ธุรกิจการตลาด

EU บังคับให้ USB-C เป็นมาตรฐาน ถึงเวลาอวสานสายชาร์จไม่เข้าพวก Apple

8 มิ.ย. 65
EU บังคับให้ USB-C เป็นมาตรฐาน ถึงเวลาอวสานสายชาร์จไม่เข้าพวก Apple

 

ถึงเวลาอวสานสายชาร์จ Apple อียูตัดสินให้ USB-C เป็นพอร์ตชาร์จมาตรฐานภายในปี 2024 หวังช่วยผู้บริโภคประหยัดเงินถึง 9,000 ล้าน


นับเป็นข่าวใหญ่ในวงการไอทีโลกที่ส่งผลกระทบต่อบริษัท Apple Inc. อย่างจัง เมื่อสหภาพยุโรป (อียู) ลงนามบังคับให้บรรดาผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ต้องใช้สายชาร์จรูปแบบเดียวกันเป็นมาตรฐานคือ USB-C โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้สิ้นปี 2024 หรือในอีก 2 ปีข้างหน้า


มติดังกล่าวนับเป็นการสร้างมาตรฐานพอร์ตชาร์จ "เป็นครั้งแรกของโลก" โดยอุปกรณ์สื่อสารแบบพกพาทั้งหมดต้องใช้หัวชาร์จแบบ USB-C เท่านั้น ตั้งแต่สมาร์ทโฟน แท็บเลต ชุดหูฟัง ไปจนถึงกล้องถ่ายรูป ภายในปี 2024 ส่วนคอมพิวเตอร์แลปท็อปนั้นจะต้องได้รับการปรับให้เข้ากับข้อกำหนด 40 เดือนหลังจากมีผลบังคับใช้


อย่างไรก็ตาม สินค้าที่ผลิตและจำหน่ายก่อนกฎดังกล่าวมีผลบังคับใช้ จะได้รับการยกเว้น โดยขั้นตอนหลังจากนี้ รัฐสภายุโรปและ 27 ประเทศในสหภาพยุโรปจะต้องลงนามและให้สัตยาบันต่อไป

iPhone

เป็นที่คาดว่ามติดังกล่าวนี้ ซึ่งมีการเริ่มผลักดันมาตั้งแต่ 10 ปีก่อน จะช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดเงินได้ประมาณ 250 ล้านยูโร หรือกว่า 9,200 ล้านบาทเลยทีเดียว และช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้มากถึงประมาณ 11,000 ตัน


แม้จะมีความกังวลว่า การบังคับใช้มาตรฐานพอร์ต USB-C อาจส่งผลกระทบต่อตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก แต่อียูเชื่อว่า สายเคเบิลมาตรฐานสำหรับอุปกรณ์ทั้งหมด จะช่วยลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้หลายพันตัน และแก้ปัญหาการร้องเรียนจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล และแบบแอนดรอยด์ ซึ่งใช้อุปกรณ์ชาร์จคนละแบบ


เป็นที่ชัดเจนว่า ข้อตกลงนี้จะส่งผลกระทบต่อ Apple มากที่สุด เนื่องจากสมาร์ทโฟนของบริษัทอย่าง iPhone มีการใช้พอร์ตและสายชาร์จแบบ Lightning ในขณะที่บริษัทผู้ผลิตรายอื่นๆ เกือบทั้งหมด ใช้พอร์ตแบบ USB-C กันเกือบหมดแล้ว

สายชาร์จ Lightningสายชาร์จ Lightning / USB-C


ก่อนหน้านี้ แอปเปิลเองมีการปรับตัวเรื่องพอร์ตและสายชาร์จมาแล้วตั้งแต่ปี 2015 โดยมีการทำพอร์ตชาร์จแบบ USB-C ในคอมพิวเตอร์ MacBook และเริ่มปรับใช้ใน iPad ในปี 2018 แต่ยังไม่มีการเปลี่ยนในส่วนของ iPhone แต่อย่างใด

advertisement

SPOTLIGHT