สายการบินแอร์อินเดียระบุว่า ผู้โดยสาร 241 คนจากทั้งหมด 242 คนบน เครื่องบินเสียชีวิตจากเหตุเเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ตกในเมืองอัห์มดาบาด ทางตะวันตกของอินเดีย โดยมีผู้โดยสารสัญชาติอังกฤษเชื้อสายอินเดียรอดชีวิตปาฏิหารย์ 1 ราย วิดีโอเผยให้เห็นผู้รอดชีวิตคนดังกล่าว หนีออกจากซากปรักหักพังหลังจากเครื่องบินแอร์อินเดียตก ไม่ได้เป็นการกู้ชีพในขณะที่เขาหมดสติแต่อย่างใด
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า วิชวัชกุมาร ราเมช วัย 40 ปี เพิ่งจะกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดกับพี่ชายที่รัฐคุชราช ประเทศอินเดีย และได้ขึ้นเครื่องบินไฟลท์ AI 171 มุ่งหน้าสู่สนามบินแกทวิค ลอนดอน เพื่อจะกลับมายังอังกฤษ ก่อนจะประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก เขาเล่าว่าได้ยินเสียบงดังปัง! และรอบตัวเต็มไปด้วยซากปรักหักพังและผู้เสียชีวิต เขาได้สติและรีบวิ่งออกมาจากซาก ให้ไกลจากควันดำที่กำลังลอยหนาขึ้นสู่ท้องฟ้า
เบื้องต้น เขาได้รับบาดเจ็บที่หน้าอก ดวงตา และเท้า ในคลิปวีดิโอปรากฏให้เห็นว่า เขาได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและศรีษะ จนในที่สุดก็มีผู้คนแถวนั้นดึงตัวเขาไว้และพาเดินไปยังรถพยาบาลใกล้ ๆ ก่อนจะถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลท้องถิ่น ล่าสุด เขาได้รับการรักษาและอยู่ในความปลอดภัยแล้ว และอาการไม่เข้าขั้นวิกฤต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วิชวัชกุมารนั่งเก้าอี้หมายเลข 11A ซึ่งเป็นแถวแรกของชั้นอีโคโนมี ส่วนพี่ชายนั่งห่างไปด้านหลัง หลายฝ่ายคาดว่าอาจเสียชีวิตแล้ว
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 290 ราย เนื่องจากเครื่องบินตกในย่านชุมชน และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย และหอพักแพทย์ จึงมีประชาชนที่ไม่ใช่ลูกเรือเป็นเหยื่อเสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้เที่ยวบินดังกล่าวมีผู้โดยสาร 230 รายและลูกเรือ 12 ราย ซึ่งผู้โดยสารประกอบด้วยชาวอินเดีย 169 คน ชาวอังกฤษ 53 คน ชาวโปรตุเกส 7 คน และชาวแคนาดา 1 คน
กาย ลิชท์ นักวิเคราะห์ด้านการบิน มองว่า การรอดชีวิตของวิวัชกุมารเกิดขึ้นราวกับปาฏิการย์ ส่วนเหตุผลที่เขารอดอาจะไม่ใช่เพราะตำแหน่งการนั่งแถวหน้า แต่อาจเป็นเพราะตอนที่เครื่องบินตกกระแทกอย่างแรง เบาะที่นั่งของเขาบังเอิญหลุดออกจากตัวเครื่อง ทำให้เขารอดจากเพลิงที่ลุกไหม้ตลอดตัวเครื่องได้ หลัก ๆ การกระเด็นออกจากเครื่องเช่นนี้ ทำให้ร่างของเขาไม่ถูกไฟเผาและรอดชีวิตในที่สุด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการบินพลเรือนของอินเดีย เปิดเผยว่า ราม โมฮัน ไนดู คินจาราปู สำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุเครื่องบินของอินเดีย (AAIB) ได้เริ่มดำเนินการสืบสวนอย่างเป็นทางการแล้ว และขณะนี้ เจ้าหน้าที่การบินจากสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรกำลังส่งเจ้าหน้าที่สอบสวนมาสมทบ รวมถึงนักวิจัยจากทั่วทุกมุมโลกจะเข้ามามีส่วนร่วมในการสืบสวนเพื่อหาสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นในกรณีนี้
รัฐมนตรีฯ ระบุว่า “หลังจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่อาห์มดาบาด สำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศยาน (AAIB) ได้เริ่มดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นทางการตามพิธีสารระหว่างประเทศที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) กำหนดไว้ นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้จัดตั้งคณะกรรมการระดับสูงซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาวิชาเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้โดยละเอียด คณะกรรมการจะทำงานเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยด้านการบินและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต”
แมรี สเกียโว อดีตผู้ตรวจการแผ่นดินของกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ กล่าวว่า อินเดียจะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะผู้สืบสวน แต่ก็มีขั้นตอนที่กำหนดไว้ชัดเจนแล้วว่า จะต้องช่วยสนับสนุนทีมสืบสวนจากนานาประเทศด้วย เพราะเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาและการดำเนินการตามกฎหมายการสืบสวนด้านการบินระหว่างประเทศ
บริษัทโบอิ้งและจีอี แอโรสเปซกำลังลดกิจกรรมสาธารณะลง หลังจากเกิดเหตุเครื่องบินเจ็ตของแอร์อินเดียตก โดยซีอีโอของบริษัทได้ยกเลิกการเดินทางไปร่วมงานปารีส แอร์โชว์ในสัปดาห์หน้า และ GE Aerospace ผู้ผลิตเครื่องยนต์เครื่องบินซึ่งมีเครื่องยนต์อยู่ในเครื่องบินโบอิ้ง 787 ก็เลื่อนวันพบปะนักลงทุนออกไป
เคลลี ออร์ทเบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทโบอิ้งกล่าวในข้อความที่ถึงพนักงานเมื่อเย็นวันพฤหัสบดีว่า เขาและสเตฟานี โป๊ป ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทโบอิ้งพาณิชย์ได้ยกเลิกแผนที่จะเข้าร่วมงาน Paris Airshow "เพื่อที่เราจะได้อยู่กับทีมงานของเราและมุ่งเน้นไปที่ลูกค้าและการสืบสวนต่อกรณีเครื่องบินโบอิ้ง 787 ของแอร์อินเดียประสบอุบัติเหตุ
ประธานและซีอีโอของบริษัทโบอิ้งกล่าวว่า เขาได้พูดคุยกับนายเอ็น. จันทราเสการัน ประธานบริษัทแอร์อินเดีย หลังจากเกิดเหตุเครื่องบินของบริษัทตก พร้อมให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ และแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อคนที่รักของผู้โดยสารและลูกเรือบนเที่ยวบิน 171 ของแอร์อินเดีย รวมไปถึงทุกคนที่ได้รับผลกระทบในเมืองอัห์มดาบาด