Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
จากวิกฤตโลกรวนสู่ภัยพิบัติ มนุษย์ไม่มีทางชนะแล้วเรายังเหลือทางรอดไหม ?
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

จากวิกฤตโลกรวนสู่ภัยพิบัติ มนุษย์ไม่มีทางชนะแล้วเรายังเหลือทางรอดไหม ?

30 ก.ย. 68
12:40 น.
แชร์

ความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศน่าจะทำให้เราทุกคนสัมผัสได้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นฝนที่ตกหนักขึ้น ความเสี่ยงของการเจอน้ำท่วมบ่อยครั้ง หรือในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเราก็กำลังจะเจอกับฝุ่นPm 2.5 และพอเข้าหน้าร้อนอากาศก็จะร้อนขึ้นทุกปี

และไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะใด ร่ำรวยหรือยากจนแค่ไหนทุกคนบนโลกล้วนต้องเผชิญกับ ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกันทุกคนและในบางครั้งสถานการณ์ก็หนักหนาสาหัสจนกลายเป็นภัยพิบัติ ที่สร้างความเสียหาย ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม

บทความนี้ SPOTLIGHT สรุปมุมมองเรื่อง From Climate change to Disaster จากวิกฤตภูมิอากาศสู่ภัยพิบัติ บนเวที Talk Stage จากงาน SX2025 โดยมีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ คุณปวิช เกศวงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม, ศาสตราจารย์ ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล Director, Climate Economy Agenda, ดร.กรรณิการ์ เฉิน รองผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ และ คุณกรุณา บัวคำศรี ผู้สื่อข่าวและผู้ผลิตสารคดีด้านสิ่งแวดล้อม

ภัยพิบัติรุนแรงขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์

เหตุการณ์ภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น ต้องยอมรับว่ามนุษย์มีส่วนทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นด้วย ซึ่งความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เช่น น้ำท่วม พายุถล่ม ความแห้งแล้ง คลื่นความร้อน ไฟป่า

  • อุทกภัย : น้ำท่วม, น้ำป่าไหลหลาก เขื่อนแตก
  • อุตุนิยมวิทยา : พายุหมุนเขตร้อน ไต้ฝุ่น เฮอร์ริเคน
  • ภูมิอากาศวิทยา : ภัยแล้ง คลื่นความร้อน ไฟป่า
  • น้ำแข็งและหิมะ : ธารน้ำแข็งละลาย ดินเยือกแข็งละลาย หิมะถล่ม
  • ภัยพิบัติซ้อน : เหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดพร้อมกัน เช่นพายุ + น้ำท่วม + ดินถล่ม

ผลกระทบต่อมนุษย์

  • ผู้เสียชีวิต ปี 2000- 2019 มีผู้เสียชีวิตกว่า 1.23 ล้านคน จากภัยพิบัติด้านภูมิอากาศ
  • ผู้ได้รับผลกระทบ กว่า 4.2 พันล้านคน (บาดเจ็บ, สูญเสียบ้าน, ต้องอพยพ)

เหตุการณ์สำคัญล่าสุด

  • คลื่นความร้อนยุโรป ปี 2022-2030คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิต มากกว่า 60,000 คนในยุโรป
  • น้ำท่วมปากีสถาน ปี 2022 ส่งผลให้ประชาชน 33 ล้านคนได้รับผลกระทบ

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

  • ค่าเสียหายจากภัยพิบัติทั่วโลก (เฉลี่ยต่อปี) ทางตรง : $202 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี ถ้ารวมทางอ้อม เกือบ $2.3 ล้านล้าน/ปี

เหตุการณ์ภัยธรรมชาติครั้งใหญ่

  • น้ำท่วมใหญ่ 2011  : ความเสียหายประมาณ $45 พันล้านสหรัฐ (ประมาณ 13% ของ GDP ไทย)
  • พายุ Hurricane Harvey ที่สหรัฐอเมริกา 2017 :  ความเสียหายประมาณ $125พันล้านสหรัฐ
  • น้ำท่วมปากีสถาน 2022 : ความเสียหายประมาณ $45 พันล้านสหรัฐ (ประมาณ 10% ของ GDP ไทย)

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

  • ไฟป่าออสเตรเลีย ปี 2019-2020 ฆ่าสัตว์ประมาณ 3,000 ล้านตัว, ปล่อนก๊าซเรือนกระจกกว่า 400 MtCO2
  • ปะการังฟอกขาว (Great Barrier Reef) เกิดซ้ำ 4 ครั้งใน 7 ปีที่ผ่านมา (2016-2022) คุกคาม 25% ของสิ่งมีชีวิตทะเล
  • การละลายของธารน้ำแข็ง ระหว่างปี 2000-2020 โลกสูญเสียน้ำแข็งเฉลี่ยประมาณ 270 กิกะตัน/ปี

ความเสี่ยงในอนาคต

  • ความจนและความเหลื่อมล้ำ ภายในปี 2050 อาจมีคนจนเพิ่มอีก 132 ล้านคน เพราะ climate disaster
  • ประชากรชายฝั่ง ภายในปี 2100 อาจมีคนถึง 16 พันล้านคน เสี่ยงต่อน้ำท่วมชายฝั่งจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
  • ระบบอาหาร (Food Security) ภัยแล้ง + คลื่นความร้อน = ทำให้ผลผลิตข้าวโพด ข้าวสาลีลดลง 5-10% ต่อทศวรรษในหลายภูมิภาค
  • ระบบพลังงาน (Energy Security) เขื่อนผลิตไฟฟ้าน้ำ เช่น ลาว ไทย เวียดนาม มีความเสี่ยงจากภัยแล้ง ทำให้กำลังผลิตฟ้าลดลง 20-30% ในบางปี

กรุงเทพฯ – สมุทรปราการ เสี่ยงเจอน้ำท่วมซ้ำซาก

คุณปวิช เกศวงศ์ เปิดเผยสถิติที่น่าตกใจว่า ประเทศไทย ตั้งอยู่บนพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่ดีมีความอุดมสมบูรณ์ แต่ตอนนี้ประเทศไทยติดอันดับ 9 ประเทศเปราะบาง เสี่ยงได้รับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศสุดขั้ว เช่น อุณหภูมิสูง ภัยแล้ง หรือน้ำท่วมหนัก

‘แต่ก่อนเราคงได้ยินกันว่า เราต้องควบคุมอุณหภูมิไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเชียล แต่ตอนนี้ 1.75 เกือบ 2 องศาเซลเชียลแล้ว ระดับน้ำทะเลก็สูงขึ้นตลอด นั่นแปลว่า คนที่จังหวัดสมุทรปราการจะอยู่ไม่ได้ ส่วนกรุงเทพฯไม่ต้องพูดถึง เพราะน้ำท่วมแน่นอน ตอนนี้เราคงไม่ตั้งคำถามว่าท่วมหรือไม่ แต่ต้องเปลี่ยนเป็นเราจะเตรียมรับมืออย่างไร และเราจะรอดอย่างไรมากกว่า’

ส่วนคุณกรุณา บัวคำศรี แสดงความกังวลใจที่ระบบนิเวศขนาดใหญ่ อย่าง ป่าอะเมซอน ธารน้ำแข็งอาร์กติก ที่พยุงสุขภาพโลกไว้อาจจะพังลงสู่จุดพลิกผัน (tipping point) ในระดับที่โลกทั้งระบบจะเปลี่ยนไปอย่างไม่อาจหวนคืน

เราทุกคนควรมีความเข้าใจต่อ Climate Literacy

ศาสตราจารย์ ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล ได้ชูประเด็นถึง Climate Literacy หรือ ความรู้ความเข้าใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ว่าเราทุกคนควรต้องมีความเข้าใจ ตระหนักรู้ถึงปัญหา

“ประชาชนทุกคนกว่า 8 พันล้านคนทั่วโลก ควรมีความรู้ ความเข้าใจอย่างถูกต้อง หรือเรียกง่ายๆว่า Climate Literacy เช่นตอนนี้คำว่าภัยพิบัติของแต่ละคนยังตีความไม่เหมือนกัน เพราะถ้าคนไม่รู้ ก็จะงงเวลาเกิดอะไรขึ้น โทษลมโทษฟ้าไปเรื่อย จนสุดท้ายเอาตัวไม่รอด”

โดยยกตัวอย่างว่า คนกรุงเทพฯ – สมุทรปรากร ต้องรู้ 3 เรื่อง 1.ข้อมูลระบบน้ำทะเล / อุณหภูมิเฉลี่ยพื้นที่ที่อาศัย 2.สถานที่ที่เราอยู่มีการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์เท่าไร 3.อดีตที่ผ่านมาจุดไหนเคยเกิดภัยพิบัติ ได้รับผลกระทบ และเรายังใช้ชีวิตเหมือนเดิมไหม

มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม ต้องอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน

ดร.กรรณิการ์ เฉิน ได้แชร์มุมมองว่า ปัญหาโลกร้อน โลกรวน หลายๆคนมองว่า เป็นเพียงการเกิดลมแรง อากาศแปรปวน น้ำท่วม มีพายุ แต่แท้จริงแล้วเรื่องนี้ส่งผลต่อความมั่งคงทางอาหาร เช่น บางพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคเหนือ ฝนตกลดลง บางพื้นที่ฝนตกมากเกิน และแทนที่เราจะทำการเกษตรและได้ผลผลิตเหมือนเดิม แต่ปริมาณผลผลิตกลับลดลง

หรือแม้แต่ปัญหาผึ้ง ที่ตอนนี้เหลือน้อยเต็มทีบางคนอาจเป็นเรื่องเล็กแต่จริงๆแล้วผึ้งมีความสำคัญอย่างมากต่อระบบธรรมชาติ หรือแม้แต่ยุงที่อดีตเคยเป็นสัตว์ที่อยู่ในเขตร้อน แต่ตอนนี้บางพื้นที่ที่ไม่เคยมียุงก็กลับได้เห็น เพราะสัตว์ที่อยู่บนเทือกเขาก็เริ่มโดนยุ่งกัด และพอสัตว์ป่วยก็ทำให้เกิดโรคระบาด

นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่ทั้ง 4 ท่านมาร่วมพูดคุยกันในงาน SX2025 ถึงปัญหาทางด้านสภาพภูมิอากาศที่อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่ทุกคนคิด ชีวิตของเรา โลกของเราจะเป็นอย่างไรก็ต่อไป..จะว่าไปเราทุกคนคือตัวแปรสำคัญ

แชร์
จากวิกฤตโลกรวนสู่ภัยพิบัติ มนุษย์ไม่มีทางชนะแล้วเรายังเหลือทางรอดไหม ?