จากกรณีที่วันนี้ ช่วงเช้าที่ผ่านมามีทหารเหยียบกับระเบิดจนขาขาด ล่าสุดช่วงเย็นที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้สำรวจบ้านของชาวบ้าน บริเวณหมู่บ้านแนวชายแดน เพื่อสอบถามถึงความเป็นอยู่ของชาวบ้าน และความวิตกกังวล ก็พบว่ามีชาวบ้านจำนวนหนึ่งจับกลุ่มพูดคุยกันถึงกรณีดังกล่าว และแสดงออกถึงความไม่สบายใจ เพราะเกรงว่าจะเกิดการปะทะกันขึ้นอีก เนื่องจากการปะทะกันรอบแรกก็เกิดหลังจากที่ทหารเหยียบกับระเบิดครั้งที่ 2 และวันนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งที่ 2 ที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาด หลังจากมีการประชุม GBC และ มีข้อตกลงหยุดยิง
ขณะที่นางหนูแดง พละศักดิ์ อายุ 57 ปี ชาวบ้านแนวชายแดน ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว ท่ามกลางความกังวลใจว่า ขณะนี้ตนเองได้มีการเตรียมความพร้อมการอพยพ โดยการเก็บเสื้อผ้าของตนเองและสามีไว้ทั้งหมดแล้ว รวมถึงได้มีการเติมน้ำมันรถเต็มถังเตรียมไว้ หากมีสถานการณ์การปะทะกันเกิดขึ้นอีก ก็พร้อมที่จะมุ่งหน้าไปสู่ศูนย์อพยพในทันที ซึ่งวันนี้ตนเองเตรียมเสื้อผ้า ยา และของใช้ที่จำเป็นจำนวนหนึ่งใส่กระเป๋าเอาไว้ ซึ่งตอนนี้ตนเองก็รู้สึกหวาดกลัว ผวาอยู่ตลอด หากมีการปะทะกันเกิดขึ้นอีกก็พร้อมที่จะอพยพในทันที
ยอมรับว่าขณะนี้ชาวบ้านมีการจับกลุ่มพูดคุยกันปากต่อปากถึงความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้ ซึ่งชาวบ้านบางครัวเรือนที่มีความกังวลก็อพยพไปแล้วบางส่วน เพราะทราบข้อมูลมาว่าบริเวณแนวชายแดนมีทหารกัมพูชา ได้ตรึงกำลังเป็นมากกว่าปกติ ส่วนตัวแล้วตนเองไม่อยากให้มีการปะทะหรือมีสงครามใดๆทั้งสิ้น
ด้านนางสาวยุพิณ พิลาดี อายุ 47 ปี ชาวบ้านแนวชายแดนอีกราย เผยว่า ตนเองก็ได้เตรียมของใช้ส่วนตัวทั้งหมดแล้ว พร้อมที่จะอพยพ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า มาม่า ปลากระป๋อง เพราะรอบก่อนที่เกิดการปะทะกัน ตนเองไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย และก็รีบอพยพไปที่ศูนย์อพยพตัวเปล่า และรับของบริจาคเอา และอยู่ศูนย์อพยพนานกว่าครึ่งเดือน ประกอบกับสามีของตนป่วยติดเตียงด้วย
ซึ่งตอนนี้ได้อพยพสามีไปอยู่ที่อื่นก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนตนเองนั้นก็พร้อม หากมีการปะทะกันหรือได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นเพียงลูกเดียว ตนเองก็พร้อมที่จะออกไปศูนย์อพยพในทันที เพราะขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างจับกลุ่มพูดคุยกันถึงสถานการณ์ที่มีความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น
Advertisement