เกิดอะไรขึ้นบ้างก่อนประชุม ASEAN SUMMIT 2025 รับติมอร์ฯ ลงนาม ฯลฯ
ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในวันนี้ (26 ตุลาคม 2568) และดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 28 ตุลาคม 2568 ได้มีกิจกรรมสำคัญหลายอย่างเกิดขึ้นล่วงหน้า เพื่อปูทางและเตรียมความพร้อมก่อนการประชุมหลัก อาทิ การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ไทยร่วมลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ (UN Cybercrime Convention) และ นายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ได้เดินทางถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Spotlight พาย้อนดู “กิจกรรมนำร่อง” ก่อนติดตามเนื้อหาการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ในวันนี้
หารือเรื่องเมียนมา
24 ตุลาคม 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เข้าร่วมการหารืออย่างไม่เป็นทางการแบบขยาย (Extended Informal Consultation: EIC) เรื่องเมียนมา ภายใต้การนำของรัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน อย่างไรก็ดี การประชุมอย่างไม่เป็นทางการครั้งนี้ไม่มีตัวแทนจากเมียนมาเข้าร่วม
ในการประชุมครั้งนี้ หลายประเทศรับทราบบทบาทของประเทศไทยด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ทุกประเทศผลักดันให้ดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อ สนับสนุนการหารือที่ครอบคลุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการมีท่าทีร่วมของอาเซียนต่อการเลือกตั้งในเมียนมา
รับติมอร์-เลสเตร่วมวงอาเซียน
25 ตุลาคม 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเป็นสักขีพยานในพิธีมอบภาคยานุวัติสารเข้าเป็นภาคีกฎบัตรอาเซียนของติมอร์-เลสเต
การเข้าร่วมของติมอร์-เลสเตเป็นไปตามผลสรุปจากการประชุม ASEAN Summit ครั้งที่ 40 และ 41 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียนได้ยอมรับติมอร์-เลสเตเป็นประเทศสมาชิกลำดับที่ 11 โดยหลักการ
การเป็นสักขีพยานครั้งนี้เป็นไปตามกฎบัตรอาเซียนในการรับสมาชิกใหม่ และรับมอบภาคยานุวัติสนธิสัญญากรุงเทพ (SEANWFZ) โดยติมอร์-เลสเต ในฐานะที่ไทยเป็นผู้เก็บรักษาสนธิสัญญาฯ
ประชุม รมว.ต่างประเทศ-เศรษฐกิจอาเซียน
25 ตุลาคม 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน (ASEAN Foreign Ministers’ Meeting: AMM) โดยมีรัฐมนตรีต่างประเทศจากประเทศสมาชิกอาเซียนและติมอร์-เลสเตเข้าร่วม
หัวข้อที่การประชุมครั้งนี้เน้นย้ำคือ การเสริมสร้างประชาคมอาเซียนภายใต้แนวคิดหลัก “Inclusivity and Sustainability” ของการเป็นประธานอาเซียนของมาเลเซียในปี 2568 และเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้
มีการหารือเรื่องการสมัครเข้าเป็นอัครภาคีสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia: TAC) ของประเทศต่าง ๆ โดยย้ำหลักการของสนธิสัญญาฯ ที่มุ่งส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง และความร่วมมือในภูมิภาค ตลอดจนการรักษาความเป็นแกนกลางของภูมิภาค
นอกจากนี้ มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อ (Five-Point Consensus) กระบวนการสันติภาพในเมียนมา และการเลือกตั้งในเมียนมาที่จะเกิดขึ้นเดือนธันวาคม 2568
ไทยย้ำความสำคัญของการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และเรียกร้องให้มีการหารือในกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างครอบคลุม เพื่อให้แน่ใจว่าการเลือกตั้งโปร่งใสและเสรี นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับรองเอกสารข้อเสนอแนะเพื่อฟื้นฟูการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ASEAN Regional Forum: ARF) เพื่อคงประสิทธิภาพของเวที ARF ในการตอบสนองต่อความท้าทายด้านภูมิภาค
อีกประเด็นในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศคือ ไทย ซึ่งเป็นผู้เก็บรักษาสนธิสัญญาว่าด้วยเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty on the Southeast Asia Nuclear-Weapon-Free Zone: SEANWFZ) รับมอบภาคยานุวัติสารต่อสนธิสัญญาฯ จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศติมอร์-เลสเต ทำให้ติมอร์-เลสเตเข้าเป็นภาคีของสนธิสัญญาฯ อย่างสมบูรณ์ เน้นย้ำเจตนารมณ์ของอาเซียนในการทำให้ภูมิภาคปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์
นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน นายสีหศักดิ์ยังได้เข้าร่วมการประชุมร่วมรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ในปัจจุบัน รวมถึงพิจารณารายงานด้านภูมิเศรษฐศาสตร์อาเซียน ค.ศ. 2025 ที่จัดทำโดยคณะทำงานด้านภูมิเศรษฐศาสตร์อาเซียน เพื่อประเมินผลกระทบเชิงภูมิเศรษฐศาสตร์และเสนอ “ยุทธศาสตร์ภูมิเศรษฐศาสตร์อาเซียน”
นายสีหศักดิ์เห็นพ้องกับข้อเสนอแนะที่ว่า อาเซียนควรมุ่งเน้นระบบพหุภาคีนิยมและการบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ย้ำความสำคัญของการปรับปรุงความตกลงการค้าอาเซียนและความตกลงการค้าเสรีกับประเทศคู่เจรจา รวมถึงผลสรุปของข้อตกลงเศรษฐกิจดิจิทัล
มีการเสนอให้อาเซียนพิจารณาเศรษฐกิจใหม่ ๆ เช่น เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เศรษฐกิจสีเขียว รวมทั้งการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSMEs) ในเศรษฐกิจภูมิภาคและเศรษฐกิจโลก และรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจ ซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนหลัก
ลงนามจับมือฟินแลนด์
25 ตุลาคม 2568 นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เข้าร่วมพิธีลงนามภาคยานุวัติสารเข้าเป็นอัครภาคีสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia: TAC) ของฟินแลนด์
สนธิสัญญาดังกล่าวมีหลักการส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค โดยเน้นการระงับข้อพิพาทอย่างสันติ และเปิดให้ประเทศนอกอาเซียนที่ประสงค์จะขยายความสัมพันธ์กับอาเซียนสามารถเข้าเป็นอัครภาคีของสนธิสัญญา TAC ได้ ปัจจุบัน มีประเทศที่ลงนามเข้าร่วมเป็นอัครภาคี TAC แล้ว 58 ประเทศ โดยฟินแลนด์เป็นประเทศที่ 58
ในวันเดียวกัน คืนวันที่ 25 ตุลาคม 2568 นายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ได้เดินทางถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการประชุมระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเขาในฐานะนายกรัฐมนตรีของไทย
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ยังได้เข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ครั้งที่ 30 และการประชุมคณะมนตรีประสานงานอาเซียน ครั้งที่ 37 นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นควบคู่ไปกับกิจกรรมในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนด้วย
ลงนามร่วมมือปราบภัยไซเบอร์
25 ตุลาคม 2568 นางสาวอุรวดี ศรีภิรมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย และคณะผู้แทนไทย ร่วมพิธีลงนามอนุสัญญาสหประชาชาติต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ (United Nations Convention against Cybercrime) กับรัฐบาลสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ National Convention Center กรุงฮานอย
นางสาวอุรวดีแสดงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์และการหลอกลวงออนไลน์ พร้อมยืนยันความพร้อมของไทยที่จะร่วมมือกับทุกประเทศในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์
ปัจจุบันมีผู้ลงนามในอนุสัญญาดังกล่าวแล้ว 68 ประเทศ ประเทศในอาเซียนที่ร่วมลงนาม ได้แก่ ไทย บรูไน กัมพูชา สปป.ลาว มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
