
จันทร์ที่ 28 ธันวาคม 2568 มีรายงานกองทัพจีน (หน่วยทหารบก, เรือ, อากาศ และหน่วยปืนใหญ่) เคลื่อนพลรอบเกาะไต้หวันในการซ้อมรบ "ภารกิจแห่งความยุติธรรม 2025" (Justice Mission 2025) ในขณะเดียวกัน ไต้หวันให้คำมั่นที่จะปกป้องประชาธิปไตยและระดมพลทหาร เพื่อซักซ้อมการขับไล่การโจมตีที่อาจเกิดขึ้นจากจีน
กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออกประกาศว่า การซ้อมรบจะรวมถึงการฝึกซ้อมด้วยกระสุนจริงวันนี้ (อังคารที่ 29 ธันวาคม 2568) ในแถลงการณ์ยังแสดงแผนภาพกำหนดเขตพื้นที่ 5 โซนล้อมรอบเกาะ ซึ่งจะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดพื้นที่ทางทะเลและทางอากาศเป็นเวลา 10 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เวลา 08:00 น.
สถานีโทรทัศน์ของรัฐจีนระบุว่า การฝึกจะมุ่งเน้นไปที่การปิดล้อมท่าเรือน้ำลึกสำคัญของไต้หวัน ได้แก่ ท่าเรือจีหลงทางตอนเหนือของเกาะ และเกาสงทางตอนใต้ ซึ่งเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของเกาะ
แม้กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนจะฝึกการปิดล้อมท่าเรือรอบไต้หวันระหว่างการฝึกสงครามเมื่อปีที่แล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่จีนระบุอย่างเปิดเผยว่า การฝึกรอบเกาะมีเป้าหมายเพื่อ “การยับยั้ง” การแทรกแซงทางทหารจากภายนอก
นี่คือการเดินเกมสงครามครั้งใหญ่ครั้งที่ 6 ของจีนนับตั้งแต่ปี 2565 หลังจากที่แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในขณะนั้นได้ไปเยือนไต้หวัน และยังเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออก
การซ้อมรบครั้งใหญ่ครั้งนี้ เกิดขึ้นขณะที่วาทกรรมของจีนเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนไต้หวันยิ่งแข็งกร้าวกว่าเคย และหลังจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซานาเอะ ทาคาอิชิ ระบุในเชิงสมมติว่า หากจีนโจมตีไต้หวัน ก็อาจกระตุ้นให้โตเกียวตอบโต้ทางทหารได้
ถ้อยแถลงของทาคาอิชิทำให้เกิดกระแสการสื่อสารจากจีนที่เน้นย้ำการอ้างสิทธิ์อธิปไตยของตน ผู้นำจีน สี จิ้นผิง กล่าวกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนว่า การที่ไต้หวันจะ “การกลับคืนสู่จีน” หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นแกนกลางของวิสัยทัศน์ระเบียบโลกของปักกิ่ง
นอกจากนี้ การฝึกดังกล่าวเริ่มขึ้น 11 วันหลังจากสหรัฐฯ ประกาศขายอาวุธให้ไต้หวันมูลค่า 11,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 346,486 ล้านบาท ซึ่งเป็นแพ็กเกจอาวุธที่ใหญ่ที่สุดที่ไต้หวันเคยครอบครอง ทำให้กระทรวงกลาโหมของจีนออกมาประท้วง และเตือนว่ากองทัพจะ “ใช้มาตรการที่แข็งกร้าว” เพื่อตอบโต้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การฝึกครั้งนี้มีความคลุมเครืออยู่ ระหว่างการฝึกซ้อมทางทหารตามปกติ หรืออาจเป็นการปูทางสำหรับการโจมตี จีนอาจกำลังใช้ยุทธศาสตร์ที่มีเป้าหมายลดเวลาการเตือนล่วงหน้าของสหรัฐฯ และพันธมิตรให้เหลือน้อยที่สุด หากมีการโจมตีเกิดขึ้น
กองทัพจีนระบุว่า ได้ส่งเครื่องบินขับไล่ เครื่องบินทิ้งระเบิด อากาศยานไร้คนขับ และจรวดพิสัยไกลเข้าประจำการ และจะฝึกการโจมตีเป้าหมายเคลื่อนที่บนบก พร้อมจำลองการโจมตีแบบประสานพร้อมกันจากหลายทิศทางต่อไต้หวัน
“สิ่งนี้ (การฝึก) เป็นการเตือนอย่างรุนแรงต่อกองกำลังแบ่งแยก ‘เอกราชไต้หวัน’ และกองกำลังแทรกแซงจากภายนอก” สือ อี้ โฆษกกองบัญชาการภาคตะวันออก กล่าว
รัฐบาลไต้หวันประณามการฝึกดังกล่าว โฆษกสำนักงานประธานาธิบดีเรียกร้องให้จีนอย่าประเมินสถานการณ์ผิดพลาดและบ่อนทำลายสันติภาพในภูมิภาค และเรียกร้องให้จีนหยุดยั่วยุอย่างไร้ความรับผิดชอบในทันที
กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า เครื่องบินทหารจีน 2 ลำ และเรือ 11 ลำ ได้ปฏิบัติการอยู่รอบเกาะในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และกองทัพไต้หวันอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมสูงสุด พร้อมที่จะดำเนินการ “การฝึกตอบโต้ฉับไว”
การฝึกเฉพาะนี้มีเป้าหมายเพื่อเคลื่อนย้ายกำลังพลอย่างรวดเร็ว ในกรณีที่จีนเปลี่ยนจากการฝึกรบรอบเกาะไต้หวัน ให้กลายเป็นการโจมตีฉับพลัน
“สมาชิกทุกคนของกองกำลังติดอาวุธของเราจะยังคงมีความตื่นตัวอย่างสูงและพร้อมป้องกันอย่างเต็มที่ โดยจะดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อปกป้องคุณค่าของประชาธิปไตยและเสรีภาพ” แถลงการณ์ระบุ
ขณะที่ตลาดหุ้นไต้หวันไม่ได้รับผลกระทบจากการฝึกดังกล่าว โดยดัชนีเพิ่มขึ้น 0.3% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในการซื้อขายช่วงเช้า
กองทัพจีนเผยแพร่โปสเตอร์ 2 ใบ ชื่อ “โล่แห่งความยุติธรรม: ทุบทำลายภาพลวงตา” และ “ลูกศรแห่งความยุติธรรม: การควบคุมและการปฏิเสธ” พร้อมกราฟิกใบที่สามซึ่งแสดงตำแหน่ง 4 แห่งทั่วเกาะ โดยมีเป้าหมายถูกล็อกไว้ หลังการประกาศการฝึก
โปสเตอร์ใบแรกแสดงโล่สีทองสองอัน ประดับด้วยสัญลักษณ์กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน และกำแพงเมืองจีน พร้อมด้วยอากาศยานทางทหารและเรือสองลำ
จีนกำลังระดมกองเรือพลเรือนจำนวนมาก ซึ่งอาจช่วยในการโจมตีไต้หวัน เรือที่มีทางลาดและดาดฟ้าเปิด คล้ายกับเรือยกพลขึ้นบกทางทหารที่ใช้ในการโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง และในโปสเตอร์ดูเหมือนจะแสดงเรือประเภทดังกล่าวสองลำอยู่ด้านล่าง
“การแทรกแซงจากต่างชาติใด ๆ ที่แตะต้องโล่ (แห่งความยุติธรรม) จะต้องพินาศ!” ข้อความบนโปสเตอร์ระบุ “พวกแบ่งแยกชั่วช้าที่เผชิญกับโล่จะถูกทำลาย!”
โปสเตอร์ใบที่สองแสดงลูกศรเพลิงที่พุ่งลงมาบนไต้หวัน และเสียบแทงตัวการ์ตูนแมลงสีเขียว
จีนมักเรียกประธานาธิบดีไต้หวัน ไล่ ชิง-เต๋อ ว่า เป็น “ปรสิต” และเริ่มใช้ภาพการ์ตูนแมลงสีเขียวเป็นตัวแทนของกองกำลังแบ่งแยกตั้งแต่การฝึกสงครามในเดือนเมษายน