จากกรณีโซเชียลมีการพูดถึง ‘หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ’ ถูกโยงเรื่องเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ซึ่งทางหมอบีมีการขออนุญาตนำชื่อวัด และมูลนิธิไปเปิดรับบริจาคนำเงินมาเข้าวัด แต่ปรากฏว่ามีการ พบว่าเงินไม่ได้เข้าวัดทั้งหมด ซึ่งทางหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ก็เพิ่งทราบเรื่อง ก่อนที่จะมีการโยนกันไป-มา และล่าสุดลามมาถึงการตรวจสอบปมที่ดิน 2,000 ไร่
ล่าสุดวันนี้พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ได้เปิดใจทุกประเด็นกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีที่แรก
ประเด็นที่ 1 : ตอนนี้ตั้งทีมทนาย ทีมโฆษกวัดที่แถลงข่าวแล้วเสร็จหรือยัง
หลวงพ่ออลงกตบอกว่า : ตอนนี้มี 3 เรื่อง
1.ตั้งคณะทำงานด้านกฎหมายแล้ว
2.มีทีม PR ทำข้อมูลแล้ว
3.มีโฆษกแถลงคาดว่าน่าจะอาทิตย์หน้าอย่างช้า ( 18-19 สิงหาคม 2568 )
ประเด็นที่ 2 : ทำไมวัดถึงมีรูปปั้นของนายธนชัย ไวยาวัจกร คนเก่าที่เสียชีวิต
หลวงพ่อตอบว่า : เป็นดำริตนเอง ใช้ปัจจัยทำเองเหตุผลคือ "เรารักกัน ท่านความดีไว้มากจริง ๆ ชีวิตหลังเกษียณอุทิศให้วัดไม่เคยขาดเลย น้อยมากที่จะลาหยุด ทุกคนจะเรียกว่า อาธนชัย เป็นที่รักและคนที่ตนเองไว้ใจมากที่สุด" ตอนป่วยก็นอนปลอดเชื้อห้องของหลวงพ่อจนเสียชีวิต ช่วยจัดงานศพให้เลยคิดสร้างอนุสาวรีย์ท่านไว้
ประเด็นที่ 3 : ญาติของอดีตไวยาวัจกรบอกคืนให้วัดแล้วบางส่วน เงิน 2.7 ล้านก็คืนให้แล้วจริงหรือไม่
หลวงพ่ออลงกตตอบว่า : น่าจะเป็นอย่างนั้น เท่าที่รู้ยังไม่โอนคืนวัดบางส่วน วันนี้ก็มีการพูดในที่ประชุมว่ายังไงก็ต้องพูดคุยกับญาติพี่น้องของนายธนชัย แบบอ่อนโยนนุ่มนวลหาทางแก้ปัญหาตอนนี้คงได้พูดคุยแล้ว
ประเด็นที่ 4 : ช่วงที่มีการซื้อที่ดิน 2,000 ไร่ยังไม่มีการตั้งมูลนิธิใช่หรือไม่
หลวงพ่ออลงกตตอบว่า : มูลนิธิธรรมรักษ์ตั้งตอนปี 37 หรือ 38 เดินทางมาที่จุดดังกล่าว 1 ชั่วโมงกว่าจากตัวเมือง มีคนไปบอกว่าพอจะมีที่ดิน ที่จะสร้างโรงเรียน ที่ต้องสร้างโรงเรียนเพราะเด็กในความดูแลของท่านไปโรงเรียนปกติไม่ได้ วัดพระบาทน้ำพุมี 50 ไร่ เลยสร้างโรงเรียนไม่ได้
จึงตัดสินใจซื้อที่จุดดังกล่าวเรื่อยมาในราคาสมัยนั้น 10,000 -20,000 บาท ทยอยซื้อมาครั้งละ 5 ไร่ จนกระทั่งปี 40 เริ่มสร้างโรงเรียนราชประชานุเคาะห์ 33 โดยเงินที่สร้างมาจากการให้คนบูชาเหรียญสมเด็จพระญาณสังวรฯ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างราว ๆ 200 ล้าน พร้อมกับโอนให้รัฐบาลหลังสร้างเสร็จ
โดยสมัยนั้นชื่อที่อยู่ในที่ดินดังกล่าวคือชื่อของนายธนชัย อดีตไวยาวัจกร ที่เสียชีวิตไปแล้วเพราะไว้ใจมากๆ ทำทุกอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง ที่ดินคนก็มาเสนอให้ จึงตัดสินใจเอาชื่อไวยาวัจกรคนเก่าที่เสียชีวิตใส่ไว้ เนื่องจากการมอบที่ดินให้รัฐในนามตอนนั้น ถ้าทำในนามวัดหรือมูลนิธิมองว่ายาก แต่หากมอบในนามบุคคลก็จะง่ายกว่าจึงเป็นปัจจัยที่สมัยนั้นต้องใส่ชื่อนายธนชัย ไวยาวัจกรคนนี้
ส่วนอื่นในพื้นที่ 2,000 ไร่ ก็มีทั้งที่พักคนชรา ผู้ติดเชื้อ ที่เลี้ยงสัตว์ ทำการเกษตร เชิงวิสาหกิจชุมชนมีบ้าน มีวัด มีโรงเรียนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวครบ เพื่อหวังจะพัฒนาและทำให้พวกเขาที่ควรไม่ต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
บางส่วนใน 2,000 ไร่ที่ยังไม่ได้โอนให้มูลนิธิ เนื่องจากว่าผู้ป่วยบางคนอยู่พื้นที่ดังกล่าวอาทิ 3 ไร่ “ มองว่ามันก็คงจะดี ที่คนเหล่านี้มีที่มีบ้านอยู่จะได้ดูแลรักษา เจตนารมย์จริง ๆ คืออยากช่วยเหลือ ” แต่อันไหนที่โอนเข้ามูลนิธิได้ก็โอน
ส่วนรายละเอียดเรื่องข้อมูลที่ดินในพื้นที่ 2,000 ไร่ ตอนนี้วัดกำลังตรวจสอบเอกสารสิทธิ์อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อความชัดเจนและจะแถลงอีกครั้ง แต่ที่ชัดเจนในพื้นที่ดังกล่าวมีพื้นที่ดังกล่าวที่เรียกว่า “ ชุมชนธรรมรักษ์ ” จะมีชื่อของนายธนชัยครอบครองอยู่และมูลนิธิธรรมรักษ์
ส่วนบางพื้นที่ก็มีการปลูกกระถิน เอาไว้ใช้เป็นเชื่อเพลิงผลิตไฟฟ้าใช้ในพื้นที่ “ ชุมชนธรรมรักษ์ 2,000 ไร่ ” ในนามบริษัท เอพลัส พาวเวอร์ จำกัด ( บริษัทนี้วัดจดตั้งถูกต้องกฎหมาย ) ส่วนใหญ่ชาวบ้านก็ปลูกมาให้วัด ความจริงคือชาวบ้านบางคนเป็นหนี้ ธกส. ก็จะเอาที่มาฝากไว้ วัดก็ช่วยเหลือ แต่มีข้อแม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวต้องปลูกแต่กระถินให้วัด บางคนปลูกจนไถ่ถอนที่ดินไปได้
Advertisement