14 กรกฎาคม 2568 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ตอบรับคำเชิญจากกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ขอให้เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการครั้งที่ 2 ซึ่งทรัมป์จะเดินทางเยือนพร้อมกับสุภาพสตรีหมายเลข 1 เมลาเนีย ทรัมป์ ระหว่างวันที่ 17 - 19 กันยายน และจะพักอยู่ที่พระราชวังวินเซอร์
ครั้งนี้ปราสาทวินเซอร์ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่สำหรับการเยือนอย่างเป็นทางการ เนื่องจากพระราชวังบักกิงแฮม ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานตามปกติ ยังคงอยู่ระหว่างการปรับปรุง
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งแรก ตามคำเชิญของพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ในปี 2019
การที่ประธานาธิบดีถูกเชิญให้เดินทางเยือนอย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่ 2 นั้น เรียกได้ว่าเป็นกรณีพิเศษ และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เพราะโดยธรรมเนียม ระหว่างการดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ประธานาธิบดีจะได้รับเชิญให้ดื่มน้ำชาหรือทานอาหารกลางวันร่วมกับราชวงศ์
แม้ว่ากำหนดการอย่างเป็นทางการของการเดินทางเยือนจะยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการ แต่คาดการณ์ว่าจะเป็นเช่นการเดินทางเยือนทั่วไป คือมีพิธีการต้อนรับอย่างเต็มรูปแบบ และงานเลี้ยงต้อนรับที่ห้องโถงเซนต์จอร์จในปราสาทวินเซอร์ สมาชิกราชวงศ์อาวุโสทุกคนจะมาร่วมพิธีด้วย รวมถึงเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ซึ่งประทับอยู่ในอาณาเขตปราสาท
การเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาพร้อมกับความท้าทายด้านการรักษาความปลอดภัย ดังนั้นกำหนดการระหว่างการเยือนครั้งนี้คงไม่มีกิจกรรมที่เปิดให้สาธารณชนเข้าร่วมด้วย ซึ่งระหว่างการเยือนเมื่อปี 2019 เอง ก็ไม่มีขบวนเดินทางบริเวณมอลล์ และทรัมป์ใช้การเดินทางด้วยเครื่องบินจากสถานที่ต่าง ๆ แทนการใช้รถยนต์ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
เมื่ออาทิตย์ก่อน ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ได้เดินทางเยือนพระราชวังวินเซอร์ ระหว่างการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการในครั้งแรก และถือเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษที่มีการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการที่ทำเนียบเบิร์กเชียร์ (the Berkshire residence) ระหว่างการเยือน มาครงและภรรยา บริจิตต์ มาครง ได้นั่งรถม้าผ่านเมืองวินเซอร์ด้วย
นอกจากนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ทรัมป์จะมีโอกาสได้พูดคุยกับสมาชิกรัฐสภาหรือไม่ ส่วนนี้เป็นกิจกรรมที่มักรวมอยู่ในการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการ ส่วนสภาสามัญชนจะไม่เข้าร่วมประชุมขณะที่ทรัมป์มาเยือน เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดประชุม แต่สภาขุนนางจะยังอยู่ด้วย
จดหมายเชิญจากกษัตริย์ในครั้งนี้ถูกส่งให้ประธานาธิบดีทรัมป์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยรัฐมนตรีต่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักร เซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ ที่ทำเนียบขาว เมื่อขณะทรัมป์และสตาร์เมอร์นั่งอยู่พร้อมกัน ณ ห้องทำงานรูปไข่ ทรัมป์กล่าวว่าโอกาสครั้งนี้เป็น “เกียรติที่ยิ่งใหญ่มาก” และเสริมว่า “และยังเป็นที่วินเซอร์ด้วย นี่มีความหมายนะ”
การเดินทางเยือนของทรัมป์ในเดือนกันยายน เกิดขึ้นหลายเดือนหลังกษัตริย์ชาร์ลส์เสด็จเยือนแคนาดา เพื่อทรงร่วมเปิดการประชุมรัฐสภา ซึ่งเป็นการเปิดสมัยของนายกรัฐมนตรีมาร์ก คาร์นีย์ การเสด็จเยือนในครั้งนั้น ชาวแคนาดาจำนวนมากตีความเป็นสัญญะความสนับสนุนจากสหราชอาณาจักร หลังทรัมป์เริ่มกำแพงภาษีและขู่จะทำให้แคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ
การเดินทางเยือนของทรัมป์ในครั้งนี้ จึงอาจเป็นเครื่องมือทางการทูตอันทรงพลังของรัฐบาลอังกฤษ ในการตอบโต้ประธานาธิบดีผู้มีใจสนับสนุนระบอบกษัตริย์คนนี้ ในประเด็นด้านกำแพงภาษี และสงครามในยูเครน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทรัมป์เคยกล่าวสนับสนุนกษัตริย์ชาร์ลส์
“ผมเป็นเพื่อนของชาร์ลส์ ผมเคารพกษัตริย์ชาร์ลส์ ครอบครัวเขา และวิลเลียมมาก เราเคารพครอบครัวนี้เป็นอย่างสูง”
ที่มา: BBC