การทำงานหนัก และอยู่ท่ามกลางสังคมที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดของประเทศญี่ปุ่น นำไปสู่การพบเรื่องน่าเศร้าตามมา นั่นคือการเสียชีวิตจากการทำงาน หรือที่เรียกกันว่าโรค “คาโรชิ”
ตัวเลขของทางการญี่ปุ่นระบุว่า ในแต่ละปี มีชาวญีปุ่่นหลายร้อยคนที่เสียชีวิตจากอาการหัวใจล้มเหลว เส้นเลือดในสมองแตก และการฆ่าตัวตายจากการทำงานหนักมาจนเกินไป โดยทั้งหมดนี้ ถูกระบุว่าเป็นคาโรชิ
ตามกฎหมายกระทรวงแรงงานของญี่ปุ่น ระบุเอาไว้ว่า ชั่วโมงทำงานของญี่ปุ่นคือ 40 ขั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือ 8 ชั่วโมงต่อวัน ยกเว้นธุรกิจบางประเภท เช่น การค้าปลีกหรือบริการสร้างความบันเทิง ที่ขยายให้เป็น 44 ขั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่โดยรวมแล้ว ชาวญี่ปุ่นมีชั่วโมงทำงานเฉลี่ย 1,736 ชั่วโมง ในปี 2024
อย่างไรก็ตาม หลายอาชีพทำงานหนักเกินกว่านั้น เช่น อาชีพครู รายงาน OECD ในปี 2018 พบว่า ครูรร.มัธยมของญี่ปุ่นทำงาน 56 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ทำเฉลี่ย 38 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และตัวเลขนี้ยังไม่รวมชั่วโมงล่วงเวลาที่มหาศาล
ในปี 2025 ตัวเลขนี้ก็ยังไม่ดีขึ้นเลย ผลสำรวจของสำนักพิมพ์โชกาคุกันพบว่า คุณครูญี่ปุ่นมากกว่า 80% ทำงานเกิน 10 ชั่วโมงต่อวัน คุณครูบอกว่าพวกเขาทำงานโดยเฉลี่ยราว 11 ชั่วโมงต่อวัน ยิ่งไปกว่านั้นคุณครู 1 ใน 4 บอกว่า ตนเองทำงานมากกว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน
ขณะที่การสำรวจของสหภาพแรงงานพบว่า ครูญี่ปุ่นทำงานชั่วโมงล่วงเวลาเฉลี่ย 123 ชั่วโมงต่อเดือน ทำให้ชั่วโมงการทำงานรวมเกิน 80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวเลขแสนอันตรายที่มีการระบุว่า หากทำงานเกิน 80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์แล้ว คุณก็มีโอกาสเป็นโรคคาโรชิ หรือการทำงานหนักเกินขีดจำกัดจนเสียชีวิตได้ง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูชั่วโมงทำงานของชาวญี่ปุ่นกลับพบว่า ชั่วโมงการทำงานประจำปีของชาวญี่ปุ่น ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากเมื่อปี 2000 ชั่วโมงการทำงานต่อปีของชาวญี่ปุ่นอยู่ที่ 1,839 โดยลดลงเหลือเฉลี่ย 1,736 ชั่วโมง ในปี 2024
นั่นก็เพราะหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ชาวญี่ปุ่น กำลังหันหลังให้กับวัฒนธรรมการทำงานแบบเก่า ที่ต้องทำงานหนัก ทำงานจนดึกดื่น หรือทำโอที และต้องไม่ย้ายงานบ่อย ดังนั้นเราจึงได้เห็นภาพชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก ทำงานอยู่ที่เดิมจนเกษียณ แม้เงินเดือนจะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่าที่ควรก็ตาม แต่เพราะสมัยก่อนชาวญี่ปุ่นมักมองคนที่ย้ายงานบ่อย ๆ ไม่ดี มองว่าเป็นคนมีปัญหา
ปัจจุบัน ชั่วโมงการทำงานของชาวญี่ปุ่นลดลงมาแล้ว หากเทียบกับเมื่อสิบ ยี่สิบ หรือสามสิบปีก่อน ซึ่งสะท้อนว่า วัฒนธรรมและค่านิยมบางอย่าง ก็ต้องใช้เวลาในการเยียวยา