On แบรนด์รองเท้าผ้าใบสัญชาติสวิส ม้ามืดที่น่ากลัวของ Nike เผยรายได้ Q2/68 เติบโตกว่า 32% ดันหุ้น On Holding พุ่ง 7% ทันที ซึ่งเป็นรายที่สูงเกินกว่าวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้
สำนักข่าว CNBC ได้รายงานว่ายอดขาย On ในไตรมาส 2 /2568 เพิ่มขึ้นกว่า 32% ดันหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้น 7% ในการซื้อขายช่วงเช้าวันอังคาร ( 12 ส.ค.68) หลังแบรนด์รองเท้าชื่อดังได้รับความนิยมอย่างหนักในหมู่นักวิ่ง จนได้รับสมญานามว่าม้ามืดที่น่ากลัวของ Nike
โดยจากข้อมูลของ LSEG ได้มีการคาดการณ์ยอดขายตลอดทั้งปีของ On ไว้ที่ ที่ 2.91 พันล้านฟรังก์สวิส (3.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่ 2.86 พันล้านฟรังก์ ซึ่งสอดคล้องกับที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ที่ 2.92 พันล้านฟรังก์
ความน่าสนใจอยู่ที่การเติบโตของบริษัทรองเท้าผ้าใบสัญชาติสวิส เพราะสามารถเติบโตได้มากกว่า 30% ในเกือบทุกไตรมาสนับตั้งแต่ปี 2566 มียอดขายที่สูงกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่สอง
อย่างไรก็ตาม แม้ตอนนี้บริษัทต้องเผชิญกับภาษีศุลกากรใหม่สำหรับการนำเข้าจากเวียดนาม (โดยกว่า 90% ของ On มาจากเวียดนาม) ซึ่งทางบริษัทก็ได้มีการปรับราคาสินค้าขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.68 ที่ผ่านมาเพื่อชดเชยราคาต้นทุนที่สูงขึ้น
ด้าน มาร์ติน ฮอฟฟ์แมนน์ ซีอีโอของบริษัทให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า ความต้องการสินค้าในกลุ่มผู้ค้าส่งและผู้บริโภคยังไม่ชะลอตัวลง
“เรามีความมั่นใจอย่างมากในธุรกิจไลฟ์สไตล์ของเรา เราจึงปรับราคาขึ้นให้สอดคล้องกับธุรกิจไลฟ์สไตล์มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็พยายามรักษาระดับราคาเดิมไว้ในส่วนของผลิตภัณฑ์สำหรับวิ่ง จนถึงตอนนี้ เรายังไม่เห็นผลเชิงลบจากการขึ้นราคา”
On ก่อตั้งขึ้นในสวิตเซอร์แลนด์ในปี 2553 หรือเมื่อ 15 ปีที่แล้ว โดยมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาระดับพรีเมียมที่สุดในตลาด และถือได้ว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก Nike โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์รองเท้าวิ่ง
แต่หากเราเทียบยอดขาย On นั้นสามารถมียอดขายเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งของยอดขายประจำปีของ Nike แต่บริษัทก็สร้างชื่อเสียงในด้านนวัตกรรม นั้นก็คือเทคโนโลยี CloudTec® ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพื้นรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงกระแทกและเพิ่มความสบายในการวิ่ง ซึ่งเรียกได้ว่าสร้างแรงสั่นสะเทือนให้แก่วงการรองเท้าผ้าใบ
CNBC ได้ออกมาวิเคราะห์ว่า กุญแจสำคัญของ On คือ การสร้างสมดุลระหว่างการขายตรงผ่านเว็บไซต์และร้านค้าของตนเอง และการขายผ่านระบบขายส่ง ในช่วงเวลาที่ Nike ถอนตัวจากผู้ค้าส่ง On และแบรนด์อื่นๆ ได้เติมเต็มพื้นที่บนชั้นวางสินค้าอันสำคัญนี้ พร้อมกับขยายฐานลูกค้าหน้าร้านและรายได้ทางดิจิทัล
ส่งผลให้ในไตรมาสที่สอง รายได้จากการขายส่งและการขายตรงถึงผู้บริโภคของ On สูงกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ รายได้จากการขายส่งของ On อยู่ที่ 441 ล้านฟรังก์ เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 429 ล้านฟรังก์ ตามข้อมูลของ StreetAccount ส่วนยอดขายตรงอยู่ที่ 308 ล้านฟรังก์ เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 279 ล้านฟรังก์ ตามข้อมูลของ StreetAccount
ส่วนยอดขายในทวีปอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา รวมถึงภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ล้วนดีเกินความคาดหมาย ตามข้อมูลของ StreetAccount
ที่มา CNBC
แม้ว่า On จะไม่ได้เปิดเผยผลการดำเนินงานในประเทศจีน แต่ Hoffmann กล่าวว่านี่เป็นจุดที่สดใสสำหรับบริษัท เนื่องจากยอดขายเติบโตขึ้นประมาณ 50% ในไตรมาสที่สองเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ มาร์ติน ฮอฟฟ์แมนน์ ซีอีโอของบริษัทให้สัมภาษณ์กับ CNBC ต่อว่า “ผู้บริโภคชาวอเมริกันและชาวจีนมีความแข็งแกร่งมากสำหรับ On โดยเราเห็นการเติบโตของร้านค้าปลีกของเราจากร้านค้าเดิมถึง 50% และช่องทางอีคอมเมิร์ซของเราก็เติบโตมากขึ้นไปอีก จากนั้นร้านค้าใหม่ๆ ก็เข้ามาแทนที่ ดังนั้น จีนจึงเป็นตลาดที่แข็งแกร่งมากสำหรับเรา”