เซเลนสกีตกที่นั่งลำบาก ทรัมป์ยื่นแผนขีดเส้นตายรับแผนสันติภาพ สละดินแดน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้กำหนดเส้นตายให้ยูเครนยอมรับแผนสันติภาพของเขาภายในวันพฤหัสบดีนี้ โดยกล่าวในการสัมภาษณ์ทางวิทยุกับ Fox News ว่า "ผมเคยขยายเส้นตายมาหลายครั้ง แต่ถ้าทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี เราก็มักจะขยายเส้นตายออกไปได้อีก แต่ครั้งนี้คือวันพฤหัสบดี" (27 พฤศจิกายน 2568)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แผนสันติภาพ 28 ข้อที่ทรัมป์เสนอ ถูกมองว่าเป็นการกดดันรัฐบาลยูเครนให้ต้องสละดินแดนบางส่วน จำกัดขนาดกองทัพ และให้คำมั่นว่าจะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO ซึ่งล้วนเป็นข้อเรียกร้องของรัสเซียมาโดยตลอด ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวถึงแผนดังกล่าวในการแถลงต่อประเทศผ่านวิดีโอเมื่อวานนี้ว่า เป็นการบีบให้ยูเครนต้องเลือกระหว่างการสูญเสียศักดิ์ศรีหรือการสูญเสียพันธมิตรคนสำคัญ
ต่อมาในวันเดียวกัน ทรัมป์กล่าวจากทำเนียบขาวว่า เขามั่นใจว่าแผนนี้เป็น "หนทางสู่สันติภาพ" แต่ยังคงต้องการการอนุมัติจากเซเลนสกี อย่างไรก็ตาม เขาระบุเป็นนัยว่าเซเลนสกีมีทางเลือกไม่มากนัก "เขาจะต้องชอบมัน และถ้าเขาไม่ชอบ ก็คงต้องสู้กันต่อไป"
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวในการบรรยายสรุปของคณะมนตรีความมั่นคงว่า เขาได้รับข้อเสนอของสหรัฐฯ แล้ว และเชื่อว่าข้อเสนอนี้สามารถเป็นพื้นฐานของการตกลงสันติภาพขั้นสุดท้ายได้ โดยปูตินระบุว่า รัสเซียพร้อมที่จะแสดงความยืดหยุ่นตามที่ตกลงกันในการประชุมสุดยอดกับทรัมป์ที่อะแลสกาเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่เสริมว่ารัสเซียยังไม่ได้หารือในสาระสำคัญของข้อตกลงกับสหรัฐฯ
ผู้นำยุโรปสนับสนุนเคียฟ เตรียมหารือใน G20
ผู้นำยุโรปหลายคนได้ออกมาแสดงการสนับสนุนยูเครน นับตั้งแต่รายละเอียดของข้อเสนอของทรัมป์ถูกเผยแพร่ โดยให้คำมั่นว่าจะยืนเคียงข้างรัฐบาลเคียฟ และยืนกรานว่าการตัดสินใจเกี่ยวกับชะตากรรมของประเทศไม่ควรเกิดขึ้นโดยปราศจากการมีส่วนร่วมของยูเครน
อย่างไรก็ตาม สหภาพยุโรปดูเหมือนจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และไม่ได้รับความสำคัญในการเจรจายุติสงครามรัสเซียกับยูเครน แม้ว่านายกรัฐมนตรีฟรีดริช เมิร์ซ ของเยอรมนี จะกล่าวว่า เขาและทรัมป์ได้หารือกันทางโทรศัพท์เมื่อวันศุกร์ และตกลงในขั้นตอนต่อไปในระดับที่ปรึกษาแล้วก็ตาม
ในการโทรศัพท์ร่วมกับเซเลนสกีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ แห่งอังกฤษ ได้ตกลงที่จะดำเนินการตามเป้าหมายในการปกป้องผลประโยชน์ที่สำคัญของยุโรปและยูเครนในระยะยาวต่อไป ซึ่งยุโรปยึดถือ "แนวปะทะ" (Line of Contact) ในปัจจุบันเป็นจุดเริ่มต้นของการเจรจา และยูเครนต้องไม่เสียเปรียบด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ
ในขณะที่ข้อเสนอของสหรัฐฯ กลับเรียกร้องให้ยูเครนถอนกำลังออกจากดินแดนบางส่วนของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อเสนอนี้เรียกร้องให้ยูเครนถอนทัพออกจากพื้นที่ในแคว้นโดเนตสก์ตะวันออกที่พวกเขายังควบคุมอยู่ เพื่อให้พื้นที่นั้นกลายเป็นเขตปลอดทหารที่เป็นของรัสเซีย ซึ่งเป็นการให้สัมปทานดินแดนแก่รัสเซียอย่างชัดเจน
นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวในโพสต์บน X ว่าผู้นำยุโรปจะจัดการประชุมในวันเสาร์ นอกรอบการประชุมสุดยอด G20 ที่โจฮันเนสเบิร์ก เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อเสนอนี้ นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ กล่าวว่าการหารือใน G20 จะมุ่งเน้นไปที่วิธีการที่พวกเขาจะสามารถเสริมสร้างแผนนี้สำหรับการเจรจาในระยะต่อไป
เซเลนสกีจะไม่ทรยศยูเครน
แผนของทรัมป์ดูเหมือนจะให้สิ่งที่รัสเซียต้องการเกือบทุกอย่าง โดยเนื้อหาส่วนใหญ่คล้ายกับจุดยืนที่รัฐบาลมอสโกเคยยึดมั่นในการเจรจาที่อิสตันบูลในปี 2022 ในช่วงหลังการรุกรานไม่นาน ซึ่งขณะนั้นกองกำลังรัสเซียยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของยูเครน
ร่างแผนสันติภาพยูเครนฉบับนี้ ระบุให้มีการยุติการต่อสู้ จัดหาเงินทุนทั่วโลกเพื่อการฟื้นฟู และมีคณะกรรมการดูแลข้อผูกพันที่นำโดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ ข้อเสนอหลายอย่างในแผน 28 ข้อนี้ถูกปฏิเสธในการเจรจาครั้งก่อน ๆ โดยแผนนี้เรียกร้องให้ไครเมีย ลูฮันสก์ และโดเนตสก์ ที่รัสเซียยึดครอง ได้รับการยอมรับโดยพฤตินัยว่าเป็นของรัสเซีย รวมถึงโดยสหรัฐอเมริกา
แผนนี้ยังกำหนดให้กองทัพยูเครนถอนตัวออกจากส่วนของโดเนตสก์ตะวันออกที่พวกเขายังควบคุมอยู่ และพื้นที่ถอนกำลังนี้จะถือเป็นเขตปลอดทหารที่เป็นกลาง ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติว่าเป็นดินแดนที่เป็นของสหพันธรัฐรัสเซีย
ร่างแผนดังกล่าวยังรวมถึงข้อผูกพันว่า ยูเครนจะไม่เข้าร่วม NATO และ NATO จะไม่ประจำการกองทัพในยูเครน, จำกัดขนาดกองทัพยูเครนไว้ที่ 600,000 นาย และเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งในยูเครนภายใน 100 วัน นอกจากนี้ ยังสรุปเกี่ยวกับการกลับเข้าร่วมในเศรษฐกิจโลกของรัสเซีย รวมถึงการยกเลิกการคว่ำบาตรและการได้รับเชิญให้กลับเข้าร่วมกลุ่ม G8
เซเลนสกีกล่าวว่า เขาจะทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อหาทางเดินหน้าในแผนนี้ โดยย้ำว่าเขาจะไม่ทรยศประเทศของเขา เขากล่าวผ่านวิดีโอแถลงการณ์ระบุว่า เขาจะนำเสนอข้อโต้แย้ง เขาจะโน้มน้าว เขาจะเสนอทางเลือกอื่น แต่เราจะไม่ให้ศัตรูพูดว่ายูเครนไม่ต้องการสันติภาพ เราไม่ได้กำลังขัดขวางกระบวนการและยูเครนพร้อมสำหรับการทูต
