ธุรกิจการตลาด

บิ๊กเทคปรับแผน "กลับเข้าออฟฟิศ" Apple Google Twitter ปรับตัวอยู่ร่วมโควิด

7 มี.ค. 65
บิ๊กเทคปรับแผน "กลับเข้าออฟฟิศ" Apple Google Twitter  ปรับตัวอยู่ร่วมโควิด
ไฮไลท์ Highlight
โดย ทิม คุก ได้ระบุงในบันทึกการประชุมว่า “สำหรับหลายคน พบทราบดีว่าการกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศเป็นสิ่งที่ทุกคนเฝ้ารอ และสัญญาณดีที่พวกเราจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างมากในชีวิตของเรา แต่สำหรับอีกหลายคน มันก็อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ไม่สบายใจ” 

บริษัทเทคโนโลยีสหรัฐ Apple - Google - Twitter เตรียมปรับแผน ต้อนรับพนักงานกลับออฟฟิศ Apple Google บังคับ 3 วันต่อสัปดาห์ Twitter ให้อิสระ เข้า/ไม่เข้าก็ได้

 

istock-654258656

 

หากชวนคิดถึงช่วงเวลาที่เหล่า เหล่าพนักงาน เข้าไปทำงานออฟฟิศแบบ “ไม่กลัวโควิด ไม่ต้องใส่หน้ากาก” หลายคนอาจจำแทบไม่ได้ และหลายคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน อาจไม่เคยเห็นภาพนั้นด้วยซ้ำ แต่เชื่อหรือไม่ว่า ออฟฟิศของ “บริษัทเทคยักษ์ใหญ่” ของสหรัฐ กำลังจะนำภาพเหล่านั้นกลับมาแล้ว

ล่าสุด ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ในสหรัฐที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น จากตัวเลขผู้ป่วยใหม่รายวันที่ทะลุ 1 ล้านคนในเดือนที่ผ่านมา ลดลงมาอยู่ในระดับไม่กี่หมื่นคน ในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ บริษัทแอปเปิล กูเกิล ทวิตเตอร์ จึงมีนโยบายเปิดออฟฟิศให้พนักงานกลับมาทำงานใช้สถานที่ เพื่อเพิ่ม Productivity และกระชับความสัมพันธ์ โดยแต่ละบริษัทมีนโยบายดังนี้
 

000_8qj77a

 
Apple

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล ประกาศในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี ให้พนักงานแอปเปิล กลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ เริ่มวันที่ 11 เมษายนนี้ และจะขยับขึ้นเป็น 3 วันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนนี้


โดย ทิม คุก ได้ระบุงในบันทึกการประชุมว่า “สำหรับหลายคน พบทราบดีว่าการกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศเป็นสิ่งที่ทุกคนเฝ้ารอ และสัญญาณดีที่พวกเราจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างมากในชีวิตของเรา แต่สำหรับอีกหลายคน มันก็อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ไม่สบายใจ”
 

000_1ah8pn

 

Google

ด้านเซิร์ชเอ็นจิ้นอันดับหนึ่งของโลกอย่าง “กูเกิล” นั้น จะเริ่มให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ในออฟฟิศ ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนนี้ แต่สำหรับคนที่มีความจำเป็นต้องทำงานทางไกลจริงๆ ก็สามารถขออนุมัติการ Work from Home ต่อได้ และขอย้ายไปประจำสำนักงานที่อยู่ในภูมิภาคใกล้บ้าน เนื่องจากกูเกิลมีออฟฟิศอยู่ทั่วโลก โดยบริษัทจะยกเลิกมาตรการบังคับพนักงานฉีดวัคซีนก่อนเข้ามาทำงานที่สำนักงานในสหรัฐ ซึ่งถ้าหากใครฉีดวัคซีนแล้ว ไม่จำเป็นต้อง “ใส่หน้ากาก หรือตรวจโควิด” ก่อนเข้าทำงาน ส่วนใครยังไม่ฉีดวัคซีน ยังคงต้องทำตามกฎการใส่หน้ากาก และตรวจโควิด
 

brand-banner-desktop.twimg.25


Twitter

 
หากเทียบกับ 2 บริษัทด้านบนแล้ว “ทวิตเตอร์” น่าจะให้อิสระกับพนักงานมากที่สุด เหมือนนกโบยบินอันเป็นโลโก้ของบริษัท แม้จะประกาศเปิดออฟิศให้พนักงานเข้ามาทำงานในวันที่ 15 มีนาคมเป็นต้นไป แต่ก็ให้พนักงานสามารถเลือกได้อย่างอิสระ ว่าจะ เข้าออฟฟิศแบบ 100 % เข้าออฟฟิศบ้างบางวัน หรือทำงานที่บ้านแบบ 100%
 

“เลือกทำงานที่ไหนก็ได้ ที่ปลุกความ Productive และความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งอาจจะหมายถึงการทำงานที่บ้านตลอดไปเลยก็ได้” Parag Agrawal ซีอีโอทวิตเตอร์ กล่าวในจดหมายที่ส่งให้กับพนักงาน “จะเข้าออฟฟิศทุกวัน? ก็ย่อมได้ หรือจะเข้าออฟฟิศบ้าง ทำงานที่บ้านบ้าง? ก็ได้เช่นกัน”

 

pexels-andrea-piacquadio-3767

 
สำหรับความเคลื่อนไหวของบริษัทอื่นๆ “ไมโครซอฟท์” ได้เปิดให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศแล้วในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้าน Meta บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก จะเปิดในอีก 1 เดือนให้หลัง คือวันที่ 28 มีนาคม
 
ทางด้าน แอมะซอน (Amazon) ได้ยกเลิกแผนเก่าที่จะให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานแบบออนไซต์แล้ว โดยซีอีโอของบริษัท Andy Jassy ให้พนักงาน เลือกรูปแบบการทำงานที่เหมาะที่สุดสำหรับตัวเอง


“สำหรับบริษัทที่มีไซส์ใหญ่แบบเรา มันคงไม่มีวิธีการทำงานของแต่ละทีมที่เป็น ‘One-size-fits-all’ (ตัวเลือกเดียวที่ตอบโจทย์ของทุกคน)” ซีอีโอ กล่าวเสริม
 

pexels-tatiana-syrikova-39755

 
จากบทความ “The Next Great Disruption Is Hybrid Work—Are We Ready” ของ Microsoft ผลสำรวจรายงานว่า 73% ของพนักงานอยากให้บริษัทคงนโยบาย Hybrid work เอาไว้ และมีพนักงาน 67% อยากทำงานแบบที่ได้เจอกับเพื่อนร่วมงาน หรือทำงานร่วมกันหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 จบลง

 

การเพิ่มทางเลือกให้พนักงานกลับมาทำงานร่วมกันที่ออฟฟิศ แต่ก็ยังให้อิสระในการเลือกทำงานที่บ้าน จึงเป็นอนาคตของการทำงานรูปแบบใหม่ ที่ให้พนักงานทำงานได้อย่างสุขใจ สร้างทีมเวิร์ค และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในเวลาเดียวกัน

advertisement

SPOTLIGHT