ดมิทรี เมดเวเดฟ เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของรัสเซีย ออกมาบอกปัดคำขู่ “เส้นตาย 50 วัน” ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเรียกว่ามันเป็นเพียง “การแสดงละคร” หลังจากที่ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศข้อตกลงจัดส่งอาวุธเพิ่มเติมให้ยูเครนผ่าน NATO พร้อมขู่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากรัสเซีย
ขณะที่หลายประเทศ รวมถึงเดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ และสวีเดน ระบุว่าจะเข้าร่วมโครงการของสหรัฐฯ ที่ให้ประเทศสมาชิก NATO จัดซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ เพื่อส่งให้ยูเครนด้วย
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ประกาศว่าสหรัฐฯ จะส่ง "อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุด" ให้แก่ยูเครนผ่านกลุ่มประเทศนาโต พร้อมขู่จะเก็บภาษีเป็นอัตราที่สูงลิ่วกับทั้งรัสเซียและประเทศคู่ค้า หากรัสเซียไม่สามารถกลับสู่โต๊ะเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงยุติสงครามได้ภายใน 50 วัน โดยทรัมป์กล่าวภายหลังการประชุมกับนายมาร์ก รุตเต เลขาธิการนาโต ที่กรุงวอชิงตันว่า "เราต้องการให้ยูเครนสามารถทำในสิ่งที่ต้องการได้"
ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้วิจารณ์ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียด้วยถ้อยคำรุนแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พร้อมทั้งส่งสัญญาณว่าจะส่งอาวุธป้องกันตนชั้นนำให้ยูเครน แต่ขณะเดียวกันเขาก็ยังให้เวลาแก่ปูตินอีกมากถึง 50 วัน ก่อนจะเริ่มใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม CNN รายงานว่า ยังต้องรอดูต่อไปว่าการเปลี่ยนจุดยืนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่หันมาต่อต้านวลาดิเมียร์ ปูติน จะคงอยู่ยาวนานและรุนแรงแค่ไหน
ตลอดสัปดาห์นี้ ทรัมป์ได้พูดซ้ำไปซ้ำมาว่าเขาไม่เคยไว้ใจปูตินจริง ๆ โดยทรัมป์เปิดเผยที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ปูตินหลอกคนมาเยอะแล้ว และเคยหลอกทั้งอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน, อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บูช, อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา และอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่ยืนยันว่า ปูตินหลอกเขาไม่ได้หรอก
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังย้ำประเด็นนี้ในระหว่างให้สัมภาษณ์กับ BBC เมื่อนักข่าวถามว่าไว้ใจปูตินหรือไม่ เขาก็เว้นจังหวะไปพักหนึ่งก่อนจะตอบว่า ถ้าตอบตามตรง เขาแทบจะไม่ไว้ใจใครเลย
แต่จังหวะที่เขาหยุดนิ่งไปก่อนตอบ เหมือนจะบ่งบอกอะไรได้มากมาย เพราะในความเป็นจริงแล้ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทรัมป์มักกล่าวชมปูตินซ้ำ ๆ ทั้งที่มีหลักฐานมากมายคอยลดทอนความน่าเชื่อถือของตัวผู้นำรัสเซียก็ตาม
5 เดือนก่อนหน้านี้ ทรัมป์ยังเคยบอกว่าเขาไว้ใจปูตินในประเด็นสำคัญที่สุด นั่นคือความตั้งใจอยากให้ยูเครนมีสันติภาพ แต่มาตอนนี้ ทรัมป์กลับบอกว่าปูตินไม่ได้จริงใจในเรื่องนี้เลย
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยพูดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ว่า เขาเชื่อว่าปูตินอยากให้มีสันติภาพ เขารู้จักปูตินดีมาก และเขาไว้ใจปูตินในเรื่องนี้
แต่สองสัปดาห์หลังจากนั้น เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ที่ปูตินจะละเมิดข้อตกลงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งปูตินเคยทำเช่นนั้นมาแล้วหลายครั้ง ทรัมป์ก็ยังตอบว่า เขาคิดว่าปูตินจะรักษาคำพูด ก่อนจะบอกว่าตัวเองมีความผูกพันกับปูตินเพราะต่างก็เคยเจอการสอบสวนกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งในสมัยดำรงตำแหน่งแรก
ต่อมาในเดือนเมษายน นิตยสาร Time สัมภาษณ์ทรัมป์ว่า ปูตินสามารถทำให้เกิดสันติภาพได้หรือไม่ ทรัมป์ก็บอกว่าน่าจะเป็นไปได้
แต่ปัจจุบัน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า มีอยู่ 3 หรือ 4 ครั้งที่คิดว่าตกลงกับปูตินได้แล้ว แต่สุดท้ายปูตินกลับผิดคำพูดและเดินหน้าโจมตียูเครนต่อไป