กรณีเพจ "สายไหมต้องรอดโพสต์" ลงภาพวงจรปิดเหตุการณ์ รถยนต์เฟอร์จูนเนอร์ของผู้เสียหายรายหนึ่ง ถูกคนร้ายลากขโมยไปจากจุดเก็บรถของกลางของ สน.ดอนเมือง ระบุข้อความว่า "ขอคำปรึกษาแอด รถผมได้เกิดอุบัติเหตุ ในท้องที่ สน.ดอนเมือง โดยรถจอดในจุดที่เก็บรถของกลางของ สน.ดอนเมือง และคดีก็สิ้นสุดลงแล้ว
เมื่อวันที่ 3 พ.ย.65 รถผมได้หายไปจากจุดจอด ผมจึงได้พยายามหากล้องวงจรปิด ปรากฏว่า รถของผมถูกรถลากออกไปจากจุดจอดรถของกลาง ไปถึงบริเวณเซเว่นแถว เปรมประชา ซึ่งมีรถสไลด์มายกรถผมไปอีกต่อ และรถสไลด์คันดังกล่าวก็วิ่งมุ่งหน้าไปที่จังหวัดอยุธยา แล้วก็ไม่พบภาพวงจรปิดแล้ว ผมต้องทำยังไงดีครับ คดีไม่คืบหน้าเลยครับ อยากให้ #สายไหมต้องรอด ช่วยเหลือหน่อยครับเดือดร้อนมากๆ"
วันที่ 8 ธ.ค. 65 นายอิทธิพล ยุพาพิน อายุ 40 ปี ไรเดอร์ผู้เสียหาย เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ช่วงปี 2563 ตนเกิดอุบัติเหตุ โดยขับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีเทา รุ่นปี 2014 เฉี่ยวชนกับรถแท็กซี่ ย่านถนนเชิดวุฒากาศ เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ต่อมาลากรถตนและรถคู่กรณีไปเคลียร์ปัญหากันที่ สน.ดอนเมือง ซึ่งตอนนั้นตนกับคู่กรณีจบด้วยดี ตนได้รับผิดชอบค่าซ่อมรถของคู่กรณีทั้งหมด จากนั้นฝากรถตนที่ประสบอุบัติเหตุกับตำรวจจอดไว้ที่จุดเก็บรถของกลางของ สน.ดอนเมือง
ต่อมาตนตกงานกะทันหัน ทำให้ไม่มีเงินจ้างลากรถมาไว้ที่บ้านพัก และยังไม่มีเงินซ่อมรถ จึงฝากรถจอดไว้ที่จุดเก็บรถของกลางของ สน.ดอนเมือง จากนั้นก็ผันตนมาเป็นไรเดอร์ เพื่อเก็บหอมรอมริบเงินเพื่อไว้ซ่อมรถ และจะลากกลับมาที่บ้านพัก จนเวลาผ่านไป 2 ปี ยอมรับว่าส่วนหนึ่งตนประมาท แต่ตอนนั้นก็ยังไม่มีเงินพอที่จะนำรถกลับคืน ก่อนหน้านี้ทางตำรวจได้โทรศัพท์มาหาตน แจ้งตนให้ไปเอารถคืนจากจุดที่ฝากจอดไว้ถึง 2 ครั้ง แต่ตนก็ปฏิเสธเพราะยังไม่พร้อมเรื่องเงิน
จนกระทั่งวันที่ 4 พ.ย. มีรุ่นน้องตนที่พักอาศัยใกล้จุดเก็บรถของกลางของ สน.ดอนเมือง โทรมาหาตนว่าเห็นรถมาลากรถตนออกไปจากจุดจอดรถ ตอนนั้นก็คิดว่าตำรวจมาลากออกไป จึงไม่ได้เอะใจ จนกระทั่งวันที่ 5 พ.ย. มาถามตำรวจที่ สน.ดอนเมือง แล้วทราบว่าตำรวจไม่ได้สั่งยกออกไป จากนั้นทางตำรวจช่วยตรวจสอบวงจรปิด จนพบว่ามีคนร้ายใช้รถกระบะสไลด์ยกรถตนออกไปช่วง 20.00 น. วันที่ 3 พ.ย. และที่น่าตกใจคือคนร้ายทำเป็นขบวนการประมาณ 3-4 คน จ้างวานคนมาขับรถกระบะสไลด์ยกรถ ก่อนนัดรับรถกับเจ้าของอู๋รถกันที่จุดหนึ่ง ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าบริเวณไหน อยู่ระหว่างตำรวจสืบสวน แล้วคาดว่าเมื่อถึงอู๋รถ รถของตนถูกชำแหละในวันที่ 4 พ.ย. ก่อนนำไปขายต่อ ส่วนตัวเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะรถคันนี้เป็นมือสอง อาตนเป็นคนกู้ซื้อให้ตนในราคาเกือบ 700,000 บาท ผ่อนทั้งหมด 5 ปี คงเหลือที่ต้องผ่อนสองปี ตกเดือนละ 14,000 บาท แล้วตนคงต้องรับชะตากรรมต่อไป
ด้านตำรวจชี้แจงกรณีรถผู้เสียหายที่หายจากพื้นที่ สน.ดอนเมือง ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจ เนื่องจากไม่เกี่ยวข้องเป็นของกลางคดี ล่าสุด แกะรอยตามหาช่วย พบคนร้ายทำเป็นขบวนการ โดยเส้นทางการขนย้ายไปสิ้นสุดที่อู่ซ่อมรถ ย่านรามอินทรา จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่ามีผู้ร่วมขบวนการตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป อยู่ในขั้นตอนขออนุมัติศาลออกหมายจับต่อไป ทางฝ่ายสืบสวน กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ผู้มีพฤติการณ์รับซื้อซากรถ ตลอดจนผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ โดยได้ติดต่อผู้แจ้งเพื่อทราบความคืบหน้าอยู่ตลอดมา