ความยั่งยืน

ไม่จ่ายค่าไฟ 10 ปี! หญิงญี่ปุ่นคนนี้ทำยังไง ถึงลดใช้พลังงานได้ยั่งยืน

23 ก.ย. 65
ไม่จ่ายค่าไฟ 10 ปี! หญิงญี่ปุ่นคนนี้ทำยังไง ถึงลดใช้พลังงานได้ยั่งยืน

ในยุคที่เงินเฟ้อของแพงแบบนี้ จะดีแค่ไหนหากเรา ‘เป็นอิสระจากค่าไฟ’ ที่พุ่งขึ้นจนเพิ่มภาระทางการเงินให้เราแบกจนหลังแอ่นกันอยู่ในตอนนี้ ถึงแม้สำหรับหลายๆ คน การไม่จ่ายค่าไฟนี้อาจเป็นเรื่อง ‘เป็นไปไม่ได้’ เพราะในโลกสมัยใหม่ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ใครๆ ก็ต้องใช้ไฟฟ้าไม่มากก็น้อย

แต่ถึงจะดูเป็นไปได้ยากขนาดไหน ก็มีหญิงชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งทำสำเร็จแล้ว เพราะเธอไม่ต้องจ่ายค่าไฟมานานถึง ‘10 ปี’ ทั้งๆ ที่เป็นคนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่แห่งแสงสีอย่าง ‘โตเกียว’ 

และอุปกรณ์ที่เธอใช้ก็ไม่ได้มีอะไรไฮเทคล้ำเลิศ มีเพียง ‘แผงโซลาร์เซลล์’ ที่ตอนนี้ใครๆ ก็หาซื้อได้ และจักรยานปั่นไฟที่อาจจะต้องลงทุนจ้างช่างมาติดตั้งให้เล็กน้อย กับการจำกัดจำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าให้น้อยที่สุด เพราะเธอไม่มีแม้แต่ โทรทัศน์ เตาอบ เครื่องซักผ้า หรือ เครื่องปรับอากาศ

แต่ถึงแม้ไลฟ์สไตล์ของเธอจะเรียกได้ว่าสุดโต่งจนทำได้ยากไปหน่อย ในยุคที่ค่าไฟพุ่งแบบนี้ การเรียนรู้ที่จะ ลด ละ เลิก การใช้ไฟฟ้าบ้างก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่จะลดภาระทางการเงินของตัวเอง

ในบทความนี้ทีมข่าว Spotlight จึงอยากชวนทุกคนมาดูกันว่าเธอคนนี้เป็นใครและทำอย่างไรจึงปลดปล่อยตัวเองจากค่าไฟสำเร็จ เพราะถึงเราจะทำตามเธอไม่ได้ทั้งหมด เราก็อาจจะได้ทริคประหยัดไฟเล็กๆ น้อยๆ มาปฏิบัติตามได้บ้างก็ได้

 

แนวคิด ECO ที่เกิดขึ้นมาในช่วงที่ไฟฟ้าจากรัฐ ‘พึ่งไม่ได้’

หญิงชาวญี่ปุ่นคนนี้ชื่อ ชิคาโกะ ฟูจิ อายุ 62 ปี ปัจจุบันมีอาชีพเป็นนักย้อมผ้า และอาศัยอยู่ในกรุงโตเกียว

jpw8

เธอเล่าว่าสาเหตุที่เธอตัดสินใจใช้แผงโซลาร์เซลล์เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าหลักแทนที่จะรับไฟฟ้ามาจากทางการคือเหตุการณ์แผ่นดินไหวปี 2011 ที่ทำให้ทางการต้องงดจ่ายไฟหลายครั้ง ทำให้เธอเห็นความจำเป็นของการมีแหล่งผลิตไฟฟ้าสำรองที่ไม่ได้มาจากหน่วยงานของทางการเพื่อใช้ในเหตุฉุกเฉิน

หลังจากนั้นเป็นต้นมาเธอจึงเริ่มซื้อแผงโซลาร์เซลล์มาติดตั้งไว้ในที่พัก ซึ่งเธอเล่าว่าผลิตไฟฟ้าได้เฉลี่ยวันละ 1000 วัตต์ หรือ 1 กิโลวัตต์ ที่เพียงพอให้เธอใช้ไปได้ 2-3 วัน 

screenshot2565-09-23at12._1

แต่ถ้าวันไหนไม่ค่อยมีแสง ทำให้แผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าได้น้อยเธอก็จะปั่นจักรยานเพื่อผลิตไฟมาเก็บไว้ใช้ ที่ปั่นเพียง 10 นาทีก็จะได้ไฟฟ้า 10 วัตต์ที่พอให้หลอดไฟติดไป 2-3 ชั่วโมง

แต่ด้วยความที่แผงโซลาร์เซลล์เหล่านี้ยังผลิตไฟฟ้าได้ไม่พอกับเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ ก็จะทำให้มีบางกิจกรรมในชีวิตประจำวันเช่นกันที่เธอไม่ใช้ไฟฟ้าเลย เช่น การทำอาหาร และการซักผ้า

สำหรับ ‘การทำอาหาร’ อุปกรณ์ที่เธอใช้ประจำก็คือ หม้อทำอาหารเล็กๆ และแผงสะท้อนแสงดูดความร้อน และถ้าเธออยากอบอะไรให้สุก เธอก็จะปรุงและนำวัตถุดิบเหล่านั้นใส่หม้อและเอาไปผึ่งแดด โดยเธอเล่าว่าในวันที่แดดจัดๆ ปลาชิ้นหนึ่งจะสุกได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมง ในขณะที่อกไก่จะสุกได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง

screenshot2565-09-23at13.

แต่ถ้าต้องการจะหุงข้าวหรืออบขนมที่ต้องใช้ความร้อนมากขึ้น เธอจะใช้ ‘หม้ออบโซลาร์เซลล์’ ไปวางไว้กลางแดด นอกจากนี้หากต้องการอุ่นอาหารบางทีเธอก็ใช้วิธีตั้งเตาแล้วใช้เทียนจุดให้ความร้อน

หรือถ้าหากจะ ‘ซักผ้า’ เธอก็ใช้วิธีการ ‘ซักมือ’ แล้ว ‘ปั่นแห้ง’ โดยนำผ้าลงไปปั่นใน ‘ตะกร้าสลัดน้ำออกจากผัก’ ขนาดเล็ก จนหมาดแล้วเอาไปผึ่งแดดให้แห้ง 

jpw3

 

ไลฟ์สไตล์ที่ ‘ประหยัดเงิน’ แต่ ‘ไม่ง่าย’

แต่ถึงแม้ไลฟ์สไตล์แบบนี้จะทำให้เธอไม่ต้องจ่ายค่าไฟมาแล้ว 10 ปี และทำให้เธอมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตแบบที่ไม่ทำร้ายโลก ชิคาโกะก็ยอมรับว่าไลฟ์สไตล์แบบนี้นั้น ‘ไม่ง่าย’ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ภาวะโลกร้อนทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นจนการไม่มีตู้เย็นหรือเครื่องปรับอากาศเลยทำให้เธอใช้ชีวิตลำบาก

โดยล่าสุดเธอก็ได้ตัดสินใจซื้อตู้เย็นที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาใช้แล้วเพราะคิดว่าตัวเองจำเป็นต้องมีเครื่องดื่มเย็นติดบ้านไว้ดับร้อนบ้าง นอกจากนี้เธอยังคิดด้วยว่าอาจจะต้องเลิกใช้ชีวิตแบบรักษ์โลกแบบนี้เพราะเธอเองก็แก่แล้วและอาจต้องยอมให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามาเป็นเครื่องทุ่นแรงในการใช้ชีวิต

อย่างไรก็ตาม เธอก็ยืนยันว่าจะใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปเท่าที่ยังไหว เพราะเธอชอบที่มันลดการปล่อยมลพิษให้กับโลก และชอบรสชาติของอาหารที่ทำให้สุกโดยพลังแสงอาทิตย์ เพราะมันอร่อยกว่าอาหารที่สุกโดยแก๊สหรือไฟฟ้า

jpw7

แต่ถึงแม้ชิคาโกะจะใช้ชีวิตแบบนั้นได้อย่างมีความสุข หากย้อนกลับมาดูที่ประเทศไทย การใช้ชีวิตแบบนี้ก็อาจเป็นเรื่องไม่ง่ายนักเพราะอากาศประเทศไทยนั้น ‘ร้อน’ มากจนทุกคนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้หากขาดเครื่องปรับอากาศหรือพัดลม อีกทั้งยังมีปัญหามลพิษที่อาจทำให้การเอาอาหารไปผึ่งแดดผึ่งลมไม่ใช่เรื่องฉลาด

แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเราไม่สามารถปรับวิถีการใช้ชีวิตของตัวเองได้เลย เพราะหากใครมีเงินเหลือ การลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์หรือลดการใช้ไฟฟ้าในบางกิจกรรมก็ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดี เพราะนอกจากมันจะทำให้ค่าไฟเราลดลงได้ด้วยตัวเองแล้ว ยังเป็นการฝึกตัวเองให้ประหยัดพลังงาน ลดการปล่อยมลพิษทำร้ายโลกในระยะยาวอีกด้วย




ที่มา: Euronews




advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT