จีนตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคเศรษฐกิจให้ได้ 7-10 % ในปี 2035
ในวิดีโอแถลงการณ์ที่ส่งตรงไปยังสหประชาชาติในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวว่า จีนจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคเศรษฐกิจให้ได้ 7-10 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2035 หรือ 10 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นที่จะทำให้ดีกว่านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประกาศดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ กำลังถอนตัวออกจากข้อตกลงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยเมื่อวันอังคารที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เรียกปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศว่าเป็น “เรื่องหลอกลวง”
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์จำนวนมากระบุว่า แผนการของจีนยังไม่ได้ยิ่งใหญ่มากพอที่จะทำให้โลกใบนี้บรรลุเป้าหมายเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
เหยา เจ้อ ที่ปรึกษานโยบายโลกของกลุ่ม Greenpeace East Asia มองว่า แม้แต่สำหรับผู้ที่มีความคาดหวังอย่างพอประมาณกับนโยบายของจีน แต่สิ่งที่ถูกนำเสนอในวันนี้ก็ยังไม่เป็นไปตามนั้น
ที่ประชุมสหประชาชาติคุยกันเรื่องโลกร้อนด้วย
การประชุมใหญ่ของบรรดาผู้นำโลกในปีนี้จะจัดขึ้นที่การประชุม COP30 ประเทศบราซิล ในเดือนพฤศจิกายน แต่การประชุมสหประชาชาติที่นิวยอร์กในสัปดาห์นี้ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากแต่ละประเทศกำลังใกล้หมดเวลาในการยื่นแผนปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศฉบับใหม่
คำมั่นเหล่านี้ ซึ่งต้องยื่นทุก ๆ ห้าปี ถือเป็นหัวใจสำคัญของข้อตกลงปารีส ข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ที่เกือบ 200 ประเทศเห็นชอบร่วมกันให้ดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน
กำหนดเส้นตายเดิมสำหรับการยื่นคำมั่น ซึ่งครอบคลุมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในปี 2035 คือเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่บัดนี้ประเทศต่าง ๆ พยายามเร่งยื่นคำมั่นชุดใหม่ เพื่อจะนำเสนอให้ทันภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้
ก่อนหน้าการประชุม อันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติเปิดเผยว่า การให้คำมั่นจากประเทศต่าง ๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่จะช่วยรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงปารีส
“เราต้องการให้ประเทศต่าง ๆ ออกแผนปฏิบัติการด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับการรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงภาคเศรษฐกิจของทั้งหมดของพวกเขาและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดของประเทศต่าง ๆ เพราะจำเป็นมากที่จะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ภายใน 2-3 ปีนี้”
จีนจะทำอะไรบ้าง?
ในฐานะที่เป็นประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ที่สุดของโลก จีนวางแผนการเอาไว้เพื่อรับมือกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยย้อนกลับไปในปี 2021 ประธานาธิบดีสีประกาศว่า จีนตั้งเป้าหมายที่จะแตะจุด “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” ภายในปี 2060 โดยความเป็นกลางทางคาร์บอนคือ สภาวะที่ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สู่ชั้นบรรยากาศ มีค่าเท่ากับปริมาณที่ถูกดูดซับกลับคืนมา
แต่การประกาศล่าสุดของจีนเป็นครั้งแรกที่จีนตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยผู้นำจีนกล่าวว่า “เป้าหมายเหล่านั้นสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามอย่างเต็มที่ของจีนในการปฏิบัติตามข้อตกลงปารีส” และการลดการปล่อยก๊าซนั้นจะครอบคลุมก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด ไม่ใช่แค่เพียงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้มีการระบุช่วงเวลาที่แน่ชัด
สรุปสิ่งที่จีนจะลงมือ คือการขยายศักยภาพในการผลิตพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ให้เพิ่มขึ้นกว่า 6 เท่าจากระดับในปี 2020 และเพิ่มพื้นที่ป่าให้มากกว่า 24,000 ล้านตารางเมตร รวมถึงสร้างยานพาหนะที่ใช้พลังงานแบบใหม่ เพื่อคงไว้ซึ่งยอดขายของรถยนต์ใหม่
