แหล่งข่าวทางการแพทย์ในฉนวนกาซา รายงานว่า กองกำลังอิสราเอลได้สังหารชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 115 รายทั่วฉนวนกาซา ในจำนวนนี้มี 92 รายที่ถูกยิงเสียชีวิตขณะพยายามเดินทางมารอรับอาหารที่จุดผ่านแดนซิกิม ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือ และจุดแจกจ่ายความช่วยเหลือในราฟาห์และคานยูนิส ทางตอนใต้ การสังหารเมื่อวันอาทิตย์ (20 ก.ค. 68) เกิดขึ้นในขณะที่การปิดล้อมฉนวนกาซาของอิสราเอลยังคงทำให้วิกฤตความอดอยากเลวร้ายลง โดยหน่วยงานด้านสุขภาพในพื้นที่ได้ประกาศว่า มีผู้เสียชีวิตจากการอดอาหารอย่างน้อย 19 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ตามรายงานของหน่วยป้องกันพลเรือนปาเลสไตน์ระบุว่า กองกำลังอิสราเอลยิงชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 79 รายในเมืองซิกิม ขณะที่ฝูงชนจำนวนมากมารวมตัวกันที่นั่นด้วยความหวังว่าจะได้รับอาหารและยารักษาโรค จากขบวนรถบรรเทาทุกข์ของสหประชาชาติ และอีก 9 รายถูกสังหารใกล้จุดแจกจ่ายความช่วยเหลือในราฟาห์ ส่วนอีก 4 รายถูกสังหารใกล้จุดแจกจ่ายความช่วยเหลือแห่งที่สองในคานยูนิส
ริเซก เบตาอาร์ ชายชาวปาเลสไตน์ผู้รอดชีวิตจากการโจมตีที่ซิกิม ได้ช่วยแบกเหยื่อหนุ่มรายหนึ่งไปโรงพยาบาล เขาเล่าว่า "เราเห็นชายหนุ่มคนนี้นอนอยู่บนพื้น และเราเป็นคนแบกเขาขึ้นจักรยาน เราพยายามพาเขาไปรับการรักษา แต่ไม่มีอะไรเลยที่ช่วยได้เลย ไม่มีรถพยาบาล ไม่มีอาหาร ไม่มีชีวิต ไม่มีหนทางที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว เราแทบจะเอาตัวไม่รอดแล้ว"
ขณะที่โอซามา มารูฟ ผู้รอดชีวิตอีกคนหนึ่ง ก็ช่วยขนส่งชายชราที่ถูกยิงบาดเจ็บด้วยเช่นกัน เขากล่าวว่า "เราพาชายชราคนนี้มาจากซิกิม เขาไปแถวนั้นเพื่อรอรับอาหารเท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม โฆษกกองทัพอิสราเอล อวีเชย์ อะดราอี โจมตีนักข่าว หลังมีรายงานข่าวความอดอยากครั้งใหญ่ โดยได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการรายงานข่าว พร้อมระบุว่า นี่เป็นเพียงการแสดงละครของกลุ่มฮามาส ที่สร้างขึ้นมาอย่างหลอกลวง
มีรายงานการโจมตีอย่างหนักของอิสราเอลในพื้นที่ใกล้เดียร์เอลบาลาห์ในใจกลางฉนวนกาซา ภาพที่แชร์โดย Quds News Network แสดงให้เห็นกลุ่มควันขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นมาจากบริเวณดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวภาคพื้นดินรายงานว่า การโจมตีทางอากาศและการยิงปืนใหญ่ของอิสราเอลกำลังกำหนดเป้าหมายที่พื้นที่ทางตอนใต้ของเมืองดียร์อัลบาลาห์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นหลายพันคน พวกเขาตกอยู่ภายใต้การโจมตีที่รุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
สื่อปาเลสไตน์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตหลายรายจากการโจมตีของอิสราเอลในพื้นที่อัลมาวาซีในคานยูนิส ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลสนามของสภากาชาดปาเลสไตน์ กองทัพอิสราเอลกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปลอดภัยในช่วงแรกของสงครามในฉนวนกาซา แต่กองทัพกลับโจมตีเต็นท์จำนวนมากซึ่งเป็นที่พักของผู้พลัดถิ่น
นอกจากนี้ กิเดียน ซาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอล ยืนยันว่า ได้ระงับการขยายวีซ่าของโจนาธาน วิททอลล์ หัวหน้าสำนักงานประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) ในฉนวนกาซาและพื้นที่เวสต์แบงก์ โดยโพสต์ผ่าน X ถึงเหตุผลการระงับวีซ่าว่า "เนื่องจากพฤติกรรมที่ลำเอียงและเป็นศัตรูต่ออิสราเอล ซึ่งบิดเบือนความเป็นจริง นำเสนอรายงานเท็จ ใส่ร้ายอิสราเอล และแม้กระทั่งละเมิดกฎความเป็นกลางของสหประชาชาติเอง" และโพสต์เพิ่มเติมว่า “ใครก็ตามที่เผยแพร่เรื่องโกหกเกี่ยวกับอิสราเอล อิสราเอลจะไม่ร่วมงานกับพวกเขา”
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ หัวหน้าสำนักงาน OCHA ให้การเป็นพยานเกี่ยวกับสภาพที่เลวร้ายในฉนวนกาซาและที่จุดแจกจ่ายความช่วยเหลือ GHF ของอิสราเอลและสหรัฐฯ เขายืนยันว่า ศูนย์ช่วยเหลือเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฆ่า โดยอิสราเอลนำความหิวโหยของมนุษย์มาเป็นเครื่องมือ
ชาวมุสลิมทั่วโลกในเมืองสำคัญต่าง ๆ ได้ออกมาเดินขบวนประท้วงความรุนแรงที่ชาวอิสราเอลกระทำต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ผู้ประท้วงรวมตัวกันที่ถนน Habib Bourguiba ในกรุงตูนิส เมืองหลวงของตูนิเซีย เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับฉนวนกาซาและประณามสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "สงครามบังคับอดอาหาร” โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้หยุดยิงและเปิดจุดผ่านแดนทันทีเพื่อให้สามารถส่งอาหารและความช่วยเหลือทางการแพทย์เข้ามาได้
การประท้วงลักษณะเดียวกันยังเกิดขึ้นในกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก และในกรุงอังการา ประเทศตุรกี ในวันนี้ด้วย ขณะเดียวกัน ฝูงชนจำนวนมากเดินขบวนไปตามถนนในกรุงราบัต เมืองหลวงของโมร็อกโก เพื่อแสดงการสนับสนุนฉนวนกาซาโดยเฉพาะ ภาพที่ถูกแชร์บนโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นผู้คนหลายพันคนรวมตัวกันต่อต้านสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และความอดอยาก