กรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1” โพสต์คลิปสาวประเภทสอง กำลังเถียงกับคนขับรถตุ๊กตุ๊ก ในพื้นที่ของจ.สุราษฎร์ธานี เกี่ยวกับการเลือกใช้บริการรถสาธารณะ เพราะเป็นสิทธิ์ของผู้บริโภค
ล่าสุดวันที่ 19 พ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางมายังบริเวณหน้าโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี จุดรับส่งผู้โดยสารของรถตุ๊กตุ๊กตามที่ปรากฎในคลิป ทีมข่าวได้พูดคุยกับหนึ่งในคนขับรถตุ๊กตุ๊ก อายุ 60 ปี ซึ่งขับรถส่งผู้โดยสารมานานกว่า 10 ปี ให้ข้อมูลว่า เมื่อวานนี้ (18 พ.ย.64) เวลาประมาณ 13.05 น. มีชายชาวต่างชาติขี่รถจักรยานยนต์มาส่งภรรยาชาวไทย ซึ่งภรรยาอุ้มลูก พร้อมสัมภาระ ที่บริเวณหน้าซอยศรีวิชัย 22 ห่างจากซุ้มคิวรถตุ๊กตุ๊ก ประมาณ 50 เมตร
ภรรยาชาวไทยของต่างชาติ ต้องการเดินทางไปยังท่าเรือเฟอร์รี่ อำเภอดอนสัก ห่างจากโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี 70-80 กิโลเมตร ตนจึงตกลงราคากับลูกค้า ขณะที่กำลังตกลงราคากันก็มีกลุ่มสาวประเภทสอง ประมาณ 4 คน เดินมาบอกกับหญิงชาวไทยว่า “ถ้าจะไปดอนสักก็เรียกแท็กซี่สิ” ทำให้เกิดการเปลี่ยนใจไม่ขึ้นรถตุ๊กตุ๊ก
โดยปกติแล้วการเดินทางด้วยรถตุ๊กตุ๊ก ราคาจะขึ้นอยู่กับการตกลงกัน คนขับจะคำนวนราคาจากความคุ้มค่าของน้ำมันและระยะทาง หากลูกค้าต้องการจะเดินทางจากโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีไปยังท่าเรือเฟอร์รี่ อำเภอดอนสัก ระยะทาง 70-80 กิโลเมตร จะเรียกราคาไม่ต่ำกว่า 600 บาท แต่ราคาจะขึ้นลงตามการตกลงกัน เนื่องจากรถบางคันเป็นรถของคนขับ บางคันเป็นรถเช่า ค่าเช่าวันละ 200 บาท หรืออาจมากกว่านั้น
ทีมข่าวเดินทางไปหา คุณณฐา เหรัญญะ 25 ปี เจ้าของคลิป กล่าวว่า ขณะนั้นตนจอดรถภายในซอยข้าง ๆ โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เพื่อจะเข้าไปเยี่ยมแม่ที่รักษาตัวในโรงพยาบาล ตนและเพื่อนเห็นสาวไทยอุ้มลูกอายุประมาณ 7 เดือน ต้องการจะเดินทางไปยังอำเภอดอนสัก ซึ่งตนรู้ว่าราคาค่าโดยสารรถตุ๊กตุ๊ก ภายในเมืองสุราษฎร์ธานีนั้น แพงกว่ารถแท็กซี่ 2-3 เท่า อีกทั้งขณะนั้นฝนก็กำลังจะตก ตนจึงบอกให้เพื่อนไปบอกว่าควรนั่งรถแท็กซี่ เนื่องจากถูกและปลอดภัยกว่า
ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าหากนั่งรถตุ๊กตุ๊ก ต้องเสียเงินไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท และตนก็คิดว่าแนะนำแบบนั้นไม่น่าจะมีเรื่องอะไร เพราะคนขับรถตุ๊กตุ๊กที่คุยกับภรรยาชาวไทยของชาวต่างชาติ ก็ไม่ได้ว่าอะไร จู่ ๆ ตนก็ได้ยินเสียงพูดว่า “พวกมึงอย่ามายุ่งกับตุ๊กตุ๊กเลย กลับไปที่รถแล้วไปเถอะ รู้จักพลังตุ๊กตุ๊กหรือเปล่า” จึงทำให้ตนและเพื่อนเกิดความไม่พอใจ ปรากฏเป็นคลิปดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตนขอชี้แจงว่าไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเหตุการณ์ ตนเพียงอยากแนะนำภรรยาชาวไทยของชาวต่างชาติ เพราะไม่อยากให้เขา 2 คนถูกเอาเปรียบ อีกทั้งตนยังสงสารเด็กทารก กลัวว่าจะได้รับอันตราย เพราะเดินทางไกลและฝนกำลังจะตกอีกด้วย ตนจึงอยากฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ราคารถไม่มีมาตรฐาน เศรษฐกิจแย่ก็ไม่ควรเอาเปรียบกัน ไม่เช่นนั้นชาวจังหวัดอื่น ๆ จะมองคนสุราษฎร์ธานีแย่ไปทั้งหมด
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นายนิพนธ์ ทองคำชุม อายุ 70 ปี คนขับรถตุ๊กตุ๊ก ที่ปรากฎอยู่ในคลิป เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (18 พ.ย.64) หลังจากที่กลุ่มสาวประเภทสอง แนะนำให้ภรรยาชาวไทยของชาวต่างชาติขึ้นรถแท็กซี่แล้ว อีกฝ่ายก็เดินผ่านเต็นท์ของคิวรถตุ๊กตุ๊กไป ขณะนั้นตนได้ยิงอยู่ในเต็นท์ ซึ่งเพื่อนคนขับรถได้ถามด้วยความสงสัยว่าสาวประภทสองเป็นกิ๊กของตนหรือไม่ ซึ่งตนบอกว่าไม่ใช่ ตนแก่แล้วไม่มีกิ๊ก แต่จู่ ๆ กลุ่มสาวประเภทสอง ก็เดินย้อนกลับมาด่าทอพวกตน คาดว่าอีกฝ่ายอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าพวกตนกำลังนินทาหรือไม่
ทั้งนี้ ตนได้แต่ยกมือทำท่าบอกว่า “ไปเถอะ ๆ” แล้วก็เป็นไปตามคลิป โดยปกติราคาค่าโดยสารรถตุ๊กตุ๊ก จะมีเส้นทางประจำ ตลอดสาย 20 บาท แต่หากเหมารถไปส่งที่อื่น ก็จะขึ้นอยู่กับการตกลงกับลูกค้า ซึ่งคนขับจะคำนวนจากระยะทาง เส้นทาง ค่าน้ำมัน และสภาพอากาศ หากฝนตกน้ำท่วม รถตุ๊กตุ๊กคันเล็ก ๆ เกิดความเสียหาย ก็ไม่คุ้มค่า อีกทั้งหากเส้นทางที่ไปไม่มีลูกค้าขากลับ คนขับก็ต้องตีรถเปล่า
อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ถือโทษอีกฝ่าย เพราะตนอายุมากแล้ว เข้าใจว่าเด็กยุคปัจจุบัน อธิบายหรือบอกอะไรไม่ได้ อีกทั้งเด็กสมัยใหม่ยังชอบสั่งสอนคนแก่ ในวันนี้ที่ตนออกมาชี้แจง เพราะตนอยากให้สังคมมองหลากหลายมุม และมองในมุมของคนขับรถตุ๊กตุ๊กด้วย
