Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เนทันยาฮูจะโจมตีผู้นำฮามาสในต่างแดนต่อ ไม่เลิก แม้อิสราเอลถูกโดดเดี่ยว
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

เนทันยาฮูจะโจมตีผู้นำฮามาสในต่างแดนต่อ ไม่เลิก แม้อิสราเอลถูกโดดเดี่ยว

16 ก.ย. 68
11:41 น.
แชร์

เนทันยาฮูลั่นจะโจมตีฮามาส ไม่ว่าที่ใดก็ตาม

นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่กรุงเยรูซาเล็มว่า อิสราเอลจะไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ ที่จะโจมตีแกนนำฮามาสต่อไป หลังอิสราเอลส่งเครื่องบินรบโจมตีผู้นำกลุ่มฮามาสในกรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ เมื่อสัปดาห์ก่อน

เนทันยาฮูเน้นย้ำว่า แกนนำฮามาสจะไม่ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง "ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม" เพราะ ประเทศต่าง ๆ ทุกประเทศมีสิทธิที่จะปกป้องตัวเองนอกพรมแดนของตน เมื่อเนทันยาฮูถูกถามว่าสหรัฐฯ มีส่วนเกี่ยวข้องในการโจมตีกลุ่มฮามาสในกาตาร์หรือไม่ เขาตอบกลับสั้น ๆ ว่า “อิสราเอลทำเอง จบนะ” ("We did it on our own. Period.")

การตัดสินใจของอิสราเอลที่จะโจมตีผู้นำฮามาสในกาตาร์ ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ ก่อให้เกิดความไม่พอใจและคำวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติ รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ก็ออกมาคัดค้านการโจมตีดังกล่าวด้วย โดยให้คำมั่นกับกาตาร์ว่า เหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นในแผ่นดินกาตาร์ ขณะที่กลุ่มฮามาสเปิดเผยว่า การโจมตีของอิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย แต่ผู้นำของพวกเขารอดชีวิต

แม้สหรัฐฯ จะมีท่าทีไม่เห็นด้วยกับการโจมตีในครั้งนี้ ทว่าความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ และอิสราเอลยังคงเหนียวแน่น รัฐมนตรีฯ ต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอกล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันยังคงมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับพันธมิตรในอ่าวเปอร์เซีย พร้อมชื่นชมเทคโนโลยีชื่นชมความสัมพันธ์ทางเทคโนโลยีและวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ ด้านเนทันยาฮูกล่าวว่าอิสราเอล "ไม่มีพันธมิตรใดที่ดีกว่าสหรัฐฯ อีกแล้ว" 

นายกรัฐมนตรีกาตาร์ ชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล ธานี

การพบปะกันของพวกเขาเกิดขึ้น ในขณะที่ผู้นำอาหรับจัดการประชุมสุดยอดเพื่อแสดงการสนับสนุนกาตาร์ โดยก่อนที่จะมีการประชุมฉุกเฉินในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกาตาร์ ชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล ธานีได้แถลงเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศหยุดใช้ "สองมาตรฐาน" และลงโทษอิสราเอลสำหรับอาชญากรรมทั้งหมดที่พวกเขาก่อ และอิสราเอลจำเป็นต้องรู้ว่า สงครามกวาดล้างที่พี่น้องชาวปาเลสไตน์ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อขับไล่พวกเขาออกจากดินแดนของตัวเองนั้น จะไม่ประสบผลสำเร็จ

อิสราเอลอ้างต้องปกป้องตัวเอง แม้เผชิญภาวะโดดเดี่ยว

เบนจามิน เนทันยาฮู ยอมรับว่าอิสราเอลเผชิญกับ 'ภาวะโดดเดี่ยว' ท่ามกลางความโกรธแค้นจากในประเทศและทั่วโลก จากสงครามในฉนวนกาซาที่ยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปี นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้ออกมาเตือนเมื่อวันจันทร์ว่า อิสราเอลกำลังเผชิญกับ "ภาวะโดดเดี่ยว" ซึ่งอาจคงอยู่ไปอีกหลายปี และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง

ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่การประชุมของกระทรวงการคลัง เนทันยาฮูกล่าวว่า เศรษฐกิจของอิสราเอลจะต้องปรับตัวให้มี "ลักษณะพึ่งพาตนเอง" มากขึ้น นั่นคือการพึ่งพาตนเองและพึ่งพาการค้าระหว่างประเทศน้อยลง  

หนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่เผชิญภาวะโดดเดี่ยวคือการค้าอาวุธ ซึ่งอาจทำให้อิสราเอลต้องหลีกเลี่ยงการพึ่งพาการนำเข้าอาวุธจากต่างประเทศ เขากล่าวว่า “อิสราเอลจะต้องพัฒนาอุตสาหกรรมอาวุธของเราเอง เรากำลังจะเป็นทั้งเอเธนส์และสปาร์ตาที่ยิ่งใหญ่รวมกัน เราไม่มีทางเลือก อย่างน้อยก็สำหรับปีต่อ ๆ ไปเมื่อเราจำเป็นต้องรับมือกับความพยายามในการโดดเดี่ยวเหล่านี้”

คำกล่าวของเนทันยาฮูถือเป็นการยอมรับที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งถึงกระแสต่อต้านจากนานาชาติที่อิสราเอลกำลังเผชิญอยู่จากการเพิ่มความรุนแรงของสงครามในฉนวนกาซา เขายังคงปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแนวทาง แม้จะมีการเตือนจากสหประชาชาติและองค์กรอื่น ๆ ว่า การโจมตีรุนแรงเช่นนี้ จะนำไปสู่การเสียชีวิตและความเสียหายที่มากขึ้น และท่ามกลางข้อกล่าวหาที่เพิ่มขึ้นว่าอิสราเอลกำลังกระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา ซึ่งอิสราเอลได้ปฏิเสธอย่างแข็งขัน

ปัจจุบัน อิสราเอลกำลังเผชิญกับการห้ามส่งออกอาวุธบางส่วนหรือทั้งหมดจากฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร, สเปน, อิตาลี และประเทศอื่น ๆ เนื่องจากพฤติกรรมในสงครามกาซา อย่างไรก็ตาม อาวุธส่วนใหญ่ที่นำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่ได้มีการจำกัดใด ๆ อีกทั้งในช่วงรัฐบาลไบเดน มีคำสั่งระงับการจัดส่งระเบิดขนาด 2,000 ปอนด์ แต่เมื่อทรัมป์ขึ้นสู่ตำแหน่ง คำสั่งดังกล่าวก็ได้ถูกยกเลิกอย่างรวดเร็ว

ประชาชนชาวอิสราเอล ครอบครัวตัวประกัน และแม้แต่กองทัพเองก็คัดค้านการขยายสงครามเนื่องจากความกังวลว่าอาจเป็นอันตรายต่อตัวประกันและทำให้สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมเลวร้ายลง แต่ในทางกลับกัน นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูก็ยืนกรานที่จะเดินหน้าต่อไป

เป็นเวลาหลายปีที่อิสราเอลถูกพิจารณาว่าเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก ซึ่งส่วนใหญ่ขับเคลื่อนโดยอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงที่โดดเด่นของประเทศ แต่สงครามได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและเป็นสงครามที่ยาวนานและมีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศแล้ว

เนทันยาฮูได้กล่าวว่า ภาวะโดดเดี่ยวดังกล่าวส่วนหนึ่งมาจาก "กลุ่มอิสลามหัวรุนแรง" ซึ่งเขาอ้างว่ามี "อิทธิพลเชิงลบอย่างมาก" ต่อนโยบายต่างประเทศของยุโรป นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่าในบรรดารัฐคู่แข่ง ซึ่งมีกาตาร์รวมอยู่ด้วย ได้ปล่อยข่าวโจมตีอิสราเอลบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งทำให้อิสราเอลเข้าสู่ภาวะโดดเดี่ยวในรูปแบบหนึ่ง

แม้แต่อิสราเอลด้วยกันยังคัดค้าน

ยาอีร์ ลาปิด ผู้นำฝ่ายค้านของอิสราเอลได้ประณามเนทันยาฮู โดยเรียกคำกล่าวของเขาว่าอิสราเอลกำลังเข้าสู่ภาวะโดดเดี่ยวว่าเป็น "เรื่องบ้า ๆ" เขาเขียนบน X ระบุว่า “ภาวะโดดเดี่ยวไม่ใช่ชะตากรรม; แต่มันเป็นผลมาจากนโยบายที่ผิดพลาดและล้มเหลวของเนทันยาฮู” 

กาดี ไอเซนค็อต อดีตผู้บัญชาการทหารอิสราเอลที่กำลังวางแผนลงสมัครรับเลือกตั้งทางการเมือง ก็ได้ตำหนินายกรัฐมนตรีเช่นกัน โดยกล่าวว่า “จะไม่มีโอกาสครั้งที่สองในการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดจากเขาและพันธมิตรของเขาที่ทอดทิ้งตัวประกันและทำให้อิสราเอลโดดเดี่ยวในสายตาชาวโลก”

ด้านเนทันยาฮูได้ออกมาตอบโต้ฝ่ายค้านว่าเป็น "ผู้มองโลกในแง่ร้าย" เกี่ยวกับเศรษฐกิจ โดยกล่าวว่าตลาดหลักทรัพย์ของอิสราเอลเป็น "ตลาดที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก" และ “การลงทุนในอิสราเอลคือสิ่งฉลาดที่ควรทำ”พร้อมเสริมว่าอิสราเอลจะยังคงเพิ่มการลงทุนในการผลิตอาวุธเพื่อหลีกเลี่ยงการพึ่งพายุโรป และแขวะผู้นำยุโรปว่าอ่อนแอ ที่เขายอมจำนนต่อชนกลุ่มน้อยมุสลิมหัวรุนแรงในประเทศ

เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอิสราเอล ดูเหมือนจะเห็นด้วยกับคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี โดยโพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่าตลาดหลักทรัพย์กำลังเพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้อกำลังลดลง และชื่นชมการบริหารจัดการเศรษฐกิจของประเทศท่ามกลางสงครามในฉนวนกาซา


แชร์
เนทันยาฮูจะโจมตีผู้นำฮามาสในต่างแดนต่อ ไม่เลิก แม้อิสราเอลถูกโดดเดี่ยว