญาเป็นเรื่องของความจำ ดังนั้นปัญญาจึงมีความสำคัญ ซึ่งต้องเริ่มทำให้เร็ว กล้าที่จะลองผิดลองถูก โดยมีผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน เป็นสปอนเซอร์ ชี้แนะได้แต่ห้ามชี้นำ ส่วนตัวขององค์กรเองนั้นก็ต้องปรับตัว ลดขั้นตอน ลดขนาดไซโลและลำดับขั้น และใช้ Software เข้ามาติดตามให้รู้ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทุกวัน ซึ่งยุคนี้เป็นยุคสมัยที่ต้องเร็วและต้องมีคุณภาพ และต้องทำของยากให้เป็นของง่าย

 

เก่งอย่างเดียวไม่พอ CP ยึดค่านิยม 6 ด้าน

นายธนินท์ กล่าวด้วยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ มี "6 ค่านิยมที่สำคัญ" คือ 

  • 3 ประโยชน์ ได้แก่ ได้แก่ การตอบแทนบุญคุณประเทศ ครอบครัว และบริษัท
  • นวัตกรรม
  • เร็วและมีคุณภาพ
  • ยอมรับการเปลี่ยนแปลง
  • ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย
  • ต้องเป็นคนดี เก่งอย่างเดียวไม่ได้

     

       

 

 

advertisement

SPOTLIGHT