แท็กซี่ตีนผีชนหนุ่มไรเดอร์ดับ พี่ฉะตร.ไม่รับแจ้งไล่หาหลักฐานเอง (คลิป)

9 ม.ค. 66

เหตุการณ์ที่ทางครอบครัวผู้เสียชีวืตได้มีการร้องเรียนมาผ่านสื่อ หลังคดีของลูกชายวัย 33 ปี ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุไม่คืบหน้า โดยเหตุการณ์นั้นสทบเนื่องจากกรณีที่ นายทัฐชวิน ยวนะปุณฑ์ อายุ 33 ปี ได้ประสบอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์ล้ม เป็นเป็นจังหวะเดียวกับที่รถแท็กซี่ได้ขับมาและพุ่งชนนายทัฐชวินจนเสียชีวิตคาที่ เมื่อช่วงเช้าตรู่ 04.30 น. ของวันที่ 7 ม.ค. 66 บริเวณถนนพหลโยธิน ขาออก ตรงข้ามกับโรงพยาบาลบีแคร์เมดิคอลเซ็นเตอร์ แขวงสายไหม เขตสายไหมกรุงเทพมหานคร

442078

วันที่ 9 ม.ค. 66 น.ส.สายพิณ สอนสุด อายุ 53 ปี และนายปรเมศร์ ยวนะปุนณ์ อายุ 25 ปี น้องชายของผู้เสียชีวิต เปิดใจว่าช่วงที่เกิดเหตุว่าวันนั้นช่วงประมาณตี 4 กว่า ของเช้าวันที่ 7 ม.ค.

505025

หลังจากที่พี่ชายและเพื่อน ๆ ของเขาวิ่งงานรับส่งอาหารหรือไรเดอร์เสร็จ กำลังจะมุ่งหน้ากลับห้องย่านสนามธูปะเตมีย์ ระหว่างทางจะกลับห้องพอถึงจุดบริเวณที่เกิดเหตุเส้นถนนพหลโยธินขาออก ตรงข้ามกับโรงพยาบาลบีแคร์เมดิคอลเซ็นเตอร์ รถของพี่ชายตนได้เสียหลัก และไถลลงไปกับถนนบริเวณเลนกลางถนน

262927

ตอนนั้นทางพี่ชายของตนยังคงมีสติและพยายามจะลุกขึ้นเพื่อเอาตัวรอด แต่ผ่านไปสักพักกลับพบว่าทางรถแท็กซี่เขียวเหลืองได้ขับมาทับร่างของพี่ชายตน ก่อนที่เขาจะจอดรถไปคุยกับทางเพื่อนของพี่ชายที่อยู่ในช่วงที่เกิดเหตุ เพื่อนของพี่ชายตนได้สอบถามทางคนขับเเท็กซี่ว่าได้ขับรถทับร่างพี่ชายของตนใช่ไหม แท็กซี่อ้างว่าไม่ทราบ นึกว่าขับทับรถจักรยานยนต์ ก่อนที่ทางแท็กซึ่ได้ใช้จังหวะที่ทุกคนเข้าไปช่วยเหลือพี่ชายตนชับรถหนีออกไป ไม่ติดต่อ และไม่ได้แจ้งข้อมูลหรือรอประกัน

710063

หลังจากที่พี่ชายของตนได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา สาเหตุที่ทางแพทย์ระบุคืออวัยวะภายในแตกและฉีกขาดจากการโดนกดทับจากของหนัก ส่งผลให้ปอด ไต และส่วนบริเวณหน้าท้องไม่ได้สามารถรักษาได้ ซึ่งยืนยันได้ชัดเจนว่าสาเหตุนั้นไม่ได้มาจากที่ทางพี่ชายของตนล้มรถแล้วเสียชีวิต

412737

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พี่ชายของตนเสียชีวิต คู่กรณีเองไม่ได้ติกต่อหรือมาแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด ครอบครัวเองที่เป็นฝ่ายหากล้องวงจรปิด และพยายามหาคนก่อเหตุจากป้ายทะเบียนรถ จนทราบว่าเขาคือใคร และมีการนัดเจรจาการเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งเขาเองอ้างข้อกฎหมาย และบอกว่าเขาไม่เห็นและไม่ได้ขับรถทับผู้เสียชีวิต

857635

ขณะที่ทางเข้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นก็พยายามช่วยเต็มที่และมีการนัดสอบสวนให้ปากคำเพิ่มเติมและไกล่เกลี่ย เจรจาอีกครั้ง 24 ม.ค. ส่วนตัวอยากมห้พี่ชายได้รับความเป็นธรรม และได้เห็นความแสดงรับผิดชอบของอีกฝ่าย เพราะตอนนี้เขาเองเหมือนกลับคำจะไม่รับผิดชอบ ตนเลยต้องออกมาเรียกร้อง

 

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส