กรณีนายวิรัตน์ พงษ์ศิริ อายุ 52 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนางวงศ์เดือน พงษ์ศิริ อายุ 45 ปี ภรรยา เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ หลังจากน.ส.สุวนันท์ พงษ์ศิริ หรือ น้องน้ำ อายุ 27 ปี ลูกสาว ซึ่งเดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ขาดการติดต่อไปเมื่อวันที่ 6 พ.ค.64 ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันที่ 6 มิ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ไปพูดคุยกับนางวงเดือน พงษ์ศิริ อายุ 47 ปี แม่ของน.ส.สุวนันท์ เปิดเผยว่า น.ส.สุวนันท์ ไปทำงานเป็นพีอาร์อยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ประมาณ 6-7 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาตนโทรศัพท์ติดต่ออยู่กับลูกสาวตลอด เพราะลูกสาวเป็นเสาหลักและหารายได้ให้กับครอบครัว
กระทั่งเดือนก.พ.64 น้องน้ำ ขาดการติดต่อ ด้วยความเป็นห่วงจึงไปหาลูกที่ห้องพักย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ ก็ไม่พบตัวลูกสาว จึงได้ขนของลูกสาวกลับบ้าน และมาทราบภายหลังจากเพื่อน ๆ ของลูกสาวว่าเจ้าตัวไปติดคุกอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย เพราะลักลอบเข้าเมืองไปทำงานเป็นพีอาร์
โดยในวันที่ 6 พ.ค.64 ที่ผ่านมา ลูกสาวได้โทรศัพท์มาด้วยเบอร์ของประเทศมาเลเซีย และบอกว่าได้รับการปล่อยตัวแล้ว รออีก 2 สัปดาห์ทางการไทยจะรับกลับประเทศไทย ซึ่งตนได้พูดคุยกับลูกสาวประมาณ 2 นาที หลังจากนั้นก็วางสายไป และผ่านไปกว่า 1 เดือนก็ไม่ได้รับการติดต่อจากลูกสาวอีกเลย ซึ่งก่อนที่จะขาดการติดต่อไป เขาก็ปกติดี ไม่ได้ทะเลาะกับตนแต่อย่างใด
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายวิรัตน์ พงษ์ศิริ อายุ 52 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านแก และเป็นพ่อของน.ส.สุวนันท์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ลูกสาวขาดการติดต่อไป 1 เดือน ตนก็รู้สึกเป็นห่วงมาก ๆ กลัวลูกสาวจะได้รับอันตราย เพราะครั้งสุดท้ายที่ภรรยาได้พูดคุยกับลูกสาวผ่านโทรศัพท์ ก็ได้พูดคุยกันเพียง 2 นาทีเท่านั้น เหมือนมีเวลาจำกัดที่จะพูดคุย ซึ่งตนพยายามโทรกลับไป แต่ก็ติดต่อไม่ได้ หลังจากที่ลูกสาวขาดการติดต่อไป ตนก็พยายามสอบถามจากเพื่อน ๆ ที่อยู่กรุงเทพฯ แต่ก็ไม่มีใครติดต่อน้องน้ำได้ และถ้าน้องน้ำดูข่าวอยู่ก็อยากบอกกับลูกว่า "เป็นตายร้ายดีอย่างไร ก็ขอให้ติดต่อพ่อแม่ เพราะตอนนี้คนในครอบครัวรู้สึกทุกข์ใจมาก ๆ"
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้ทดสอบโทรไปยังเบอร์ต่างประเทศ ซึ่งเป็นเบอร์ที่น้องน้ำโทรกลับมาหาพ่อแม่ พบว่าปิดเครื่องและไม่สามารถติดต่อได้
ทีมข่าวเดินทางไปที่ หอพักแห่งหนึ่ง ซอยเพชรบุรีตัดใหม่ 37 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นหอพักที่ น.ส.สุวนันท์ เคยพักอาศัยอยู่ โดยขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่ เป็นวันหยุดทำการของเสมียนหอพัก
นางจอย (สงวนชื่อ-นามสกุลจริง) แม่ค้าภายในหอพัก เปิดเผยว่า ตนไม่ได้รู้จักน.ส.สุวนันท์ เป็นการส่วนตัว แต่ช่วงกลางคืนน.ส.สุวนันท์ มักจะมาซื้อน้ำดื่มกับน้ำอัดลมเป็นประจำ และตนจะเจอกันแค่ช่วงเวลานั้นเลยไม่ทราบว่าทำงานอะไร หรือออกไปทำงานตอนไหน อีกทั้งน.ส.สุวนันท์ ยังพักอยู่ห้องคนเดียว และไม่เคยเห็นว่าจะมีใครมาหาที่ห้อง
ทั้งนี้ตนไม่เห็นน.ส.สุวนันท์ ประมาณ 4 เดือนแล้ว กระทั่งเดือนก.พ.64 พ่อแม่ได้มาขนของจากหอกลับบ้าน ในสภาพที่ย้ายของทั้งน้ำตา เพราะติดต่อลูกสาวไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตนเป็นกำลังใจให้กับครอบครัว ขอให้ตามตัวเจอได้โดยเร็ว
