"ไก่ วรายุฑ" เผยปมวิสัยทัศน์ไม่ตรงกับนายเก่า ยอมรับตกอับ ต้องขายสมบัติเก่ากิน

ไก่ วรายุฑ เผยวิสัยทัศน์ไม่ตรงกับเจ้าของช่อง ถึงไม่มีละคร พักหลังไร้ผลงานในวงการบันเทิงมา 4 ปี  ยอมรับตกอับ ต้องขายสมบัติเก่ากิน

เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงในฐานะผู้จัดละครมายาวนาน สำหรับ ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา ล่าสุดมาถ่ายทำรายการ คนดังนั่งเคลียร์สัมภาษณ์และเปิดใจ ที่ช่วงพักหลังไร้ผลงานในวงการบันเทิงมา 4 ปี และมีข่าวลือว่ามีการทะเลาะกับนายเก่า พร้อมตอบความเห็นเรื่องสมรสเท่าเทียม เตือนให้ระวังโดนหลอก

มันเกิดอะไรขึ้น พักหลังไม่มีผลงานทำละครออกมาเลย?
มันอาจจะเกิดวิกฤติ ตัวเองอาจจะแก่เกินไป ตัวเองอาจจะโบราณเกินไป วิสัยทัศน์ไม่ตรงกับเจ้าของช่อง จริตไม่ตรงกัน งานที่เสนอไปไม่ชอบใจ หรือถูกใจกับเจ้าของช่อง ก็เลยไม่ได้ทำ

มันอาจจะเกี่ยวเรื่องเศรษฐกิจถดถอยไหมคะ คนมีความต้องการเรื่องความบันเทิงน้อยลง?
มันก็เป็นไปได้นะอาจารย์ ตอนนี้เศรษฐกิจมันแย่ลง อะไรในโซเชียลก็มากขึ้น วงการทีวีก็ซบเซาลงบ้าง ต่อมานั่งซบเซาเพื่อ มันซบเซาแล้วก็ต้องยิ่งกระแทกๆให้มันแรงๆ มันจะได้ตื่น ถ้ายิ่งซบเซามันก็ยิ่งแย่ถูกไหม เพราะฉะนั้นมีอะไรก็ต้องกระแทกให้รู้สึกว่า ทั้งหมดไม่เป็น ไม่มีคำว่าตายในวงการทีวี ต้องอยู่ต้องยืนให้ได้

แต่เดี๊ยนสงสัย พี่ไก่บอกว่าไม่ได้ทำละครมา 4 ปี ก็เหมือนคนตกงาน นั่งมาได้ไง 4 ปีคะ คิดไหมว่าตัวเองต้องมาอยู่ในสภาพนี้?
ก็คิดเหมือนกันนะ เอ๊ะทำไมไม่มีละครอนุมัติเลย ทำไมไม่ได้ทำเลย ก็ต้องถามตัวเอง ตัวเองอาจจะเชยไป หรือล้าหลังไป

เราเป็นผู้จัด เราไม่จัดเองเราก็ไม่มีงาน?
ก็ถ้าเขาไม่ให้เวลาเรา เราจะจัดอย่างไรคะ

ช่องไหนกล้าไม่ให้เวลาไก่ วรายุฑ?
ก็ช่องที่ทำอยู่ เขาไม่ได้ให้ค่ะ

พี่ไก่คิดไหมว่า อายุเยอะไปกับงานในวงการบันเทิงยุคใหม่?
ไม่มีคำว่ามากไปสำหรับวงการบันเทิง เคยเห็นไหมคะ แก่ ไม่ใช่แก่กะโหลกกะลา แก่สังคโลก แก่อย่างมีคุณค่า แก่อย่างมีสมอง ประสบการณ์มันสอนเรามาเยอะกี่สิบปี  กับอิเด็กเมื่อวานซืน มาบวกกับอิแก่เมื่อวันวาน มันก็จะต้องออกมาดี เราไม่ได้ว่าเราเก่งหรือเราดี แต่เรามีสิ่งที่มีอยู่แล้ว เราเอาสิ่งใหม่ๆรอบตัวเรามาผสม กับสิ่งที่เรามีมาบวกคลุกกันให้อร่อย อะไรจะอร่อยกว่าล่ะ

พี่ไก่ร่วมงานกับเด็กรุ่นใหม่ได้ไหม ไม่ใช่ว่าเจ้ายศเจ้าอย่าง จนเด็กไม่อยากร่วมงาน?
ทำกับเด็กๆ ไก่ว่ามันดูกระปรี้กระเปร่า สดชื่น และสดใสนะ รุ่นเดียวกันเหรอคะ อย่าเลย เบื่อ

พี่ไก่ก็สนิทกับผู้ใหญ่ที่ช่องทำละคร พี่ไปพูดอะไรให้เขาหมางใจหรือเปล่า?
เป็นคนไม่อีโก้ตัวเอง เป็นคนที่รู้อยู่กับตัวเอง แต่บางครั้งเราอาจจะพูดอะไร ไม่ถูกใจเขาก็ได้ เพราะฉะนั้นไก่ไม่คิดถึงสิ่งตรงนี้ อะไรที่ออกจากปากไก่แล้ว ไก่พูดเอง แต่อะไรที่คนอื่นเอาไปเขียน ไก่ไม่ได้พูด อะไรที่ออกจากปากเราไม่กลัว เป็นความผิดก็ผิดเรา ไม่ได้ผิดคนอื่น พูดอะไรอาจจะไม่เข้าหูเขา ไม่ได้สนใจ สิ่งที่เราพูดคือความคิดของเรา

มีข่าวว่าขายสมบัติ เขามองว่าพี่ไก่ตกอับ จริง?
ตกอับ ไม่มีจะกินค่ะ เลยต้องขายสมบัติที่มีอยู่ (ยิ้ม) ก็เป็นสมบัติของเราที่เราเก็บหอมรอมริบมากว่าจะได้เท่านี้ เราก็ต้องขายเพื่อความอยู่รอดของเรา และเพื่อเอาเงินตรงนั้น อาจจะมาทำละคร หรืออะไร กับสิ่งที่เรารักต่อไปก็ได้

มีอะไรบ้างไหม ระหว่างเดินทางในวงการบันเทิงมาแล้วเสียใจ ไม่น่าทำเลย?
อาจจะมีก็ได้นะ อาจจะด่าคนนั้น ว่าคนนี้ ไปกระทบแดกดันเขา โดยที่เราไม่รู้ตัว ก็ต้องขอโทษไว้ตรงนี้ด้วยนะคะ

เขาเมาท์กัน พี่ไก่ปั้นดาราแต่ละคน ชอบจ้องมีสัมพันธ์สวาทอะไรกับเขาหรือเปล่า พี่กินพระเอกในวงการเยอะ?
(หัวเราะ) ถ้าเกิดได้กินพระเอกวงการบันเทิง คนเขาคงอิจฉาไปหมดแล้ว ไม่มี ไม่เคยใช้ชีวิตหน้าที่การงาน หากินด้วยวิธีนี้เลยนะคะ

ช่วงนี้ใกล้เข้าเดือนไพรด์ พี่ไก่ถือว่าเป็นรุ่นแรกๆ ได้ข่าวว่าเคยถูกห้ามออกทีวี หลังจากเล่นบทอ๊อดกะเทยปากร้าย ปากเสีย ที่พี่ไก่เล่นจนดังทั่วประเทศ แต่มีจดหมายลับส่งมาห้ามออกทีวี จริงไหม?
จริง ระหว่างนั้นวรายุฑดังมากในบทอ๊อด สงครามพิศวาส จดหมายเยอะมากเป็นเข่งเลย อิอ๊อดหมดเลย ไปไหนใครก็เรียก มีวันนึงจดหมายมาส่งช่อง 3 จาก กบว. ส่งมาว่าขอห้ามคุณวรายุฑ มิลินทจินดา ออกอากาศ และไม่มีกำหนดนะ แต่ไก่หยุดตัวเองตามคำสั่งเขา และมีความรู้สึกตัวเองว่าถึงเวลาที่ฉันต้องออกแล้ว ทำไมตลกเล่นกะเทยได้ เล่นได้หมด แต่ทำไมเราเล่นไม่ได้ คำสั่งเขาบอกว่าถ้าคุณเล่นออกทีวี หรือออกอากาศในตอนนั้นทุกคน หรือเด็กมันจะทำตาม เราก็เถียงว่ามันไม่ใช่ยาเสพติด หรือการแตะมือแล้วเป็นนะ ทุกสิ่งทุกอย่าง มันเป็นพรสวรรค์ของชีวิตนะคะ ที่เขาประทานมาให้เราถึงเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ยากจะเป็น หรืออยากจะหายก็ได้

ตอนนั้นรู้สึกอย่างไรคะ พี่ทำผิดมากเลยเหรอ?
ตอนนั้นโกรธมากเลย ถูกริดรอนสิทธิเสรีภาพของตัวเองไปเลย ออกทีวีช่องไหนก็ไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้ เล่นหนังก็ไม่ได้ รายได้ที่เคยได้แต่ไม่ได้ ทำแต่เบื้องหลังวันละ 500-700 ทำอยู่อย่างเดียว

ทุกวันนี้มีเรื่องของการสมรสเท่าเทียมขึ้น ทุกคนมีสิทธิเสมอภาค พี่ไก่คิดอย่างไร?
เป็นสิ่งที่ดีนะ ให้ความเสมอภาคคือ เพศสภาพหรือการสมรส หรือการแต่งงานในความรัก ไก่ว่าความรักไม่มีเพศ เราจะรัก จะชอบใคร เรารักได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกสิ่งที่เรารัก อยู่กับคนที่เรารัก ถ้าจริตมันตรงกันไม่ว่าจะเป็นเพศไหน เรารักกันได้ และรักกันอย่างมีความสุขด้วย และจูงมือไปจดทะเบียนกัน

แสดงว่าเห็นด้วยเรื่องของการจดทะเบียนสมรส?
เห็นด้วย แต่ต้องระวัง คนที่จะจดจะรักกันอย่างจริงจัง เดี๋ยวเราจะถูกหลอก กลุ่มเราเป็นกลุ่มที่ถูกหลอกง่าย เพราะเราใช้ความรู้สึกรัก ใจรัก แต่คนที่จะมาหลอกเรา มันก็ต้องการผลประโยชน์จากเราก็มีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นจะรักใครชอบใคร จดทะเบียนกับใคร ต้องศึกษากันให้ดีก่อนค่ะ

พี่ไก่มีความรู้สึกว่าวงการบันเทิงเปลี่ยนไปเยอะไหม?
มากค่ะ คนดูสมัยนี้ฉาบฉวย สมมุติสมัยก่อนจะมีโซเชียล ก็มีรีโมตกดๆ ทำตามอารมณ์ เขาอยากดูแค่นี้ แต่ตอนนี้มีโซเชียลมันมีอะไรให้เลือกเยอะ อย่างสมัยก่อนที่ไก่ทำละคร ฉากที่กำลังสนุกๆ รถโล่งกันทั้งประเทศ เพราะรีบกลับไปดู แต่ตอนนี้อยู่ตรงไหนก็ดูได้ เพราะมีมือถือ ดูตรงไหนก็ได้ เมื่อไรก็ได้ อยากดูตอนไหนก็เปิดดูได้ ก็ทำให้พวกเรารู้สึกว่า คนที่ทำงานเราเนี่ย แย่ลง เพราะเขาเลือกได้มากกว่าเราเลือก มันเลยรู้สึกว่าทำไมเราตกเป็นทาสของพวกนี้เลยเหรอ ทาสของมือถือ ทาสของสิ่งที่เขาต้องดู ต้องเลือกเอง

เขาเรียกว่าเกมเป็นของคนดู ไม่ใช่คนสร้างละคร? ใช่