วันที่ 12 ส.ค. 68 พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดใจกับ “รายการทุบโต๊ะข่าว” ช่องอมรินทร์ทีวี34 ถึงประเด็น ครูปอ หรือ น.ส.วรสุดา เกี่ยวข้องยังไงกับหลวงพ่ออลงกต และที่ดินที่ครอบครอง
โดยหลวงพ่ออลงกตตอบว่า : ย้อนกลับไปตามเจตนารมของตนเองสมัยที่มีเด็กกำพร้าครูปอ หรือ น.ส.วรสุดา อยู่ที่มูลนิธิธรรมรักษ์ ตำแหน่งผู้จัดการ เป็นแม่ของเด็กๆ ดูแลเด็ก ท่านเชื่อใจ และไว้ใจมากๆ ไม่แพ้อดีตไวยากรณ์คนเก่า ก่อนที่ท่านจะลาออกไปก่อนปี60 แต่ก็ยังมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา
จนกระทั่งปัญหาเกิด เด็กจบมหาลัยอยากจะเรียนต่อไม่มีที่ไป ตนเองจึงมีนโยบายว่า “เราควรสร้างหอพักให้เด็กเวลาเด็กเรียนในเมืองจะได้มีที่พัก” จึงกลายเป็นว่าต้องซื้อที่ดินเพิ่ม โดยให้ น.ส.วรสุดาดูแล เพราะหวังว่าก่อนปี2570 จัดตั้งมูลนิธิเด็กกำพร้าได้ในเร็ววัน หากท่านตายเด็กๆ จะได้มีที่ดู มีที่ทำกิจกรรม ทำสวน แต่ทุกอย่างดันมาเกิดเหตุก่อน ตอนนี้จึงจะนำที่ดินดังกล่าวเข้ามูลนิธิอาถร ประชานาท ของวัด
ส่วนที่มีข่าวออกมาว่า น.ส.วรสุดา หรือ ครูปอ ครอบครองที่ดินอยู่ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ยืนยันว่าไม่จริง อยากให้ทุกท่านดูดีๆ ว่าชื่อในโฉนดดังกล่าวคนที่ขายให้เป็นคนปราจีนบุรี ไม่ใช่ที่ดินที่ปราจีนบุรี แต่เป็นที่ดินที่ตั้งใจจะสร้างมูลนิธิเด็กกำพร้าจุดที่ครูปออยู่ปัจจุบันนี้ ซึ่งมีเพิ่มแค่ 3 งาน
ส่วนเงินที่ใช้ซื้อก็เงินมาจากบ้านเด็กที่เตรียมการไว้ ส่วนทำไมต้องเป็นชื่อครูปอ เพราะครูปออุทิศชีวิตเพื่อเด็กๆ ไม่ไปไหน เด็กๆ จะเรียกครูบอกว่า “มามี๊” ท่านเองก็ไว้ใจ ตอนนี้คุยกันเข้าใจแล้ว
เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ ครูปอกับหลวงพ่ออลงกตเป็นอย่างไร
หลวงพ่ออลงกต ตอบว่า : หลวงพ่อเห็นเรื่องนี้ และบอกไม่ถูก มีเด็ก 1 คนที่ถูกพาดพิงว่าเป็นลูกหลวงพ่อกับครูปอ เด็กคนนี้ชื่อใจแก้ว ยืนยันได้แม่ใจแก้วเป็นผู้ป่วยและเสียชีวิต ใจแก้วก็เกือบไม่รอดอยู่ รพ. 5-6 เดือน จึงเอามาดูแล
ตอนนี้รู้สึกสงสารครูปอจะให้มาตรวจ DNA สำหรับตนไม่เป็นไร แต่สงสารครูปอ ยอมรับเจอกันปี 1 จำนวน 3-4 ครั้งเอง ทำงานในกรอบของตนเองไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใคร เด็กทุกคนจะรักครูปอมากๆ คนไม่รู้ก็จะคิดไปแบบนี้ จนกว่าจะสร้างให้เด็กได้ ถามกลับใครจะรับผิดชอบความรู้สึกได้
Advertisement