เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายใน 15 จังหวัดทั่วกัมพูชาและในกรุงพนมเปญ เปิดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมฐานที่มั่นของแก๊งหลอกลวงออนไลน์ 52 แห่งในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2,767 คน ในจำนวนดังกล่าว 843 เป็นชาวจีน และมีการส่งตัวผู้ต้องสงสัยหลักจำนวน 11 คนไปยังศาลเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
รายงานระบุว่า ผู้ต้องสงสัยหลายพันคนถูกจับกุม และมีการยึดหลักฐานสำคัญได้ในปฏิบัติการปราบปรามเครือข่ายแก๊งหลอกลวงออนไลน์ทั่วประเทศ ซึ่งเริ่มขึ้นภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต
แม้ปฏิบัติการขยายวงครอบคลุมหลายจังหวัด แต่การที่ยังไม่สามารถระบุตัวผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการได้อย่างชัดเจน ก็เพิ่มความเป็นกังวลว่า ความพยายามในครั้งนี้จะสามารถถอนรากถอนโค่นองค์กรอาชญากรรมเหล่านี้ได้จริงหรือไม่
ปฏิบัติการปราบปรามดังกล่าว ซึ่งกินเวลาหลายวัน พุ่งเป้าไปที่ฐานที่มั่นของแก๊งหลอกลวงออนไลน์และฉ้อโกงทางดิจิทัล โดยหลายจุดเชื่อว่า มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ
โฆษกกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชายอมรับว่า เป็นเรื่องยากที่จะระบุตัวผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการหลอกลวงออนไลน์ โดยหนึ่งในอุปสรรคสำคัญคือกลยุทธ์อันแนบเนียนที่กลุ่มอาชญากรใช้ในการปกปิดตัวตน
เขาระบุว่า ขบวนการเหล่านี้มักแฝงตัวอยู่ภายใต้บริษัทที่ดูเหมือนถูกกฎหมาย เช่น บริษัทด้านการลงทุนหรือธุรกิจเทคโนโลยี ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถชี้ตัวว่าเป็นอาชญากรไซเบอร์ได้ในทันที เพราะนั่นอาจนำไปสู่การถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิหรือแทรกแซงธุรกิจเอกชน
แม้ว่าจะเจออุปสรรคเหล่านี้ แต่โฆษกกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่า กัมพูชายังคงยืนหยัดที่จะปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยเพิ่มความพยายาม เรียนรู้จากบทเรียนที่ผ่านมา และวางกลยุทธเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการทำลายล้างเครือข่ายเหล่านั้น
กัมพูชากลายมาเป็นที่สนใจของทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังมีรายงานว่าเป็นแหล่งอาชญากรรมทางไซเบอร์ และศูนย์หลอกหลวงออนไลน์ ซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหาการค้ามนุษย์
รัฐบาลให้คำมั่นที่จะฟื้นฟูภาพลักษณ์และฟื้นความเชื่อมั่นของสาธารณะกลับคืนมา ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
โดยนับจนถึงเมื่อวันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีการเปิดปฏิบัติการปราบปรามใน 15 จังหวัดและกรุงพนมเปญ ในบรรดาผู้ที่ถูกควบคุมตัวมีชาวจีน 843 คน ชาวเวียดนาม 429 คน ชาวอินโดนีเซีย 271 คน และยังมีเชื้อชาติอื่นๆ ทั้งบังกลาเทศ เกาหลีใต้ ปากีสถาน ไทย ลาว อินเดีย เนปาล ฟิลิปปินส์และเมียนมา
อย่างไรก็ตาม สื่อของกัมพูชาไม่ได้รายงานระบุแน่ชัดว่า มีคนไทยรวมอยู่ด้วยในผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมกี่คน