รู้จัก"Vincom Retail"เบอร์ 1 ค้าปลีกเวียดนามมูลค่ากว่า 9.6หมื่นล้านบาท

ในวันที่ 30 มีนาคมมีข่าวใหญ่ในวงการค้าปลีกเมื่อสำนักข่าว Reuters ออกมารายงานว่า บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ CRC หนึ่งในบริษัทที่กำลังเจรจาเข้าซื้อหุ้นของ Vincom Retail เครือธุรกิจค้าปลีกอันดับหนึ่งของเวียดนามจาก Vingroup ที่ถือหุ้นใน Vincom อยู่ถึง 60% 

อย่างไรก็ตาม ในวันถัดมา บมจ.เซ็นทรัล รีเทล ก็ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้วว่า ทางบริษัทฯ “ไม่ได้มีการดำเนินการ” เข้าเจรจาซื้อหุ้นของ Vincom อย่างที่สำนักข่าว Reuters รายงาน นับว่าเป็นการจบข่าวลือหนึ่งในดีลซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามไป เพราะถ้าหากข่าวนี้เป็นความจริง เท่ากับว่าเซ็นทรัล รีเทล จะเป็นเจ้าผู้คุมธุรกิจค้าปลีกในถึง 2 ประเทศอาเซียนเลยทีเดียว

ทั้งนี้ ถึงแม้เซ็ลทรัล รีเทลจะออกมาปฏิเสธข่าวแล้ว นี่ไม่ได้หมายความว่าการที่ Vincom สนใจขายหุ้นให้ผู้ลงทุนรายอื่นจะไม่เป็นความจริง ในบทความนี้ทีมข่าว SPOTLIGHT จึงชวนดูกันว่าเครือ Vincom Retail ใหญ่แค่ไหนในเวียดนาม และทำไมในวันนี้ต้องหาทางระดมทุนผ่านการซื้อหุ้น

เครือบริษัทค้าปลีกมูลค่า 9.6 หมื่นล้านของอาณาจักร Vingroup 

Vincom Retail เป็นบริษัทลูกของ Vingroup เครือบริษัทที่ใหญ่และมีมูลค่าสูงที่สุดในเวียดนาม ที่นอกจาก Vincom ซึ่งเป็นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงานแล้ว ยังมีธุรกิจในส่วนอื่นๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ เช่น Vinhomes และ Vinpearl ที่เป็นธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย และโรงแรม ส่วนของเทคโนโลยีที่มี Vinfast เป็นธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า และ VinAi เป็นธุรกิจพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ รวมไปถึงธุรกิจโรงเรียน มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาล

จากรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ปี 2022 ของ Vincom Retail ปัจจุบัน Vincom ดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้าในเวียดนามทั้งหมด 83 แห่ง (เปิดใหม่ 3 แห่งในปี 2022) พื้นที่อาคารรวม 1.75 ล้านตารางกิโลเมตร ครองส่วนแบ่งตลาด 60% ในภาคธุรกิจค้าปลีกของเวียดนาม

ในปี 2022 มีรายได้ทั้งหมด 10,616 ล้านบาท กำไร 3,972 ล้านบาท โดยห้างสรรพสินค้าในการดูแลของ Vincom สามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทตามเป้าหมายกลุ่มลูกค้าได้ดังนี้ คือ

1. Vincom Plaza ห้างขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทั้งในเมืองใหญ่ และในเมืองต่างจังหวัดที่มีประชากรหนาแน่น เน้นลูกค้าที่เป็นกลุ่มชนชั้นกลาง และครอบครัว ปัจจุบันมีจำนวนทั้งหมด 56 แห่ง
2. Vincom+ คือห้างที่เน้นเน้นลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนพื้นที่ มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ตั้งอยู่นอกพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจเวียดนาม ปัจจุบันมีจำนวนทั้งหมด 15 แห่ง
3. Vincom Center คือห้างที่ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมืองเวียดนาม เน้นลูกค้ากลุ่ม high-end ทำให้ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์จากต่างประเทศที่มาเช่าพื้นที่ ปัจจุบันมีจำนวนทั้งหมด 7 แห่ง 
4. Vincom Megamall คือห้างขนาดใหญ่ที่มีลักษณะโครงการแบบ Mixed use ปัจจุบันมีจำนวนทั้งหมด 5 แห่ง

ปัจจุบัน Vingroup ถือหุ้นโดยตรง 427,715,101 หุ้น (18.8%) ใน Vincom และถือห้างทางอ้อมผ่านบริษัทลูกคือ Sado Trading Business JSC อีก 943,219,292 หุ้น (41.5%) ทำให้รวมแล้ว Vingroup ถือหุ้นใน Vincom อยู่รวมเกือบ 60% และใครที่สามารถดีลหุ้นก้อนใหญ่ในส่วนนี้ไปจาก Vingroup ได้ ก็จะได้ครอบครองอาณาจักรห้างสรรพสินค้าใหญ่ยักษ์ของเวียดนามรายนี้ไปโดยปริยาย 

ทำไม Vingroup จึงต้องการขายหุ้น Vincom?

เมื่อดูจากข้อมูลทางการเงินแล้ว หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า Vipgroup จะอยากขายหุ้นของ Vincom Retail ไปทำไมในเมื่อธุรกิจของ Vincom ยังคงทำรายได้และกำไรได้อย่างมั่นคง โดยถึงแม้จะมีช่วงซบเซาบ้างในช่วงที่มีการระบาดของโควิด ธุรกิจค้าปลีกในเวียดนามก็ยังฟื้นตัวได้ดี จนรายได้กลับมาเกือบถึงระดับก่อนโควิดในปี 2022

อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์ของสื่อต่างประเทศและนักวิเคราะห์หลายสำนัก Vingroup อาจตั้งใจขายหุ้นของ Vincom เพื่อระดมทุนมาใช้กับธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า หรือ Vinfast ที่เหมือนจะเป็นโฟกัสของ Vingroup ในขณะนี้ หลังจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนามทำให้การระดมทุนผ่านการขอเงินกู้จากธนาคารทำได้ยากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกว่า Vingroup กำลังจะขายสินทรัพย์ในบริษัทลูก Vinhomes มูลค่าประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่ CapitaLand Group บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่สัญชาติสิงคโปร์เพื่อระดมทุนมาทำธุรกิจในด้านอื่นๆ ด้วย 

จากการรายงานของ Reuters Vinfast เพิ่งชะลอแผนในการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ ไปถึงปี 2025 จาก 2024 โดยให้เหตุผลว่าทางบริษัทต้องการเวลามากกว่านี้ในการวางแผน โดยทางบริษัทได้เริ่มดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเพิ่งส่งมอบรถ 45 คันให้ลูกค้าในเมืองแคลิฟอร์เนีย

รายได้ของ Vinfast ในปี 2022 อยู่ที่ 1.49 ล้านล้านดอง หรือราว 2.1 หมื่นล้านบาท ลดลง 6.9% จากปี 2021 และขาดทุนเพิ่มเป็น 4.98 ล้านล้านดอง จาก 3.22 ล้านดองในปี 2021 ซึ่งเมื่อดูจากผลประกอบการแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม Vingroup จึงต้องการระดมทุนมาอุ้มธุรกิจในส่วนนี้ ซึ่งทางบริษัทมองว่าจะเป็นแหล่งรายได้ใหญ่ของเครือในอนาคตจากเทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก

 ที่มา: Vincom, Reuters, CNBC 

คอนเทนต์แนะนำ

คนกรุงเตรียมพร้อม ค่าธรรมเนียมเก็บขยะอัตราใหม่ เริ่มตุลาคม 68 นี้

ครูอัตราจ้างคือใคร? บทบาทในระบบการศึกษาไทย

โรคพิษสุนัขบ้า (1 ม.ค.-2 ก.ค. 68) พบผู้ป่วย 7 ราย เสียชีวิตทั้ง 7 ราย