กรณีนายไชย์พล วิภา ลุงเขยของน้องชมพู่ ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าน้องชมพู่ ได้แสดงอาการคุกคามสื่อมวลชน จนเกิดเป็นข้อสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลุงพลหลังจากที่ถูกนำเข้าเครื่องจับเท็จ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 12 ก.พ.64 เวลา 09.00 น. ลุงพลและป้าแต๋น พร้อมกับกลุ่มยูทูเบอร์ ได้เดินทางด้วยรถกระบะของลุงพล เดินทางไป อ.เต่างอย จ.สกลนคร เพื่อร่วมประชุมอบรมสินค้าที่ลุงพลเป็นพรีเซ็นเตอร์
เวลา 14.00 น. ทนายรัชพล ศิริสาคร พร้อมกับผู้ช่วย ได้เดินทางมายังบ้านลุงพล เพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับภาษีและกรณีที่ป้าแต๋นถูกนำบัญชีไปแอบอ้าง ซึ่งทันทีที่มาถึงก็ได้เข้าไปลงทะเบียนที่จุดคัดกรอง โดยมีการวัดไข้และสอบสวนโรค สอบถามสถานที่ที่ไปเยือนมา
เวลา 14.30 น. ลุงพล ป้าแต๋น และยูทูเบอร์ ได้เดินทางกลับมาที่บ้าน ซึ่งลุงพลได้เข้าไปพูดคุยกับทนายรัชพลครู่หนึ่ง เกี่ยวกับกรณีที่เป็นประเด็น โดยหลังจากพูดคุย ทนายรัชพล ก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้มาพูดคุยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องของภาษี เรื่องบัญชีของป้าแต๋น รวมถึงเรื่องหมายจับ ซึ่งในส่วนที่มีคนนำเลขบัญชีป้าแต๋น ไปขอรับบริจาคนั้น ตนก็ได้แนะนำไปว่าควรที่จะไปปิดบัญชีให้เรียบร้อย คนจะได้บริจาคไม่ได้
สำหรับผู้โพสต์ ป้าแต๋นสามารถที่จะดำเนินคดีได้ด้วย เนื่องจากเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะทำให้เกิดความเสียหายแก่ป้าแต๋น เพราะ "ป้าแต๋นเขาไม่ได้เปิดรับบริจาค แต่คุณไปบอกว่าเขาเปิดรับริจาค มันเป็นการโกหกและทำให้ป้าแต๋นเสียหาย เพราะคนอื่นต้องมองว่าป้าแต๋นเปิดรับบริจาคทำไม"
ส่วนเรื่องของการคืนเงินบริจาคนั้น ต้องดูด้วยว่าคนที่บริจาคขอคืนหรือไม่ เพราะถ้าจะไปไล่ตามเช็กทีละคน เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ซึ่งตนก็คิดว่าเป็นไปได้ที่จะมีคนไม่หวังดีกลั่นแกล้งป้าแต๋น ซึ่งตนก็ได้แนะนำให้ป้าแต๋นไปปิดบัญชี คาดว่าอาจจะเป็นวันที่ 15 ก.พ.64 แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเงินมีเท่าไรเพราะยังไม่ได้ปรับอัปเดตสมุดบัญชี
ทนายรัชพล กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องข่าวลือหมายจับนั้น ตนยืนยันว่า ไม่มีหมายจับคดีน้องชมพู่ ไม่มีแน่นอนวันที่ 12-15 ก.พ.64 ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อะไรที่ทำให้มั่นใจว่าในช่วงวันดังกล่าวจะไม่มีหมายจับคดีน้องชมพู่ ทนายรัชพล กล่าวว่า ตนรู้ว่ามันไม่มี เพราะตนก็มีข้อมูลของตน ยืนยันว่าที่มีข่าวลือว่าภายในวันที่ 15 ก.พ.64 ไม่มีแน่นอน ซึ่งตนก็บอกกับลุงพลว่าไม่ต้องเครียด เขาก็สบายใจและยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี เพราะหมายจับไม่มีแน่นอน ไม่ว่าใครจะพูดว่ามีข้อมูล แต่ตนก็มีข้อมูลของตนเช่นกัน
ทีมข่าวได้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ลุงพล และป้าแต๋น เก็บกระเป๋าสัมภาระ พร้อมลูกชาย 2 คน คือ น้องโอม และน้องน้ำมนต์ เดินทางออกจากบ้านด้วยรถกระบะ โดยมียูทูเบอร์คนสนิทติดตามไปด้วย คาดว่าลุงพล น่าจะเดินทางไปทำธุระส่วนตัว หรือไปพักผ่อนนอกสถานที่ประมาณ 2-3 วัน และน่าจะกลับมาบ้านในวันที่ 15 ก.พ.64 ที่จะถึงนี้
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก "ทนายคลายทุกข์" ให้หัวข้อว่า "12/2/64 วิเคราะห์ข่าวเด่นคดีดังและการเมือง" โดยมีช่วงหนึ่งที่ทนายเดชา ได้แจ้งข่าวว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่อ
ทนายรัชพล กล่าวต่อว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรมาพูดคุยกับลุงพล เพื่อแนะนำวิธีการยื่นภาษีว่า ในส่วนเงินบริจาคสร้างศาลาวัดนั้น ตนมองว่าเป็นกรณีคล้ายกับของคุณบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ที่เปิดรับบริจาคเงินน้ำท่วม เพราะลุงพลเป็นแค่ทางผ่าน สะพานบุญ
เมื่อคนบริจาคเงินมา ลุงพลก็เอาไปทำสาธารณประโยชน์ เงินไม่ได้เข้ากระเป๋าลุงพล จึงมองว่าไม่ต้องเสียภาษี แต่ในส่วนของการรับงานพรีเซ็นเตอร์ ก็ต้องมีการเสียภาษีแน่นอน ซึ่งได้มีการแนะนำให้ลุงพลทำบัญชีไว้ เพื่อนำไปยื่นให้กับกรมสรรพากร รวมถึงการสร้างพญานาคก็ต้องเสียภาษีด้วย