พิสูจน์จุดเจอลุงพลตีนเขา "ส้มโอ" เห็นชัดเหม่อซึม "แต๋น" โต้เปิดบัญชีช่วยคนดี (คลิป)

11 ก.พ. 64

กรณีนายไชย์พล วิภา ลุงเขยของน้องชมพู่ ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าน้องชมพู่ ได้แสดงอาการคุกคามสื่อมวลชน จนเกิดเป็นข้อสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลุงพลหลังจากที่ถูกนำเข้าเครื่องจับเท็จ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

581550

ล่าสุดวันที่ 11 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านลุงพล ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งวันนี้ลุงพลและป้าแต๋นก็ยังอยู่ที่บ้าน ทีมข่าวได้เข้าไปสอบถามลุงพลเกี่ยวกับข้อสงสัยต่าง ๆ ซึ่งลุงพลก็ตอบไปด้วย และเดินทำกิจกรรมต่าง ๆ ไปด้วย

183721893514

กรณีที่เพจเฟซบุ๊กมีการโพสต์ถึงการเปิดบัญชีรับบริจาคของลุงพล และป้าแต๋น เป็นบัญชี ธกส. สาขาดงหลวง ชื่อ "บัญชีธารบารมีช่วยคนดีพ้นทุกข์" ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าบัญชีนี้ยังคงเปิดอยู่ ลุงพล กล่าวชี้แจงว่า ตนไม่มีส่วนรู้เห็นและไม่ทราบรายละเอียดการเปิดรับบริจาค คิดว่าคนโพสต์คงตั้งใจทำให้ตนเสียชื่อเสียง และได้รับความเสียหาย ซึ่งตนไม่เครียดเรื่องนี้ และตนจะให้ป้าแต๋นไปดำเนินการแจ้งความ ส่วนกระแสข่าวลือการออกหมายจับเทวดากับนางฟ้าในคดีน้องชมพู่ ตนก็ไม่มีความกังวลอะไร เพราะเขาจะจับเทวดากับนางฟ้า ไม่เกี่ยวกับตนและป้าแต๋น เพราะเราทั้งคู่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา

758057

ส่วนเรื่องที่ตำรวจเตรียมเพิ่มเติมข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยเล็งเห็นผล หรือประสงค์ต่อผล และอนาจารศพ ลงในหมายจับ รวมถึงการเข้าพบนายสมเกียรติ โรจนะวรกมล ทนายความส่วนตัว มีรับผิดชอบคดีบุกรุกป่าสงวนนั้น ลุงพล ก็ปฎิเสธว่า "ไม่รู้ ๆ"

186749

ขณะที่นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ได้นำหลักฐานที่มีการโพสต์เปิดรับบริจาค เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.กกตูม โดยป้าแต๋น เปิดเผยว่า เพิ่งทราบว่ามีคนนำบัญชีไปเปิดรับบริจาค เพราะมีคนส่งเรื่องมาให้ดู วันนี้ตนจึงเดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจะส่งต่อให้ทนายเป็นผู้ดูแล เพราะตนและลุงพลไม่มีส่วนรู้เห็น เบื้องต้นบัญชีดังกล่าวเป็นบัญชีที่เปิดไว้หลายปีแล้วเพื่อทำการเกษตร ซึ่งตอนนี้ตนก็ยังไม่รู้ว่าจำนวนเงินที่ถูกโอนเข้าบัญชีจะมีเงินเท่าไร เพราะยังไม่ได้อัปเดตสมุดบัญชี

632945

เนื่องจากไม่ได้ใช้สมุดเล่มนี้มานานแล้ว และไม่มีข้อความแจ้งเตือน ซึ่งหากใครที่โอนเงินเข้ามาและต้องการเงินคืน ก็ให้นำสลิปการโอนมาแสดงและตนก็พร้อมที่จะคืนเงิน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าคนที่เปิดรับบริจาครู้บัญชีนี้ได้อย่างไร เพราะตนก็ไม่เคยเปิดเผยในที่สาธารณะ แต่ตนจะไปปิดบัญชีเพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมา

782378563388

ทั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่ได้เปิดรับบริจาคอีกแล้ว และขอเตือนทางแฟนคลับว่าอย่าโอนเงินเข้ามา เพราะตนไม่ได้เปิดรับบริจาค และขอทางแฟนคลับที่สงสารตน ก็อย่าโพสต์เปิดรับบริจาค ซึ่งตนเข้าใจว่ามีคนที่รักก็ต้องมีคนที่ชัง มีคนมาโพสต์รับบริจาคแบบนี้ก็ทำให้ตนเสียชื่อเสียง กรณีที่มีการบอกว่าเทวดาและนางฟ้าร้อนตัว ซึ่งที่ผ่านมาข่าวลือหมายจับก็มีมาตลอด แต่ตนก็ยืนยันคำเดิมว่า พวกตนเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ไม่ใช่เทวดาหรือนางฟ้าและได้มีคนที่ให้คำปรึกษาไว้แล้ว

481901

ทนายรัชพล ศิริสาคร เปิดเผยว่า ในฐานะทนายความ ตนก็อยากแนะนำให้ป้าแต๋น ปิดบัญชีดังกล่าว เพราะจะได้ไม่มีใครโอนเงินเข้าไปเพิ่ม และที่ป้าแต๋นเดินทางไปแจ้งความตน ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และตนอยากเตือนผู้ที่โพสต์กลั่นแกล้งอาจจะมีความผิดได้ เพราะป้าแต๋นไม่ได้มีส่วนรู้เห็นเรื่องการรับบริจาค แต่เขานำไปลงข้อมูลเท็จว่ามีการเปิดรับบริจาค ก็เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีโทษจำคุก 5 ปี

158480

ทั้งนี้ถ้าผู้โอนต้องการเงินคืน ป้าแต๋นก็ต้องคืนเงิน และป้าแต๋นก็ยินดีโอนเงินคืนให้กับคนที่ต้องการเงินคืน อย่างไรก็ตาม ป้าแต๋นไม่จำเป็นต้องเปิดเผยเงินที่มีการโอนเข้าบัญชี เพื่อป้องกันผู้ไม่ประสงค์ดีฉวยโอกาสใช้ข้อมูลทำอะไร ซึ่งตนคิดว่าเรื่องยอดเงินให้ปิดไว้จะดีกว่า

นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ (12 ก.พ.64) ตนจะเข้ามาพูดคุยและช่วยลุงพลดูแลเรื่องภาษี เพราะกรมสรรพากรได้เข้ามาพูดคุยกับลุงพลแล้ว ส่วนกรณีเงินรับบริจาคสร้างศาลาวัดนั้น ตนคิดว่าลุงพลอาจจะไม่ต้องเสียภาษี เพราะลุงพลเป็นเพียงสะพานบุญ ซึ่งกรณีนี้คล้ายกับที่ คุณบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ เปิดรับบริจาคเงินน้ำท่วม

 

ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการเรียกสอบพยานเพิ่มเติม รวมถึงได้เชิญตัวนางส้มโอ (นาสมมติ) ไปเข้าเครื่องจับเท็จที่กองพิสูจน์หลักฐาน 1 ปทุมธานี โดยเจ้าตัวเป็นพยานสำคัญที่เห็นลุงพลช่วงเวลา 15.00-16.00 น. ที่ตีนเขาภูเหล็กไฟ บริเวณห้วยบุ่งนั้น

580819

นางส้มโอ (นามสมมติ) พยานที่พบเห็นลุงพล ได้พาทีมข่าวขึ้นไปที่เขาภูเหล็กไฟ เพื่อจำลองสถานที่จริง โดยอ้างว่าที่ผ่านมา ไม่มีใครรู้ตำแหน่งจุดที่เจอ เพราะมีเพียงตำรวจเท่านั้นที่พาตัวเองขึ้นไปทำแผนชี้สถานที่จริง ดังนั้นสิ่งที่ตัดสินใจจะพาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ขึ้นไปนั้น เพื่อยืนยันว่าตนเจอลุงพลจริง และเจออยู่บริเวณไหน ไม่ใช่เพียงแค่คำกล่าวอ้าง

536347

ทั้งนี้ระหว่างทางตั้งแต่บริเวณตีนเขาขึ้นไปที่ห้วยบุ่ง ยอมรับว่ามีต้นหญ้าเพ็กปกคลุมพื้นที่ เดินลำบาก แต่ในช่วงที่น้องชมพู่หาย 11 พ.ค.63 สภาพป่าค่อนข้างโล่งเตียน และมีต้นหญ้าเพ็กเล็กน้อย แต่วันนี้สภาพเปลี่ยนไปค่อยข้างมาก แต่นางส้มโอ จำสถานที่ที่เจอกับลุงพลได้ชัดเจน และกล่าวทักทายกับลุงพล

576580

นางส้มโอ ได้ทอสอบยืนอยู่ในร่องห้วยบุ่ง ตำแหน่งเดียวกันกับวันจริง ที่เจอกับลุงพล วันที่ 11 พ.ค.63 เวลา 15.00-16.00 น. พร้อมกับให้ทีมข่าวไปยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ด้านบนห้วยบุ่ง ห่างจากนางส้มโอ 5 เมตร ส่วนกล้องของช่างภาพอมรินทร์ ทีวี อยู่แทนทำแหน่งระดับสายตา ผ่านหลังนางส้มโอ มองไปที่ด้านบน ซี่งจะเห็นทีมข่าวซึ่งแทนตำแหน่งลุงพลชัดเจน เห็นว่ารูปร่างเป็นอย่างไร สีหน้าแบบไหน สีเสื้ออย่างไร และเป็นใครที่ยืนอยู่

727807

นางส้มโอ ได้แหงนหน้ามองขึ้นไป จุดที่เจอลุงพล ได้ตะโกนว่า “ตาพล ลงมานี่ ลงมาเป็นเพื่อนหน่วย มาช่วยหาชมพู่หน่อย ฉันกลัว” (ภาษาอีสาน) ซึ่งหลังจากตนตะโกนแล้ว ลุงพลได้เดินหนีลงไปตามแนวร่องห้วย มุ่งหน้ากลับลงไปที่บ้าน ไม่ได้ลงมาหาตน สังเกตว่าสีหน้าท่าทางของลุงพลในตอนนั้นที่ทักทาย เหมือนคนกำลังตื่นวิตก ประกอบกับการค้นหาของชาวบ้าน จะมีการแบ่งงานกัน ผู้ชายจะหาโชนบนเขา ส่วนผู้หญิงหาแถวตีนเขาและห้วยบุ่ง ตอนนั้นเหมือนลุงพลโผล่เข้ามาทั้งที่ไม่มีคนเห็นตอนขึ้น และไมมีใครเห็นตอนเดินมาที่ห้วยบุ่ง เพราะไม่มีคนเดินตาม

นางส้มโอ ยังเปิดเผยข้อมูลอีกชุด ที่ยืนยันว่า วันที่ 11 พ.ค.63 ไม่ใช่การเจอลุงพลเพียงครั้งเดียว แต่ห่างออกไปอีกประมาณ 30 นาที คาดว่าจะเป็นช่วงเวลา 16.30 น. ตนเดินหาลัดเลาะลงไปตามร่องห้วย เส้นทางที่ลุงพลลงไปด้านล่าง จังหวะนั้นได้รับนมเปรี้ยวสีเขียว 1 กล่อง จากแม่น้องชมพู่ เพื่อเอามาติดตัวเอาไว้ กรณีที่เจอกับน้องชมพู่ จะได้นำนมเปรี้ยวให้น้องดื่ม ตนได้เดินลงไปด้านล่าง ซึ่งอยู่ห่างจากลุงพลพอสมควร

788625

จากนั้นได้มาเจอลุงพลอีกครั้ง อยู่บริเวณสวนยาง ตรงข้ามบ้านของลุงพล ตอนนั้นอยู่ห่างจากตนในระดับหนึ่งแต่วัดระยะไม่ได้ ซึ่งระหว่างที่ลุงพลยืนอยู่กับจุดที่ตนยืนอยู่ มีกระสอบปุ๋ยสีขาววางอยู่กึ่งกลางส่วนใหญ่ ตนได้ตะโกนบอกลุงพลว่า “ตาพล ดูหน่อย กระสอบปุ๋ยสีขาวที่นอนอยู่มีอะไร” แต่ลุงพลก็ไม่สนใจ ไม่ได้เดินย้อนกลับมาที่กระสอบปุ๋ย มุ่งหน้ากลับไปที่บ้านด้วยอาการเม่อลอย ตนจึงตัดสินใจนำเท้าไปเหยียบที่กระสอบปุ๋ย ซึ่งด้านนายเป็นปุ๋ยคอก (ขี้วัว) โดยมีลักษณะปิดปากกระสอบปุ๋ยเอาไว้ ตนเลยแปลกใจว่าทำไมในตอนนั้นตนทักเป็นครั้งที่ 2 แล้ว แต่ลุงพลก็ไม่ได้สนใจ รีบเดินกลับบ้าน

นางส้มโอ เผยอีกว่า วันนี้ตนทราบว่าตำรวจได้เชิญตัวคนกกกอกคนหนึ่ง ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งตนก็ได้รับการติดต่อมาจากตำรวจชุดดังกล่าวเหมือนกัน ว่า ให้เตรียมตัว ช่วง 1-2 วันนี้ จะมีชุดสืบสวนมารับตัวไปพูดคุยเพิ่มเติม ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นการเรียกสอบในฐานะพยานหรือไม่ แต่ถ้ามีการสอบปากคำ ตนก็เชื่อว่า ไม่ใช่เป็นครั้งที่ 4 แต่มากกว่านั้น เพราะไปเจอกับตำรวจมากกว่านั้น และตนก็ยังไม่รู้ว่าทำไมตำรวจต้องย้อนกลับมาถามคำถามเดิม ทั้งที่ถามกี่ครั้งก็ยังตอบแบบเดิม ไม่มีอะไรเพิ่มหรือลดน้อยลง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส