วันที่ 16 เม.ย. 63 จากกรณี นางธนวรรณ ชุมแวงวาปี อายุ 63 ปี ข้าราชการครูเกษียณ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตอุดรธานี อาศัยอยู่ที่บ้านหนองสวรรค์ ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี เข้าร้องขอความเป็นธรรมที่ สภ.เมืองอุดรธานี ว่าเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้ น.ส.น้ำฝน อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นลูกศิษย์ แต่เมื่อลูกศิษย์เรียนจบ กลับไม่ใช้หนี้กองทุน ทำให้ถูกกรมบังคับคดีอายัดที่ดิน 53 ตารางวา ที่เตรียมจะสร้างบ้าน ทำให้เดือดร้อนอย่างหนัก รวมเป็นเงินต้นและดอกเบี้ย 238,583 บาท
นางธนธรรณ เปิดเผยว่า ตนเคยรับราชการครู เป็นครูที่ปรึกษาชั้น ปวช.1 เมื่อปี 2540 ต่อมา น.ส.น้ำฝน นักศึกษาชั้น ปวช.1 มีฐานะยากจน พ่อแม่ไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพฯ ต้องอาศัยอยู่กับยายป้าและลุง ไม่มีเงินเรียน ตนจึงให้ลูกศิษย์กู้เงินกองทุน กยศ. และตนเป็นผู้ค้ำประกัน ปีแรก 18,628 บาท ส่วนปีถัดไปจนถึงจบปริญญาตรีมีญาติของ น.ส.น้ำฝนเป็นคนค้ำด้วย รวมผู้ค้ำ 4 คน เงินกู้ทั้งหมด 159,195 บาท นอกจากนี้ ทำเรื่องขอทุนการศึกษาต่อเนื่องจนจบปริญญาตรีให้อีก ซึ่งตนค้ำประกันให้ลูกศิษย์ที่กู้เงิน กยศ. รวมประมาณ 10 คน
หลังลูกศิษย์เรียนจบชั้น ปวส. และไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยใน จ.อุดรธานี จนจบปริญญาตรี ตนก็ไม่เคยพบ น.ส.น้ำฝน อีกเลยกระทั่งตนเกษียณอายุราชการ ต้องออกจากบ้านพักข้าราชการ จะสร้างบ้านบนที่ดิน 53 ตารางวาที่ถนนรอบเมือง ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเตรียมจะถมดินเตรียมสร้างบ้าน
จากนั้นมีหนังสือของกรมบังคับคดีติดประกาศไว้ที่รั้ว จะยึดที่ดินแปลงนี้ เพื่อขายทอดตลาด ตนจึงทราบว่าเป็นคดีที่ กยศ. ฟ้องน.ส.น้ำฝน ที่ไม่ใช้หนี้รวมเป็นเงินต้นและดอกเบี้ย 238,583 บาท และกรมบังคับคดีตามยึดทรัพย์ผู้ค้ำประกันเงินกู้ 4 คน รวมทั้งตนด้วย แต่ผู้ค้ำรายอื่น ซึ่งเป็นญาติ น.ส.น้ำฝน ไม่มีทรัพย์สินให้อายัด บางคนก็เสียชีวิตแล้ว มีแต่ตนเพียงผู้เดียวที่มีทรัพย์สิน จึงถูกอายัดที่ดิน
โดยรายละเอียดการกู้ กยศ. ของ น.ส.น้ำฝน หลังเรียนจบปริญญาตรี ต้องจ่ายหนี้เดือนแรกในวันที่ 5 ก.ค. 48 จนถึงงวดสุดท้ายวันที่ 5 พ.ย. 62 เดือนละ 1,800 บาท รวม 15 ปี แต่จ่ายหนี้ถึงวันที่ 5 ก.ย. 55 รวม 8 ปี หลังจากนั้นก็ไม่จ่ายอีก ตนพยายามติดต่อ น.ส.น้ำฝน แต่ติดต่อไม่ได้
"อยากบอกให้ลูกศิษย์พูดความจริง ช่วยกันแก้ปัญหา ที่ผ่านมาครูช่วยลูกศิษย์แก้ปัญหา หลังจากที่ลูกศิษย์สบายแล้ว อย่าทิ้งภาระให้ครูที่เป็นคนช่วยเหลือมาตลอด เขามีบ้านให้แม่อยู่ แต่ครูไม่มีบ้านอยู่ ฝากถึงพ่อแม่ลูกศิษย์ให้เห็นใจ ขอให้ช่วยแก้ปัญหาด้วย และถึงแม้ครูจะถูกยึดที่ดิน ครูก็จะฟ้องเอาหนี้คืน"
นางธนธรรณ กล่าว่า ตนไม่เคยคิดที่จะต้องแจ้งความดำเนินคดีลูกศิษย์ ไม่อยากทำ แต่เพราะเดือดร้อนหนัก อยากให้ลูกศิษย์เห็นใจครู มารับผิดชอบหนี้ของตัวเอง เพราะครูเดือดร้อน ถูกยึดที่ดินผืนสุดท้าย แทบจะไม่มีที่ซุกหัวนอน อย่าตอบแทนพระคุณครูแบบนี้ เงินที่กู้ยืมเรียนเป็นเงินหลวง เป็นเงินแผ่นดิน ยืมแล้วต้องคืน ถ้าไม่คืนบาปกรรมมันจะติดตัวไปจนตาย ส่งผลไปถึงชั่วลูกชั่วหลาน
ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านคำเจริญหมู่ 12 ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี บ้านของนางบุญเพียง อายุ 58 ปี แม่ของ น.ส.น้ำฝน เป็นบ้านสร้างใหม่ 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ มีรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์จอดอยู่หน้าบ้าน 1 คัน
นางบุญเพียง มูลปลัด แม่ของน.ส.น้ำฝน เปิดเผยว่า ตนเองไม่ทราบว่าลูกสาวติดหนี้ กยศ. นึกว่าลูกสาวใช้หนี้หมดแล้ว เนื่องจากลูกสาวกู้ยืม กยศ. มาตั้งแต่ปี 2548 และตอนนั้นตนเองก็เห็นว่าลูกสาวได้ทำงานอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ฝากเงินให้กับอดีตสามีชำระหนี้ กยศ.ให้ แต่เมื่อทั้ง 2 คนหย่าร้างกัน ตนเองก็ไม่รู้เรื่องว่าลูกสาวชำระหนี้หมดแล้วหรือยัง
หลังจากที่ตนเองได้พูดคุยกับครูที่ ขอรับปากว่าตนจะใช้หนี้แทนลูกสาว แต่ตนก็ยังไม่มีเงินพอ คงจะต้องไปหากู้ยืมญาติหรือคนรู้จัก โดยเมื่อวานตนเองโทรศัพท์ไปหาลูกสาวแล้ว ลูกสาวก็บอกว่าจะรับผิดชอบใช้หนี้ทั้งหมด แต่ตอนนี้ยังกลับประเทศไทยไม่ได้ เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์โควิด-19
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลูกสาวทำงานอยู่ประเทศญี่ปุ่น ส่งเงินให้ตนใช้เดือนละ 6,000-7,000 บาท ส่วนบ้านของตนที่ตกแต่งใหม่ ก็เป็นเงินของลูกสาว 200,000 บาท ตกแต่งได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว ส่วนรถบิ๊กไบก์ก็เป็นเงินของตนเองและลูกสาว ที่ออกรถให้กับลูกชาย
สำหรับผู้ที่ค้ำประกันกู้ กยศ. ให้กับลูกสาวมีทั้งหมด 4 คน คือ ลุงของลูกสาว แม่ของตนที่เสียชีวิตแล้ว อดีตสามีของลูกสาว และครูที่ถูกยึดทรัพย์ ตนเองอยากขอโทษทุกคน หลังจากนี้จะหาเงินมาทยอยจ่ายเป็นงวด ๆ พรุ่งนี้จะไปขอคุยกับครูอีกครั้ง
ด้านบังอร น้าของ น.ส.น้ำฝน เปิดเผยว่า หลานสาวตนเองไม่ได้หนีหนี้ กยศ. ตนคิดว่าหลานสาวจ่ายหนี้ตามกำหนดมาตลอด แต่พักหลังอาจจ่ายไม่ต่อเนื่อง แต่ตนและแม่ของเขาก็ไม่มีใครรู้เรื่อง คิดว่าชำระหนี้หมดแล้ว วันนี้ตนเองโทรศัพท์ไปนัดครูเพื่อเจรจาจ่ายหนี้ "ตอนนี้น้ำฝนไม่สะดวกคุย เพราะไม่สบาย แพทย์ที่ญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์ และน้ำฝนบอกกับตนว่าจะโทรศัพท์มาขอโทษครูธนวรรณ คนที่ค้ำประกันให้เขา พร้อมรับผิดชอบทั้งหมด"
