วิมานหนาม ภาพยนตร์ไทยเรื่องใหม่จาก GDH ที่ได้แรงบันดาลใจการสร้างภาพยนต์จากความไม่เท่าเทียมทางสังคมในเรื่องเพศ บอกเล่าเรื่องราวความรักของ LGBTQ+ ที่เต็มไปด้วยอุปสรรคทางกฎหมาย ในวันที่เพศเดียวกันยังไม่สามารถแต่งงานกันได้ และในวันที่พวกเขาตายจากกันในสถานะของคู่รัก (ทางจิตใจ) แต่อย่างไรก็ไม่ใช่คู่สมรส (ทางกฎหมาย) และเมื่อไม่มีอะไรมารองรับ สิทธิที่พึงจะได้ก็อาจถูกช่วงชิงไปด้วยกฎหมาย ล่าสุดได้สร้างปรากฎการณ์ กวาดรายได้ทะลุ 50 ล้านบาททั่วประเทศ หลังเข้าฉายเพียงแค่ 5 วันเท่านั้น
แม้ว่าปัจจุบันประเทศไทยของเรา จะมีพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่กลุ่มคู่รัก LGBTQ+ สามารถไปจดทะเบียนเป็นคู่สมรสกันได้อย่างถูกกฏหมาย มีสิทธิในการสมรสที่ครอบคลุมทุกมิติเหมือนกับชาย-หญิง แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องน่าเศร้า หากชีวิตใครต้องพบเจอปัญหาและอุปสรรคเหมือนกับตัวละครในวิมานหนาม เราก็คงทำได้เพียงน้อยใจในโชคชะตา เพราะ ต่อให้กฎหมายสมรสเท่าเทียมออกมาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ในเมื่อกฎหมายไม่มีผลย้อนหลัง
บทความนี้ SPOTLIGHT ชวนทุกคนมาตั้งคำถามเรื่องราวของสังคมไทย ผ่านภาพยนต์ วิมานหนาม ที่สะท้อนผ่านความเหลื่อมล้ำทางเพศ ทรัพย์สมบัติที่ร่วมสร้างกันมากับคนที่รัก กำลังจะสูญเสียไป เพราะการที่ไม่มีสิทธิ์ทางกฎหมาย ปัญหาความยากจน และความเชื่อในการเลี้ยงลูกในสังคมไทย
วิมานหนาม เรื่องราวความเหลื่อมล้ำ สะท้อนผ่านตัวละคร
วิมานหนาม ภาพยนต์ที่บอกเล่าเรื่องราวความรักของ ชาย-ชาย คู่นึงที่ช่วยกันทำสวนทุเรียนมาเป็นระยะเวลา 5 ปี บนที่ดินติดจำนองของเสกสรร โดยทั้งคู่ได้มีการแบ่งงานกันอย่างชัดเจน เสกสรรเป็นฝ่ายลงแรงทำสวนทุเรียน ส่วนทองคำเป็นฝ่ายดูแลภาพรวมและลงเงิน
เมื่อความรักของทั้งคู่สุกงอม ผลของทุเรียนก็ใกล้จะงอกเงยออกมาเป็นเงินในอีกไม่ช้า ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกัน ทองคำตัดสินใจนำเงินที่มีทั้งหมดไถ่ถอนที่ดินติดจำนอง จนได้มาซึ่งโฉนดที่ดิน ในตอนนั้น LGBTQ+ ไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ ทำให้โฉนดที่ดินสวนทุเรียน เปรียบเสมือนทะเบียนสมรสของทั้งคู่ที่แปะฝาบ้านไว้
แต่โชคชะตาก็กลั่นแกล้งในข้ามคืน เมื่อเสกสรรเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ทำให้ที่ดิน สวน บ้าน ที่เป็นชื่อของเสกสรร ต้องตกไปเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้สืบสันดานตามลำดับของกฎหมายนั่นคือ ‘แม่แสง’ แม่ของเสกสรร
กลายเป็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เสกสรรและทองคำ ทำมาด้วยกันศูนย์เปล่า ทองดำไม่มีสิทธิอะไรเลยตามกฎหมายแม้กระทั่งแหวนแต่งงานที่เป็นหลักฐานของความรักของทั้งคู่
กฎหมายสมรสเท่าเทียม
ในภาพยนต์ วิมานหนาม สะท้อนให้เห็นว่า คู่รักเพศเดียวกันไม่สามารถใช้สิทธิต่างๆ เท่ากับ คู่รักต่างเพศได้
เช่น
-
สิทธิในการตัดสินใจแทนทางการแพทย์ : เมื่อเสกสรร ประสบอุบัติเหตุต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน แต่คู่รักอย่างทองคำ ไม่มีสิทธิในการเซ็นอนุญาติให้คุณหมอผ่าตัดเนื่องจากสถานะของพวกเขาเป็นเพียงแค่ ‘เพื่อน’ ทำให้การผ่าตัดของเสกสรรต้องรอคอยการเซ็นอนุญาติจากแม่แสง แพทย์ถึงจะทำการผ่าตัดให้
-
สิทธิการรับมรดก : ในวันที่เสกสรรเสียชีวิต ทองคำที่เป็นคู่รักไม่มีสิทธิได้รับมรดกอะไรเลย เนื่องจากชื่อของที่ดินสวนทุเรียน ไปจนถึงบ้านเป็นชื่อของเสกสรร ทำให้มรดกนี้กลายเป็นของแม่แสงโดยปริยาย
ความยากจน
“รวยกระจุก จนกระจาย” ความยากจน ปัญหาเชิงโครงสร้างที่อยู่กับประเทศไทยมาเป็นเวลายาวนานโดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัด
ในภาพยนต์ วิมานหนาม ตัวละคร แม่แสง และ โหม๋ (ลูกบุญธรรม ที่ไม่ได้รับรองด้วยกฎหมาย) ต้องอยู่ด้วยความยากลำบาก ดิ้นรนทุกวิธีทางเพื่อความอยู่รอด ชีวิตที่ต้องนอนบ้านหลังคามุง เก็บกะหล่ำปีเลี้ยงชีพ ขี่มอเตอร์ไซค์ไปโรงพยาบาล
แม่แสง และ โหม๋ ได้ต่อสู้ดิ้นรนทุกวิธีทางเพื่อให้ได้ ที่ดินสวนทุเรียน และบ้านหลังคาสังกะสี ของเสกสรร แม้ว่าความจริงแล้วจะรู้อยู่เต็มอกว่า เสกสรร สร้างทุกอย่างกับมาทองคำ
ลูก คือ สมบัติของพ่อแม่ / ภรรยา คือ สมบัติของสามี
หลายๆคน คงเคยได้ยินประโยคว่า ‘มีลูกไว้ดูแลยามแก่เฒ่า’ ในภาพยนต์ วิมานหนาม แม่แสงมองว่า เสกสรร ลูกชายของเธอคือสมบัติชิ้นเดียวที่เธอมี เพราะต้องผ่านการลงทุนทั้งแรงกายและแรงใจจากผู้หญิงคนหนึ่ง ดังนั้นเมื่อลูกชายของเธอเสียชีวิตไป สมบัติที่เป็นของลูกเธอ ก็สมควรที่ตกเป็นไปของเธอโดยปริยาย แม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นผู้สร้างใดๆเลย
นอกจากนี้ เรายังได้เห็นแนวคิดเกาะชายผ้าเหลืองไปสวรรค์ความเชื่อที่หวังพึ่งพาผลบุญจากผู้บวชเป็นพระภิกษุสามเณร อย่าง ประเพณีปอยส่างลอง หรือ ประเพณีบวชลูก จากกรณีที่ทองคำบวชให้แม่แสงแทนเสกสรรที่ได้เสียชีวิตไปก่อนหน้า
โหม๋ หญิงสาวที่แม้ไม่ได้เป็นลูกสาวของแม่แสง แต่กลับต้องดูแลแม่แสงที่เดินไม่ได้กว่า 20 ปีแทนเสกสรร ในเรื่องนี้โหม๋เป็นเหมือนสมบัติที่ตกทอดผ่านเสกสรรที่มีฐานะเป็นสามี (ที่โดนหลอก) ที่ต้องรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลแม่แสง แต่เรื่องน่าเศร้าอยู่ตรงที่โหม๋ไม่ได้มีเอกสารยืนยันความเป็นบุตรบุญธรรมของแม่แสง นั้นแปลว่าหากแม่แสงเสียชีวิต โหม๋ก็จะมีสถานะเหมือนทองคำ ที่ไม่สามารถรับมรดกใดๆเลย
อ้างอิง : ilaw