BYD เผยโฉมรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ วิ่งได้กว่า 2,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

BYD บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังจากจีน สร้างความฮือฮาอีกครั้งด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยีรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ ที่สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 2,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง! เทคโนโลยีนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการแก้ปัญหาเรื่องระยะทางการขับขี่ที่เป็นข้อกังวลหลักของผู้บริโภคหลายคน และอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต

_{BYD เผยโฉมรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ วิ่งได้กว่า 2,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง}

BYD Co., Ltd. ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน เปิดตัวเทคโนโลยีระบบส่งกำลังไฮบริดใหม่ ที่สามารถขับขี่ได้ไกลกว่า 2,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเติมน้ำมันเต็มถัง ซึ่งถือเป็นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) กับคู่แข่งสำคัญอย่าง Toyota Motor Corp. และ Volkswagen AG.

เทคโนโลยีใหม่นี้ จะถูกนำไปใช้ในรถซีดานสองรุ่นที่มีราคาต่ำกว่า 100,000 หยวน (ประมาณ 500,000 บาท) โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มระยะทางในการขับขี่ให้เหนือกว่าคู่แข่ง และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่กังวลเรื่องระยะทางในการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า ด้วยระยะทางขับขี่ที่เพิ่มขึ้น ทำให้รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ของ BYD สามารถเดินทางระหว่างเมืองใหญ่ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย เช่น สิงคโปร์-กรุงเทพฯ, นิวยอร์ก-ไมอามี, หรือมิวนิก-มาดริด โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จไฟหรือเติมน้ำมันระหว่างทาง

BYD ประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดรถยนต์จีน ด้วยกลยุทธ์การลดราคาครั้งใหญ่ และการเปิดตัวรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่นี้ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายและส่วนแบ่งทางการตลาดของ BYD ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยในปีที่ผ่านมา BYD มียอดขายรถยนต์รวม 3 ล้านคัน และในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ สามารถทำยอดขายได้เกือบ 1 ล้านคัน ซึ่งรถยนต์ไฮบริดถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนรายได้และผลกำไรของบริษัท

BYD เปิดตัวรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ ทำหุ้นพุ่ง 4% ตอบโจทย์คนกลัวรถไฟฟ้าวิ่งไม่ไกล

ราคาหุ้น BYD ในตลาดหุ้นฮ่องกงพุ่งขึ้นถึง 4% ในวันพุธ หลังจากที่บริษัทเปิดตัวรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ ที่สามารถวิ่งได้ไกลถึง 2,500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและเติมน้ำมันเต็มถัง ซึ่งถือเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญที่ช่วยลดความกังวลของผู้บริโภคเกี่ยวกับระยะทางในการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า ปัจจุบัน ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกกำลังพยายามพัฒนายานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยลดความกังวลของผู้บริโภคเกี่ยวกับระยะทางการขับขี่ ตัวอย่างเช่น Toyota ได้เปิดตัวเครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นใหม่ที่สามารถใช้เชื้อเพลิงได้หลากหลาย ทั้งไฮโดรเจน น้ำมันเบนซิน และเชื้อเพลิงอื่นๆ ควบคู่ไปกับแบตเตอรี่ สำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ของ BYD ที่สามารถวิ่งได้ถึง 2,500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งนั้น ในเบื้องต้นจะผลิตและจำหน่ายในประเทศจีนก่อน แต่คาดว่าจะมีการส่งออกไปยังต่างประเทศในอนาคตอันใกล้นี้

รถยนต์พลังงานไฟฟ้าและไฮบริดกำลังพัฒนาขีดความสามารถในการขับขี่ให้ครอบคลุมระยะทางที่ไกลขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความกังวลของผู้บริโภคบางส่วนที่ยังคงมองว่าระยะทางในการขับขี่เป็นอุปสรรคสำคัญในการเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาปภายในมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า BYD ได้ยุติการผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียวตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2565 และได้เพิ่มการส่งออกรถยนต์ไฮบริดไปยังตลาดเกิดใหม่ที่ยังขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้า รถยนต์สองรุ่นแรกที่จะมาพร้อมกับสมรรถนะการขับขี่ระยะไกลคือรถยนต์นั่งประเภทซีดานขนาดกลาง Qin L และ Seal 06 ซึ่ง BYD ได้เปิดตัวในงาน Beijing Auto Show เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 โดยรถยนต์ทั้งสองรุ่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Dynasty และ Ocean ตามลำดับ

การเปิดตัวรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ของ BYD ที่สามารถวิ่งได้ไกลถึง 2,500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของวงการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่จะช่วยลดข้อจำกัดเรื่องระยะทางการขับขี่ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ในอนาคต เราอาจได้เห็นการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่ยุคแห่งความยั่งยืน

ที่มา bloomberg