ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เปิดเผยวันอังคารที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า เขาได้เตรียมการใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียแล้ว ถ้าหากว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินไม่ยอมที่จะตกลงหยุดยิง พร้อมเตือนถึงผลลัพธ์ร้ายแรงที่จะตามมา
ทรัมป์กล่าวว่า “เราต้องการจุดจบ เรามีมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจ ผมกำลังคุยเรื่องเศรษฐกิจอยู่ เพราะว่าเราไม่ต้องการให้เรื่องนี้กลายเป็นสงครามโลก”
ทรัมป์ระบุว่า เขาไม่ต้องการให้บานปลายเพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะไม่ได้กลายเป็นสงครามโลกอย่างเดียว แต่จะเป็นสงครามเศรษฐกิจด้วย ซึ่งสงครามเศรษฐกิจก็เลวร้าย และเขาอยากให้ปูตินกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีมาเจรจากัน ซึ่งตอนนี้ เขากับเซเลนสกีเห็นพ้องกันแล้ว แต่สิ่งที่เขาคิดว่าน่าจะง่ายที่สุด กลับกลายเป็นเรื่องยากที่สุด นั่นก็คือประธานาธิบดีปูตินกับประธานาธิบดีเซเลนสกี แต่ทรัมป์ก็บอกว่า เขายังคิดว่าเขาจะทำได้สำเร็จ
ทรัมป์พยายามอย่างหนักที่จะยุติสงครามยูเครน ซึ่งเขายอมรับว่าเป็นสงครามที่ยากที่สุดที่เขาพยายามยุติมัน แม้ว่าทรัมป์จะได้พบกับปูติแล้ว แต่ดูเหมือนว่า ความพยายามของทรัมป์ที่จะจัดการเจรจาระหว่างปูติน และเซเลนสกี จะยังไม่ประสบความสำเร็จ
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า กองทัพยูเครนยอมรับว่าทหารรัสเซียได้ข้ามเข้าเขตแดนของแคว้นดนิโปรเปตรอฟสก์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขตอุตสาหกรรมทางตะวันออกของยูเครน และพยายามที่จะยึดพื้นที่ดังกล่าว
วิกเตอร์ เตรฮูโบฟ กองกำลังยุทธศาสตร์ที่ปฏิบัติการในดนิโปรให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า นี่คือการโจมตีขนาดใหญ่ครั้งแรกในแคว้นดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ตอบคำถามแน่ชัดว่า การรุกคืบของรัสเซียนั้นถูกยับยั้งไว้ได้หรือไม่
ก่อนหน้านี้ รัสเซียกล่าวอ้างว่า พวกเขาเข้าแคว้นดังกล่าวได้แล้ว และกองกำลังรัสเซียก็พยายามที่จะผลักดันเข้าไปในดินแดนยูเครนจากแคว้นโดเนตสก์ โดยในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของรัสเซียเปิดเผยว่า การบุกแคว้นดนิโปรเปตรอฟสก์ได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่มีรายงานหลายฉบับของยูเครนอ้างว่า รัสเซียแทบจะยังไม่ได้ข้ามเขตแดนของแคว้นดนิโปรเปตรอฟสก์เข้ามา
รายงานระบุว่า การรุกคืบของรัสเซียเข้าสู่แคว้นดังกล่าวจะส่งผลต่อขวัญและกำลังใจของชาวยูเครนอย่างหนัก
ขณะที่ "ยูเครน ดีพสเตท" ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดทำแผนที่ประเมินเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (26 สิงหาคม) ว่า ขณะนี้รัสเซียได้ยึดครองหมู่บ้าน 2 แห่งในพื้นที่ คือ ซาโปริซเก (Zaporizke) และโนโวฮรีฮอริฟกา (Novohryhorivka) แล้ว
อย่างไรก็ตาม กองบัญชาการทหารสูงสุดของยูเครนออกแถลงการณ์ปฏิเสธ โดยยืนยันว่า กองทัพยูเครนยังคงควบคุมหมู่บ้านซาโปริซเกอยู่ และยังมีการสู้รบอย่างต่อเนื่องในพื้นที่รอบหมู่บ้านโนโวฮรีฮอริฟกา
รัฐบาลรัสเซียไม่ได้อ้างสิทธิเหนือแคว้นดนิโปรเปตรอฟสค์ เหมือนกับที่ทำในโดเนสตก์และอีก 4 แคว้นทางตะวันออกของยูเครน แต่ได้เปิดฉากโจมตีเมืองใหญ่หลายแห่งในพื้นที่ รวมถึงเมืองดนิโปร ซึ่งเป็นเมืองเอกของแคว้นดังกล่าวด้วย
ก่อนสงคราม แคว้นดนิโปรเปตรอฟสค์มีประชากรกว่า 3 ล้านคน และเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหนักใหญ่อันดับสองของยูเครน รองจากภูมิภาคดอนบาส (Donbas) ซึ่งประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์และลูฮานสก์
รายงานระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้บอกกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเขายินดีจะยุติสงคราม หากยูเครนยอมมอบพื้นที่ส่วนที่เหลือในแคว้นโดเนตสก์ให้รัสเซีย แต่ชาวยูเครนจำนวนมากเชื่อว่าผู้นำรัสเซียยังมีแผนการอื่นมากกว่านั้น
โดยรองหัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดียูเครนในกรุงเคียฟ เคยเตือนผู้สื่อข่าวในสหรัฐฯ เมื่อเดือนมิถุนายนว่า รัสเซียมีเป้าหมายจะยึดครองยูเครนทั้งหมดที่อยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำดนีโปร ซึ่งเป็นเส้นแบ่งประเทศออกเป็นสองส่วน
ขณะเดียวกัน คายา คัลลาส ผู้แทนด้านนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป เตือนว่า การยอมมอบดินแดนยูเครนให้รัสเซียเพื่อแลกกับสันติภาพถือเป็น “กับดัก” โดยกล่าวกับบีบีซีว่า เรากำลังลืมไปว่ารัสเซียไม่เคยยอมอ่อนข้อใด ๆ และพวกเขาเองต่างหากที่เป็นฝ่ายรุกราน