กรณีชุดสืบสวน สน.เทียนทะเล ร่วมกับ กก.สส.บก.น.9 จับกุมตัว นายชุน วงค์อุ่น อายุ 20 ปี, นายชนะชัย หรือ เกิ้ล ชูโรจน์ อายุ 19 ปี และนายเสกสรรค์ หรือ หนึ่ง พวงภู่ อายุ 20 ปี พร้อมของกลางอาวุธมีดดาบ 4 เล่ม โดยจับกุมตัวพร้อมยึดของกลางได้ในห้องพัก รปภ.หมู่บ้านเอื้ออาทรบางขุนเทียน 3 ซอยเทียนทะเล 28 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม.
สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 31 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา นายชุนซึ่งมีอาชีพเป็น รปภ.ของหมู่บ้าน ได้ถูกนายวันชัย หิงษา อายุ 34 ปี ลูกบ้านเรียกไปตบหน้า เพราะนายวันชัยอยู่ในอาการมึนเมา ด้วยความโมโห นายชุนจึงไปเรียกนายชนะชัย และนายเสกสรรค์ เพื่อน รปภ.ด้วยกัน นำมีดดาบไปรุมฟันนายวันชัย ตามร่างกายหลายแห่งจนเสียชีวิต
กล้องวงจรปิดจุดเกิดเหตุ จับภาพนายวันชัย ผู้ตาย และเพื่อนรวม 4 คน นั่งกินเหล้าบนรถจักรยานยนต์หน้าร้านค้า จากนั้นเวลา 23.00 น. นายวันชัย ผู้ตาย และนายตั้ม ซึ่งเป็นเพื่อน เดินถือขาดเบียร์เดินข้ามไปฝั่งตึก 35 บริเวณตู้ รปภ. โดยเข้าไปพูดคุยกับนายชุน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็น รปภ. อยู่ในขณะนั้น และนายหนึ่ง ก็นั่งอยู่ด้วยกัน
เวลา 23.02 น. นายหนึ่งขับรถจักรยานยนต์ออกไปจากที่เกิดเหตุ เวลา 23.04 น. นายหนึ่งขับรถจักรยานยนต์กลับมา มีนายเกิ้ล ซ้อนท้าย โดยทั้ง 2 คนถือมีดเข้ามา นายวันชัยเข้าไปพยายามจะจับมีด ระหว่างนั้นเกิดชุลมุนนายชุนเข้าไปต่อยนายวันชัยจนล้ม โดยนายหนึ่งและนายเกิ้ลถือมีดเข้าไปฟันและวิ่งไล่กัน
วันที่ 2 ก.พ. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณหมู่บ้านเอื้ออาทรบางขุนเทียน 3 หน้าตึก 35 บริเวณดังกล่าวมีป้อม รปภ. อยู่มุมตึก ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านค้า ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มผู้ตายมานั่งดื่มเหล้าก่อนเกิดเหตุ
นางน้อย (นามสมมติ) เจ้าของร้านค้า เล่าว่า คืนเกิดเหตุนายวันชัย ผู้ตาย และเพื่อนประมาณ 5-6 คน มานั่งดื่มเบียร์บริเวณหน้าร้าน
ส่วนนายชุน ซึ่งเป็นรปภ.ก็ประจำอยู่บริเวณป้อมฝั่งตรงข้าม ระหว่างนั้นได้ยินเสียงโวยวาย ลักษณะถามว่า "มึงเอามีดมาเหรอ" และมีเสียงขวดเบียร์แตก ก่อนจะชุลมุน มีการวิ่งไล่ฟันกัน ซึ่งตนก็ไม่มั่นใจว่าทั้ง 2 ฝ่ายมีปัญหากันมาก่อนหรือไม่
ด้านนายตั้ม อายุ 32 ปี เพื่อนผู้ตาย เล่าว่า คืนเกิดเหตุพวกตนนั่งกินเหล้าบริเวณร้านค้า จากนั้นนายวันชัย ผู้ตาย เดินไปหานายชุน ซึ่งเป็น รปภ.เพื่อชวนกินเหล้า โดยนายชุนขอบุหรี่นายวันชัย นายวันชัยก็ถามว่า ไม่ให้เกียรติกันเลยหรือ เพราะขอหลายครั้งแล้ว
จากนั้นนายหนึ่งซึ่งเป็น รปภ. ด้วยกันขับรถจักรยานยนต์เข้ามา มีนายเกิ้ล ซึ่งเป็นเพื่อนนั่งซ้อนท้าย โดยทั้ง 2 คนถือมีดเข้ามา ตนจึงเข้าไปเพราะเห็นท่าไม่ดีและพยายามห้าม โดยมีการชุลมุนตีกัน ก่อนจะฟันนายวันชัย ตนเข้าไปห้ามก็โดนต่อยกระเด็นออกมา
ตนยืนยันว่าเพื่อนไม่ได้เข้าไปตบหน้าผู้ก่อเหตุก่อนตามที่มีข่าว และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหากัน ยอมรับพวกตนชอบดื่มเหล้าแต่ไม่ถึงขั้นอาละวาด เคยถูกตักเตือนแต่ก็คุยกันดี ๆ ไม่ได้ทะเลาะกันรุนแรง ซึ่งครั้งนี้ตนไม่รู้สาเหตุ แต่มองว่าอีกฝ่ายเตรียมการไว้หมดแล้ว
บรรยากาศที่ สน.เทียนทะเล ช่วงบ่าย แม่และภรรยาของนายชุน รวมถึงรุ่นพี่ของผู้ต้องหา เดินทางเข้าเยี่ยม โดยแม่นายชุน ระบุว่าไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ขณะที่ภรรยาซึ่งอุ้มลูกสาววัย 11 เดือนมาด้วย กล่าวสั้น ๆ ว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาไม่รู้ว่าสามีเคยมีปัญหากับคนตายหรือไม่ เพราะอีกฝ่ายไม่ได้เล่าให้ฟัง แต่สามีทำงานเป็น รปภ. ก็ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติไม่เคยมีเรื่องกับใคร
ด้านรุ่นพี่ผู้ต้องหา ระบุว่า ที่ผ่านมากลุ่มนายวันชัย ผู้ตาย ไม่พอใจนายชุนกับเพื่อน เพราะนายชุน ซึ่งเป็นรปภ. มักจะถ่ายรูปตามอาคารเพื่อรายงานตามปกติ โดยผู้ตายชอบดื่มเหล้าหน้าอาคาร หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ พบว่ากลุ่มผู้ตายมีอาวุธปืน จึงถูกดำเนินคดีในเรื่องดังกล่าว ทำให้กลุ่มผู้ตายเข้าใจว่ากลุ่มนายชุนเป็นคนแจ้งตำรวจให้เข้าไปจับตัวเอง ทั้งที่ไม่ได้เป็นแบบนั้น
ซึ่งหลังถูกจับอาวุธปืน กลุ่มนายวันชัย ผู้ตาย ก็มักจะเข้ามาหาเรื่อง กลุ่มนายชุน ทั้งเรียกไปตบหน้า ตบศีรษะ วันเกิดเหตุนายชุน ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ แต่นายวันชัยก็เดินเข้ามาหาเรื่อง และตบหน้านายเกิ้ลกับหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนเข้ามาพร้อมถือมีดมาพอดี อีกฝ่ายก็คิดว่าจะทำร้าย จึงเกิดจังหวะชุลมุนตะลุมบอนกันดังกล่าว
จากนั้น พนักงานสอบสวนเรียกสอบผู้ต้องหาทั้ง 3 คน แยกสอบทีละคน เริ่มจากนายชุน วงค์อุ่น, นายเสกสรรค์ พวงภู่ หรือ หนึ่ง และนายชนะชัย ชูโรจน์ หรือ เกิ้ล ใช้เวลาสอบคนละ 1 ชั่วโมง
นายชุน ระบุว่า ตนขอยืมไฟแช็กอีกฝ่ายจริงตามที่มีข่าว ส่วนเรื่องการถูกตบหน้าไม่ขอพูดถึง แต่ยืนยันว่าไม่ได้เตรียมการหรือวางแผนจะทำร้ายอีกฝ่าย โดยช่วงเกิดเหตุนายวันชัยมาชวนตนกินเหล้า แต่ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่จึงไม่ได้ดื่มเหล้าตามคำชวน ซึ่งตนไม่ได้มีอาวุธ คนที่ฟันคือเพื่อนอีก 2 คน โดยอยากขอโทษผู้ตาย และขออโหสิกรรม ตนยอมรับผิดทุกอย่าง
นายเสกสรรค์ พวงภู่ หรือ หนึ่ง ระบุว่า นายวันชัยเข้ามาหาเรื่องนายชุน โดยมีการต่อยนายชุน 1 ครั้ง ตนเห็นแบบนั้นจึงขับรถจักรยานยนต์ออกไปรับนายเกิ้ล และพกมีดมาด้วย ช่วงเกิดเหตุผู้ตายต่อยตัวเองก่อน เป็นช่วงชุลมุนตนจึงต้องป้องกันตัว โดยไม่ได้นับว่าฟันไปตรงไหน หรือฟันไปกี่ครั้ง โดยที่ผ่านมาคนตายชอบมาหาเรื่องตน ในช่วงที่ตนเป็น รปภ. เพราะไม่พอใจคิดว่าแจ้งตำรวจไปจับ
นายชนะชัย หรือ เกิ้ล ระบุว่า ตัวเองไม่รู้จักผู้ตายมาก่อน ก่อนเกิดเหตุนายหนึ่งไปรับตนมาโดยบอกว่ามีเรื่อง ตนจึงเตรียมมีดมาป้องกันตัว ซึ่งตนฟันไป 1 ครั้งบริเวณแขน อีกฝ่ายก็เข้ามาเป็นกลุ่ม ตนฟันเพื่อไล่ออกไปเท่านั้น ส่วนตัวไม่เคยเจอผู้ตายมาก่อน เพราะไม่ได้ทำงานที่จุดเกิดเหตุ แต่นายชุนและนายเกิ้ลเคยเล่าว่าถูกคนตายหาเรื่อง ทั้งนี้ อยากขอโทษครอบครัวผู้ตายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายแม็ค เพื่อนผู้ต้องหา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนายวันชัย ผู้ตาย เดินมาหานายชุน ในลักษณะค่อนข้างเมา โดยนายชุนได้ขอไฟแช็ก เพื่อสร้างสัมพันธ์ อีกฝ่ายพูดในลักษณะกวนว่า "เห็นหน้ากูเป็นร้านค้าเหรอ" ตนก็บอกให้คุยกันดี ๆ จากนั้นนายวันชัยชวนนายชุนกินเบียร์ แต่นายชุนบอกว่าไม่กิน เพราะกำลังทำงาน นายวันชัยจึงเทเบียร์และทิ้งขวดใส่ขานายชุน พร้อมบอกว่า "มึงอย่ากินนะ"
ระหว่างนั้นตนจึงเดินออกมา เพื่อไปแจ้งหัวหน้างานนายชุนว่า ลูกบ้านเข้ามาก่อกวนรปภ.ให้ช่วยมาจัดการ แต่จังหวะนั้นเกิดเหตุชุลมุนขึ้นก่อน โดยตนมองว่านายวันชัยเข้ามาหาเรื่องนายชุนก่อน และที่ผ่านมาอีกฝ่ายก็ทำแบบนี้ประจำ เพราะนายวันชัยชอบกินเหล้าแล้วเสียงดัง จนลูกบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ เจ้าตัวจึงไม่พอใจ คิดว่ากลุ่มนายชุนซึ่งเป็น รปภ. แจ้งจับตัวเอง
ขณะที่พนักงานสอบสวนแจ้ง 2 ข้อหา แก่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ประกอบด้วย ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมืองทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โดยจากการสอบประวัติพบว่า นายชุน และนายเสกสรรค์ เคยถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์เมื่อครั้งเป็นเยาวชน ส่วนนายชนะชัย หรือ เกิ้ล เคยถูกดำเนินคดีข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด